“บิตคอยน์” ไต่ระดับเฉียด 5หมื่นดอลลาร์ แรงเก็งกำไรระลอกใหม่

“บิตคอยน์” ไต่ระดับเฉียด 5หมื่นดอลลาร์ แรงเก็งกำไรระลอกใหม่

“บิตคอยน์” พร้อมรีเทิร์น เมื่อราคาไต่ระดับขาขึ้นตั้งแต่ช่วงปลายปี 2566 จนราคาเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว 150% พร้อมกับการตั้งต้นเก็งกำไรรอบใหม่ของเหรียญคริปโทเคอร์เรนซียอดนิยมแห่งยุคที่พานักลงทุนทะยาน to the moon ก่อนที่จะดิ่งลง to the earth เช่นกัน

   จากราคา Golden Year 2564 แตะที่ 68,000 ดอลลาร์ หรือคิดเป็นเงินบาทคือ 2 ล้านบาทต่อ 1บิตคอยน์ จนทำให้ใครๆ ก็อยากเป็นเศรษฐีภายในชั่วข้ามคืนด้วยการลงทุนในเหรียญดังกล่าวจนกลายเป็นกระแสที่โด่งดังทั่วโลก  ยิ่งในไทยเกิดกระแสแห่เปิดบัญชีคริปโทเคอร์เรนซี เป็นจำนวนมากจนทำให้ตัวเลขจำนวนบัญชีผู้ลงทุนคริปโทเคอร์เรนซี แซงทะลุบัญชีหุ้นไปแบบขาดลอย

   เมื่อราคาสุดพีคถูกกระทบจากแบงก์ชาติในหลายประเทศไม่ยอมรับเป็นอีกสกุลเงินส่งผลทำให้ราคาบิตคอยน์ปรับฐานครั้งใหญ่ภายในปีเดียวกันเทขายเพื่อเก็บกำไรก้อนโตตั้งแต่ 47,320 ดอลลาร์ หลุดระดับ 40,000 ดอลลาร์ จนมาอยู่ที่ 36,265 ดอลลาร์  จนลงไปลึกสุดที่ 19,000  กว่าดอลลาร์

ปี 2565 จึงถือว่าเป็นปีที่เหี่ยวเฉาราคาแทบไม่ไปไหน และเจอด่านสกัดอย่างเข้มข้นของทางการยิ่งในไทยแบงก์ชาติ และ ก.ล.ต. ออกเกณฑ์เข้มเพื่อจำกัดการใช้งานไม่สามารถนำมาใช้เพื่อแลกเปลี่ยนสินค้าเสมือนเป็นเงินตราได้

     เหมือน “บิตคอยน์” ไม่มีวันตายหลังจากปรับฐานใหญ่สลัดนักลงทุนที่ไม่เชี่ยวชาญพอออกไปเพราะปี 2566 เทรดขาขึ้นเริ่มเกิดขึ้นตั้งแต่ปลายปีด้วยประเด็นหลักการ "นับถอยหลังจัดตั้ง Spot Bitcoin ETF ในสหรัฐ" เป็นครั้งแรก และลากราคาเหรียญกลับขึ้นมาด้วยเช่นกัน

       ประเด็นดังกล่าวเริ่มมีการกระพือข่าวช่วง ต.ค.2566 เมื่อศาลสหรัฐตัดสินให้บริษัทเกรย์สเกล อินเวสต์เมนท์ ( Grayscale Investments) ซึ่งผู้จัดการกองทุนสินทรัพย์ดิจิทัลรายใหญ่ ชนะคดีในการแปลง Bitcoin trust (GBTC) เป็น Spot Bitcoin ETF เป็นครั้งแรกส่งผลทำให้ราคาแตะ 30,315 ดอลลาร์

         ข้ามเดือนพ.ย.2566 ราคาแตะ 37,000 - 38,000 ดอลลาร์ แรงเก็งสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์สหรัฐ (SEC) จะให้การอนุมัติการจัดตั้ง Spot Bitcoin ETF ในไม่ช้ารวมทั้งสถานการณ์สงครามระหว่างอิสราเอล และกลุ่มฮามาสเกิดขึ้นทำให้ทิ้งสินทรัพย์เสี่ยงไปกระจายในบิตคอยน์

        หลังจากนั้นเป็นคอมโบเซตข่าวออกมาอย่างต่อเนื่องทุกเดือนถึงพัฒนาการตั้งกองทุน ETF แม้จะยังไม่มีการประชุมเกิดขึ้นทั้งการออกมาคาดการณ์ SEC อาจให้การอนุมัติการจัดตั้ง Spot Bitcoin ETF อย่างเร็วที่สุดต้นเดือนม.ค.2567

       หรือการจับสังเกตเจ้าหน้าที่ SEC ได้จัดการประชุมร่วมกับเจ้าหน้าที่จากตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์ก, ตลาด Nasdaq และ ตลาด Chicago Board Options Exchange ส่งสัญญาณบวกเพราะทั้ง 3 ตลาดเป็นตลาดที่มีการซื้อขายกองทุน ETF ทำให้ราคาเหนือ 40,000 ดอลลาร์ ได้อีกครั้ง

      ยิ่งในเดือนธ.ค.2566 ยิ่งตอกย้ำเมื่อแตะ 43,000 ดอลลาร์ เมื่อคาดการณ์บริษัทที่น่าจะได้รับการอนุมัติตั้ง Spot Bitcoin ETF ภายในเดือนม.ค.2567 อาทิ แบล็กร็อค (BlackRock), วิสดอมทรี (WisdomTree) และแวลคิรี (Valkyrie) รวมกับแรงหนุนโอกาสที่ FED  ส่งสัญญาณปรับลดอัตราดอกเบี้ยในปี 2567

      สัปดาห์แรกเดือนม.ค.2567 บิตคอยน์ พุ่งขึ้นเหนือระดับ 45,000 ดอลลาร์ เป็นครั้งแรกในรอบ 2 ปี และยังไปต่อสู่ระดับ 47,114.68  ดอลลาร์ครั้งแรกตั้งแต่เม.ย.2565  เมื่อมีการวางหมุดช่วงเวลา SEC จะพิจารณาในวันที่ 10 ม.ค.67 ที่จะถึงนี้ พร้อมกับบริษัทหลายแห่งในสหรัฐได้ปรับลดค่าธรรมเนียมในการซื้อขายกองทุน Spot Bitcoin ETF เพื่อแย่งส่วนแบ่งในตลาด

     นาทีนี้ยังไม่มีใครคาดการณ์ว่า SEC จะอนุมัติกองทุนตามคาดหรือไม่ หรือจะยื้อระยะเวลาออกไปก็ย่อมได้หรือแม้แต่ปัจจัยอื่นเช่นเดียวกัน   ดังนั้นบทเรียนราคาบิตคอยน์ปี 2564 - 2565 น่าจะทำให้นักลงทุนรอคอยเก็งกำไรรอบใหม่หรือเพื่อการลงทุนกระจายความเสี่ยงมีมุมมองลงทุนไม่ใช่เพื่อขาขึ้นอย่างเดียวเท่านั้น           

 

 

พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์