กำไร ‘กลุ่มปตท.' ไตรมาส4/66ส่อลดลง เหตุราคาน้ำมันดิบ-ค่าการกลั่น’อ่อนตัว

บมจ.ปตท.(PTT) ประกาศกำไรไตรมาส3 ปี 2566ที่  31,297.13  ล้านบาท   เพิ่มขึ้น  252.66% จากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีกำไร 8,874.57  ล้านบาท  ส่งผลให้งวด 9 เดือนมีกำไรสุทธิ 79,258.86 ล้านบาท  เพิ่มขึ้น 9.31% จากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีกำไร 72,509.81 ล้านบาท 

ส่วน บริษัทลูก 6 บริษัท  ประกอบด้วย บมจ.ปตท. สำรวจและผลิตปิโตรเลียม (PTTEP), บมจ. พีทีที โกลบอล เคมิคอล ( PTTGC),บมจ. ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก (OR), บมจ. ไออาร์พีซี (IRPC),บมจ. ไทยออยล์ (TOP),บมจ. โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ (GPSC) ไตรมาส3 ปี 2566  รวมกำไรสุทธิ   39,753.47 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 329.20%  จากช่วงเดียวกันปีก่อนที่กำไรสุทธิ  9,262.20  ล้านบาท ขณะที่งวด 9 เดือนกำไร 85,450.09 ลดลง8.72% จากช่วงเดียวกันปีก่อนกำไร 93,608.70ล้านบาท

นายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) หรือ PTT เปิดเผยถึง ผลการดำเนินงาน ปตท. และบริษัทย่อย ใน 9 เดือนแรกของปี 2566 มีรายได้ 2,337,438 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 79,259 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9.3% จากช่วงเดียวกันของปี 2565 เนื่องจากขาดทุนจากตราสารอนุพันธ์เพื่อป้องกันความเสี่ยงราคาสินค้าโภคภัณฑ์ลดลง และมีกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนเพิ่มขึ้น 

อย่างไรก็ตาม ราคาน้ำมันดิบมีการปรับตัวลดลงจากความกังวลความขัดแย้งระหว่างรัสเซียและยูเครนที่เริ่มผ่อนคลาย รวมถึงความต้องการใช้น้ำมันที่ลดลงจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัว ทำให้กำไรจากการดำเนินงานก่อนค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่าย ต้นทุนทางการเงิน และภาษีเงินได้ (EBITDA) ของกลุ่ม ปตท. ปรับลดลง โดยหลักจากกลุ่มธุรกิจปิโตรเคมีและ การกลั่น จากกำไรขั้นต้นจากการกลั่น (Market GRM) ที่ลดลงจากช่วงเดียวกันของปี 2565 และผลกำไรสต๊อกน้ำมันที่ลดลง ประกอบกับผลการดำเนินงานของกลุ่มธุรกิจสำรวจและผลิตปิโตรเลียมที่ปรับลดลงจากราคาขายเฉลี่ยที่ลดลง

โดย กลุ่ม ปตท. นำส่งรายได้จากการดำเนินธุรกิจ 9 เดือนแรกของปี 2566 ให้กับรัฐ เพื่อใช้ในการพัฒนาประเทศด้านต่าง ๆ แล้วประมาณ 48,000 ล้านบาท

นายจักรพงศ์ เชวงศรี ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์(บล.)กสิกรไทย เปิดเผยว่า  ฝ่ายวิจัยฯ คาดการณ์ว่า กำไรกลุ่มปตทไตรมาส 3 ปี 2566 อยู่ที่ 70,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 286% จากช่วงเดียวกันปีก่อน และเพิ่มขึ้น 87% จากไตรมาสก่อนหน้า นับว่าสูงกว่าที่เราคาดการณ์ราว 3% หรือ 67,910 ล้านบาท 

โดยสาเหตุหลัก มาจากกำไรของ OR และ PTTGC ที่สูงกว่าที่คาด ในขณะที่ไม่มีบริษัทไหนในกลุ่มที่ประกาศผลการดำเนินงานต่ำกว่าคาดการณ์ 

