หุ้นน้องใหม่ EURO เปิดซื้อขายวันแรก ต่ำจองลบ 13.21%

หุ้นน้องใหม่ EURO เปิดซื้อขายวันแรก ต่ำจองลบ 13.21%

หุ้นน้องใหม่ EURO เปิดซื้อขายวันแรก ต่ำจองลบ 13.21% หรือระดับราคาอยู่ที่ 9.20 บาท จากราคาไอพีโอ 10.60 บาท

ความเคลื่อนไหวราคาหุ้นน้องใหม่ EURO หรือ บริษัท ยูโร ครีเอชั่นส์ จำกัด (มหาชน) เปิดซื้อขายวันแรก ต่ำจองลบ 13.21% หรือระดับราคาอยู่ที่ 9.20 บาท จากราคาไอพีโอ 10.60 บาท ราคาต่ำสุด 9.10 บาท สูงสุด 9.80 บาท มูลค่าการซื้อขาย 272.98 ล้านบาท 
 

หุ้นน้องใหม่ EURO เปิดซื้อขายวันแรก ต่ำจองลบ 13.21% เควิน กัมบีร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ยูโร ครีเอชั่นส์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัท วางแผนขยายธุรกิจเพื่อเพิ่มศักยภาพการเติบโตอย่างต่อเนื่อง หลังจากที่ได้เข้าจดทะเบียน และซื้อขายหลักทรัพย์วันแรกในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ แล้ว (14 กุมภาพันธ์ 2567) โดยใช้ชื่อย่อ “EURO” ในการซื้อขายหลักทรัพย์ ซึ่งนับเป็นก้าวสำคัญของการเพิ่มศักยภาพความแข็งแกร่งด้านฐานะทางการเงินเพื่อรองรับแผนขยายธุรกิจ ซึ่งปัจจุบันบริษัท เป็นหนึ่งในผู้เชี่ยวชาญธุรกิจ “Luxurious & High Quality Living” ตัวแทนนำเข้า และจัดจำหน่ายอย่างเป็นทางการสำหรับสินค้าแบรนด์ชั้นนำระดับลักซ์ชัวรี่ที่หลากหลาย ครอบคลุมเฟอร์นิเจอร์ สินค้าตกแต่ง อุปกรณ์ฟิตเนส และผลิตภัณฑ์อื่นๆ ได้แก่ ผลิตภัณฑ์สำหรับห้องน้ำ โคมไฟ และอุปกรณ์ควบคุมอัจฉริยะ วัสดุปูพื้น รวม 29 แบรนด์ พร้อมบริการตั้งแต่ขั้นตอนการออกแบบจนถึงบริการหลังการขายอย่างครบวงจรแบบวันสต็อปโซลูชัน

บริษัท จะนำเงินทุนที่ได้รับจากการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุน (IPO) ไปใช้ก่อสร้างโชว์รูม Euro Creations 3 แห่ง ได้แก่ สาขาภูเก็ต ซึ่งคาดว่าจะเปิดบริการภายในไตรมาสแรกปี 2567 เร็วกว่าที่คาดไว้ สาขาทองหล่อ ซอย 5 ซึ่งคาดว่าจะเปิดบริการไตรมาส 2 ปี 2567 และสาขาทองหล่อ ซอย 1 ซึ่งคาดว่าจะเปิดบริการไตรมาส 4 ปี 2569 นำไปชำระเงินกู้จากสถาบันการเงินเพื่อก่อสร้างโชว์รูมใหม่ และชำระเงินกู้ยืมระยะสั้นที่ใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน รวมถึงเป็นเงินทุนหมุนเวียนในกิจการ และการขยายธุรกิจ

ทั้งนี้ บริษัท วางแผนมุ่งเน้นขยายผลิตภัณฑ์และตลาดใหม่ที่มีศักยภาพสูง ได้แก่ 

1) การเจาะตลาดจากผลิตภัณฑ์ในปัจจุบัน ด้วยการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึกเพื่อเพิ่มศักยภาพการขายและการทำตลาด รวมถึงนำเสนอบริการที่ดีที่สุดเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าแต่ละราย 

