ดาวโจนส์พุ่งกว่า 500 จุด คาดเฟดส่งสัญญาณยุติวงจรดอกเบี้ยขาขึ้น

ดาวโจนส์พุ่งกว่า 500 จุด คาดเฟดส่งสัญญาณยุติวงจรดอกเบี้ยขาขึ้น

ดัชนีดาวโจนส์ ปิดวันจันทร์(30ต.ค.)ปรับตัวขึ้นกว่า 500 จุด ขณะที่นักลงทุนคาดการณ์ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะส่งสัญญาณยุติวงจรปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมสัปดาห์นี้

  • ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์เพิ่มขึ้น 511.37 จุด หรือ 1.58% ปิดที่ 32,928.96 จุด
  • ดัชนีเอสแอนด์พี 500 เพิ่มขึ้น 49.45 จุด หรือ 1.20% ปิดที่ 4,166.82 จุด
  • ดัชนีแนสแด็ก เพิ่มขึ้น 146.47 จุด หรือ 1.16% ปิดที่ 12,789.48 จุด

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์เพิ่มขึ้น 511.37 จุด หรือ 1.58% ปิดที่ 32,928.96 จุด ดัชนีเอสแอนด์พี 500 เพิ่มขึ้น 49.45 จุด หรือ 1.20% ปิดที่ 4,166.82 จุด และดัชนีแนสแด็ก เพิ่มขึ้น 146.47 จุด หรือ 1.16% ปิดที่ 12,789.48 จุด

นอกจากนี้ ดัชนีดาวโจนส์ได้แรงหนุนจากการที่นักลงทุนส่งคำสั่งซื้อเก็งกำไรเข้าตลาด หลังราคาหุ้นดิ่งลงอย่างหนักก่อนหน้านี้

นักวิเคราะห์ระบุว่า ตลาดได้ปัจจัยบวกจากคำสั่งซื้อทางเทคนิค หลังจากที่ตลาดเข้าสู่ภาวะมีแรงขายมากเกินไป (oversold) โดยได้ปรับตัวรับข่าวสงครามระหว่างอิสราเอลและกลุ่มฮามาส ส่งผลให้ดัชนีดาวโจนส์, ดัชนีเอสแอนด์พี 500 และดัชนีแนสแกดิ่งลงกว่า 2% ในสัปดาห์ที่แล้ว และมีแนวโน้มปรับตัวลงติดต่อกัน 3 ไตรมาส เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2563

ตลาดจับตาการประชุมนโยบายการเงินของเฟดในสัปดาห์นี้ รวมทั้งการเปิดเผยผลประกอบการของบริษัทแอปเปิ้ล อิงค์ในวันพฤหัสบดี และตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรในวันศุกร์

นักลงทุนเทน้ำหนักในการคาดการณ์ว่า เฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยในการประชุม 2 ครั้งสุดท้ายในปีนี้

ล่าสุด FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนัก 98.6% ที่เฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 5.25-5.50% ในการประชุมวันที่ 31 ต.ค.-1 พ.ย.

นอกจากนี้ นักลงทุนให้น้ำหนัก 79.1% ที่เฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 5.25-5.50% ในการประชุมวันที่ 12-13 ธ.ค. หลังจากให้น้ำหนักเพียง 57.7% เมื่อเดือนที่แล้ว