 “ผลการดำเนินงานไตรมาส 3 ปีนี้ที่ปรับตัวดีขึ้นทั้งเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อนและไตรมาสก่อนหน้า จากการฟื้นตัวของบริษัทกลุ่มโรงกลั่นและปิโตรเคมี รวมถึงค้าปลีกน้ำมันและโรงไฟฟ้า หลังราคาน้ำมันและค่าการกลั่นฟื้นตัว อีกทั้งมีกำไรจากสต๊อกน้ำมันและต้นทุนก๊าซธรรมชาติที่ปรับลดลง”

 นายจักรพงศ์ กล่าวว่า แนวโน้มผลการดำเนินงานในไตรมาส 4 ปี 2566 ของกลุ่มปตท. คาดว่าจะอ่อนตัวลง เป็นผลจากการปรับลดลงของราคาน้ำมัน และค่าการกลั่น อีกทั้งค่า Ft ก็มีการปรับลดลงเช่นเดียวกัน  ซึ่งฝ่ายวิจัยมองว่า ผลการดำเนินงานของกลุ่มปตท. มีโอกาสปรับตัวดีขึ้น (อัปไซด์) ที่ค่อนข้างจำกัดในปีนี้ เนื่องจากกำไรสุทธิ 9 เดือนแรก2566 คิดเป็น 87% ของที่เราประมาณการไว้สำหรับทั้งปี 2566 อยู่ที่ 197,770 ล้านบาท 

ส่วนปี 2567 เรามองว่าผลการดำเนินงานของกลุ่ม ปตท. น่าจะทรงตัวอยู่ใกล้เคียงกับปี 2566 เนื่องจากสภาวะอุตสาหกรรมที่ยังมีความท้าท้ายจากเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัวลง อีกทั้งสภาวะสงครามและความตึงเครียดภูมิรัฐศาสตร์ยังมีอย่างต่อเนื่อง   แต่การรวมกลุ่มเพื่อควบคุมอุปทานน้ำมันของ OPEC+ น่าจะยังทำให้ราคาน้ำมันยังคงยืนอยู่ระดับสูง หากไม่มีสภาวะเศรษฐกิจถดถอยในกลุ่มประเทศเศรษฐกิจหลัก 

นายจิติพล พฤกษาเมธานันท์ หัวหน้ากลยุทธ์การลงทุน ฝ่ายวิเคราะห์เศรษฐกิจและการลงทุนสายงานวิจัย บล.ซีจีเอส-ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย)  กล่าวว่า ผลการดำเนินงานของไตรมาส 3 ปี 2566 ของกลุ่มปตท. น่าจะประกาศออกมาเท่ากับที่ตลาดคาดการณ์  69,000 ล้านบาท มีเพียง IRPC และPTTGC มากกว่าที่เราคาด 65% และ 80% ส่วนบริษัทที่เหลือตามคาด   

 อย่างไรก็ตามแนวโน้มในไตรมาส 4 ปีนี้ ผลการดำเนินงานของกลุ่มปตท.อาจมีแนวโน้มแย่ลงในไตรมาส3 ปีนี้ เพราะแม้งบ TOP และ PTTGC ผลดำเนินงานน่าจะแข็งแกร่งจากค่าการกลั่นที่ดีในไตรมาส 3ปีนี้ แต่ธุรกิจเคมีภัณฑ์ จะท้าทายมากขึ้นจาก ส่วนต่างราคาผลิตภัณฑ์ที่อ่อนตัวลง  

ส่วนราคาน้ำมันปีนี้คาดราคาน้ำมันWTI 75-85 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลเป็นพื้นฐาน อาจปรับตัวสูงขึ้นได้ถ้ามีประเด็นการเมือง ปีหน้ามองเศรษฐกิจชะลอตัวคาดว่าจะกลับลงไปซื้อขายเฉลี่ย 75 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล  โดยคาดการณ์กำไรกลุ่มปตท.ทั้งปีนี้ 99,295 ล้านบาท

สำหรับ กลยุทธ์การลงทุนหุ้นกลุ่มปตท. เราแนะนำการลงทุนกลุ่มพลังงานต้นน้ำ PTTEP จากความเสี่ยงจากนโยบายเศรษฐกิจของภาครัฐที่น้อยกว่า และ มีความเคลื่อนไหวตามทิศทางของราคาน้ำมันตลาดโลกมากกว่า ทำให้สามารถป้องกันความเสี่ยงด้านภูมิรัฐศาสตร์ได้ด้วย