หุ้น SCB ร่วงหลังกำไร Q3/66 ลดลง 6.25% ที่ 9,663 ล้านบาท เหตุตั้งสำรองเพิ่ม

หุ้น SCB ร่วงหลังกำไร Q3/66 ลดลง 6.25% ที่ 9,663 ล้านบาท เหตุตั้งสำรองเพิ่ม

SCB กำไร Q3/66 หดตัวเทียบกับกลุ่มแบงก์ โดยทำกำไร 9,663 ล้านบาท ลดลง 6.25% เหตุตั้งสำรองพิเศษ 1,500 ล้านบาทรวมทั้งไตรมาส 12,245 ล้านบาท รองรับความเสี่ยง ขณะที่ราคาหุ้นปรับตัวลงปิด 102.50 บาท

บริษัท เอสซีบี เอกซ์ จํากัด (มหาชน )  หรือ SCB  รายงานผลประกอบการของไตรมาสที่ 3 ปี 2566   มีกำไรสุทธิ  9,663 ล้านบาท ลดลง  6.25% จากช่วงเดียวกันปีก่อนมีกำไร 10,308 ล้านบาท และในรอบ 9เหตุตั้งสำรองฯพิเศษ เดือนแรกปี 2566 มีกำไร 32,526 ล้านบาท  เพิ่มขึ้น 6.98% จากช่วงเดียวกันปีก่อน  30,403 ล้านบาท 

ขณะที่ความเคลื่อนไหวราคาหุ้น SCB ปิดช่วงเช้า 102.50 บาท ลดลง 1 บาท เปลี่ยนแปลง 0.97%  

 

 

 

 

 

         ในไตรมาส 3 ของปี 2566 รายได้จากการดำเนินงานมีจ านวน 43,344 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 9.0% โดยแบ่งเป็นรายได้ ดอกเบี้ยสุทธิจำนวน 31,536 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 13.8% จากการเติบโตของสินเชื่อ และการขยายตัวของส่วนต่างดอกเบี้ยสุทธิ (NIM) รายได้ค่าธรรมเนียมและอื่น ๆ จำนวน 10,667 ล้านบาท ลดลง 9.2%

      และรายได้จากการลงทุนและการค้าเพิ่มขึ้น เกือบสามเท่าตัวจากปีที่แล้วมาเป็น 1,141 ล้านบาท ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานมีจำนวน 18,490 ล้านบาท คิดเป็นอัตราส่วนค่าใช้จ่ายต่อรายได้ที่ 42.7% ซึ่งสะท้อนถึง การบริหารต้นทุนที่มีประสิทธิภาพอย่างต่อเนื่อง

      ภายใต้สถานการณ์ภูมิรัฐศาสตร์ที่มีความไม่แน่นอนเพิ่มขึ้น บริษัทฯ ได้ตั้งเงินสำรองพิเศษจำนวน 1,500 ล้านบาท ทำให้เงินสำรองที่ตั้งในไตรมาสนี้เป็นจำนวน 12,245 ล้านบาท    คิดเป็นอัตราส่วนผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้นต่อ    สินเชื่อ (Credit cost) ที่ 2.01% โดยอัตราส่วนค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญต่อสินเชื่อด้อยคุณภาพยังคงอยู่ในระดับสูงที่ 167.2% คุณภาพของสินเชื่อโดยรวมยังคงอยู่ในระดับที่ควบคุมได้ดี โดยอัตราส่วนสินเชื่อด้อยคุณภาพ ณ สิ้นเดือนกันยายน 2566 อยู่ที่ 3.30% เพิ่มขึ้นเล็กน้อยจาก 3.25% ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2566 และเงินกองทุนรวมตามกฎหมายของบริษัทฯ ยังคงอยู่ในระดับแข็งแกร่งที่ 18.7%

        นายอาทิตย์ นันทวิทยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอสซีบี เอกซ์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ผลประกอบการที่มั่นคงอย่างต่อเนื่องในไตรมาส 3 ปี 2566 มีการเติบโตของรายได้ที่ แข็งแกร่ง การบริหารต้นทุนที่มีประสิทธิภาพ และการบริหารคุณภาพสินเชื่ออย่างรัดกุม โดยธนาคารไทยพาณิชย์ซึ่งเป็น บริษัทหลักในกลุ่ม มีขีดความสามารถในการทำกำไรสูง

     บริษัทฯ ได้ตั้งสำรองพิเศษเพิ่มขึ้นในไตรมาสนี้ เพื่อรองรับความเสี่ยง ที่อาจเกิดขึ้นในอนาคตจากจากสถานการณ์ภูมิรัฐศาสตร์ที่มีความไม่แน่นอนเพิ่มขึ้น โดยคุณภาพสินเชื่อโดยรวมมีแนวโน้มที่ ควบคุมได้ดี บริษัทฯ เดินหน้าวางรากฐานในการสร้างขีดความสามารถด้านเทคโนโลยี

       โดยในไตรมาสนี้ บริษัทฯ ได้เปิดตัวพื้นที่ “AreaX by SCBX” ในบริเวณ “Siam Paragon Next Tech x SCBX” เพื่อสร้างชุมชนในการเรียนรู้และส่งเสริมนวัตกรรม และบริษัทฯ ได้เริ่มการท า R&D เพื่อยกระดับศักยภาพการแข่งขันระยะยาวในด้านต่างๆ

        รวมถึง SCBX GPT ที่จะเป็น Chat GPT ที่เข้าใจเรื่องการบริการทางการเงินและมีความเข้าใจภาษาไทย อีกทั้งกลุ่มเอสซีบี เอกซ์ กำลังเดินหน้ามุ่งสู่ การเป็น AI-first organization ที่มีปัญญาประดิษฐ์เป็นกำลังสำคัญในการสร้างรายได้ในอนาคต บริษัทฯ ได้จ่ายเงินปันผลระหว่างกาลปี 2566 ที่ 2.5 บาทต่อหุ้น ซึ่งสูงกว่าปีก่อนหน้าอย่างมีนัยสำคัญ สิ่งนี้สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในการเพิ่มมูลค่าผู้ถือหุ้นอย่างต่อเนื่องและสถานะการเงินที่แข็งแกร่ง