2) ขยายตลาดไปยังพื้นที่ใหม่ที่มีศักยภาพ เช่น ภูเก็ต ซึ่งเป็นเมืองท่องเที่ยวชั้นนำที่มีโครงการอสังหาริมทรัพย์ระดับลักซ์ชัวรี่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง 

3) เพิ่มความหลากหลายของผลิตภัณฑ์เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าเดิมได้ดียิ่งขึ้น และ 

4) คัดสรรผลิตภัณฑ์ใหม่เพื่อขยายฐานลูกค้าระดับพรีเมียม และขยายสินค้าใหม่กลุ่มเฟอร์นิเจอร์สำนักงานตอบสนองกลุ่มลูกค้าทั่วไป (B2C) ที่ปรับรูปแบบมาทำงานที่บ้านเพิ่มขึ้น รวมถึงลูกค้าผู้ประกอบการ (B2B) เช่น ผู้พัฒนาอาคารสำนักงาน, โครงการอสังหาฯ แบบมิกซ์ยูส เป็นต้น

“เรามองว่ากลุ่มลูกค้าระดับลักซ์ชัวรี่ และพรีเมียมเป็นตลาดที่มีศักยภาพ และโอกาสเติบโตได้อีกมาก เนื่องจากมีกำลังซื้อสูง และมีโอกาสได้รับผลกระทบจากความผันผวนทางเศรษฐกิจค่อนข้างน้อย เห็นได้จากในช่วงที่มีการแพร่ระบาดของ COVID-19 ที่ผ่านมา ผู้บริโภคกลุ่มนี้ไม่ได้ชะลอการตัดสินใจซื้อ และผลการดำเนินงานของบริษัท ยังเติบโตอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ภาพรวมธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในปีนี้ ทางผู้ประกอบการอสังหาฯ วางแผนพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยระดับลักซ์ชัวรี่อย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะเป็นปัจจัยบวกต่อธุรกิจของบริษัท” นายเควิน กล่าว

นายดิถดนัย สังขะรมย์ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์ ทรีนีตี้ จำกัด ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินและผู้จัดการ การจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย กล่าวว่า บมจ.ยูโร ครีเอชั่นส์ เป็นผู้นำธุรกิจ Luxurious & High Quality Living ที่มีศักยภาพสูง โดยมีจุดเด่นหลากหลาย ได้แก่ 

1.ความสามารถทำกำไรที่โดดเด่น โดยนับจากปี 2564-2565 และช่วง 9 เดือนแรกของปี 2566 มีอัตรา EBITDA 23.75% 22.71% และ 24.79% ตามลำดับ 

2.จับกลุ่มลูกค้าที่มีรายได้สูง ซึ่งมีโอกาสได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวน้อยกว่าลูกค้ากลุ่มอื่น และจะได้รับปัจจัยบวกจากภาวะเศรษฐกิจฟื้นตัว 

3.ได้รับประโยชน์จากพฤติกรรมของลูกค้าระดับลักซ์ชัวรี่ ที่นิยมตกแต่งที่อยู่อาศัย และเลือกซื้อสินค้านำเข้าแทนการไปเลือกซื้อที่ต่างประเทศ รวมถึงมีดีมานด์จากกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่ประสบความสำเร็จอย่างรวดเร็ว และ 

4.พื้นที่โชว์รูมที่จะเพิ่มขึ้นอีกกว่าเท่าตัว จาก 5,800 ตารางเมตร เป็น 12,884 ตารางเมตรภายในปี 2569 รองรับการขยายสินค้า และขยายตลาดใหม่ที่มีศักยภาพ

ทั้งนี้ กลุ่มผู้ถือหุ้นเดิมทั้งหมดของ บมจ. ยูโร ครีเอชั่นส์ ได้สมัครใจทำข้อตกลงไม่จำหน่ายหุ้นส่วนที่เหลือจากการติด Silent Period ตามข้อบังคับของตลาดหลักทรัพย์ฯ เพิ่มเติมในช่วงระยะเวลา 12 เดือนนับจากวันที่หุ้นของบริษัท เป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ เป็นวันแรก เพื่อให้ความมั่นใจแก่นักลงทุน

 

 

 

พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์