สงครามอิสราเอลดันน้ำมันพุ่ง PTTEP รับอานิสงส์ หุ้นต้นน้ำ

สงครามอิสราเอลดันน้ำมันพุ่ง PTTEP รับอานิสงส์ หุ้นต้นน้ำ

สงครามอิสราเอล และกลุ่มฮามาส ยังคงตึงเครียด ดันน้ำมันดิบพุ่งขึ้นกว่า 4% โบรกเกอร์ เผย หุ้น PTTEP รับอานิสงส์เป็นหุ้นต้นน้ำ

จากสถานการณ์ความตึงเครียดการสู้รบกันระหว่างอิสราเอล และกลุ่มฮามาส ส่งผลให้ราคาน้ำมันดิบพุ่งขึ้นกว่า 4% และคาดว่าน้ำมันจะไปแตะสูงสุดได้ที่ 100 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล เท่านั้น นักวิเคราะห์มองว่า ปัจจุบันเศรษฐกิจโลกอยู่ในช่วงขาลง 

ธนวัฒน์ รื่นบันเทิง หัวหน้านักวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์(บล.) ทิสโก้ ให้ข้อมูลกับกรุงเทพธุรกิจว่า มันมีอยู่สองเรื่องที่ซ้อนกันอยู่ เรื่องแรกคือ สงครามที่เกิดขึ้นระหว่างอิสราเอล และฮามาสที่เกิดขึ้นส่งผลให้เซนทิเมนต์ของราคาน้ำมันปรับตัวขึ้นมา 

ขณะที่หลายฝ่ายกำลังกังวลอยู่ว่า กลุ่มฮามาสอาจจะได้รับการสนับสนุนจากฝั่งของอิหร่าน และถ้าเป็นไปได้หากอิสราเอลกับสหรัฐ ตกลงกันว่า อิหร่านเป็นผู้อยู่เบื้องหลังของการโจมตีในครั้งนี้ เป็นไปได้ว่า สหรัฐ อาจจะเพิ่มแซงชั่นกับฝั่งอิหร่าน ซึ่งอิหร่านถือว่า เป็นผู้เพิ่มซัพพลายน้ำมันมากสุดเป็นอันดับ 2 ของโลก เพราะฉะนั้นปัจจัยพื้นฐานของราคาน้ำมันน่าจะปรับเพิ่มขึ้น หากซัพพลายของอิหร่านนั้นหายไป

แต่อย่างไรก็ตาม มีมุมมองว่าการปรับขึ้นของราคาน้ำดิบเต็มที่น่าจะไปแตะได้สูงสุดที่ 100 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ซึ่งไม่น่าจะได้ไปไกลกว่านั้น เนื่องจากปัจจุบันต้องยอมรับว่า เศรษฐกิจโลกยังคงมีความอ่อนแออยู่ เศรษฐกิจยังอยู่ในช่วงของการชะลอตัวลง และมีความเสี่ยงดาวน์ไซด์จากประเทศจีนด้วย 

ทั้งนี้หลังจากที่ราคาน้ำมันปรับตัวเพิ่มขึ้นจะส่งผลดีกับกลุ่มหุ้นน้ำมันที่ได้กำไรจากสินค้าน้ำมันคงคลัง ซึ่งจะส่งผลให้งบไตรมาสนั้นๆ ออกมาดี 

“ตัวที่ชอบมากสุดคือ ปตท.สผ. เพราะว่าตัวอื่นๆ แม้ว่าจะได้กำไรจะดูดีขึ้นจากราคาน้ำมันที่ปรับเพิ่มขึ้น แต่ยังคงมีนโยบายความเสี่ยงจากทางภาครัฐ และยิ่งเป็นไปได้ว่า หากราคาน้ำมันมีการปรับเพิ่มขึ้นไปสูงขึ้นอีก รัฐบาลช่วงที่ผ่านมาออกมาบอกว่า จะคุ้มค่าไฟ คุ้มน้ำมันดีเซล จึงอาจจะต้องมาเพิ่มมาตรการ และกดดันให้ราคาหุ้นปรับตัวลดลงมาได้อีก ฉะนั้นหุ้นในกลุ่มพลังงานที่ปรับขึ้่นอาจจะไม่ยั่งยืน โดยตัวที่ยั่งยืนมีตัวเดียวคือ ปตท.สผ. ที่ไม่ได้รับผลกระทบจากนโยบายภาครัฐเลย” 

อย่างไรตาม แม้ขณะนี้หุ้นกลุ่มโรงไฟฟ้าราคาจะปรับตัวลงมาค่อนข้างมากแล้วก็ตาม แต่ก็ยังไม่ได้น่าสนใจเข้าไปลงทุน เพราะยังคงมีความเสี่ยงของนโยบายภาครัฐในรอบนี้ค่อนข้างจะเป็นของจริง เมื่อรัฐต้องการปรับลดค่าไฟลงมาขนาดนี้จะส่งให้กำไรปรับตัวลดลงค่อนข้างเยอะ 

ขณะเดียวกันแม้บางบริษัทจะมีการลงทุนเข้าไปสร้างโรงไฟฟ้าก็อาจจะไม่ได้มีกำไรที่สูงขึ้นเหมือนปีก่อนๆ และหากมองไปข้างหน้าอัตราดอกเบี้ยน่าจะยังคงอยู่ในระดับสูงจึงทำให้หุ้นกลุ่มโรงไฟฟ้าปรับตัวลดลง

กรรณ์ หทัยศรัทธา นักกลยุทธ์ฝ่ายวิเคราะห์เศรษฐกิจ และการลงทุน สายงานวิจัย บล.ซีจีเอส ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า หลังจากที่กำลังเกิดความกังวลต่อสถานการณ์การสู้รบระหว่างสงครามอิสราเอล และฮามาส ส่งผลให้ราคาน้ำมันดิบโลกพุ่งกว่า 4% แต่มองว่า แม้น้ำมันจะปรับตัวเพิ่มขึ้นมาได้แต่อาจจะมีการปรับขึ้นไปได้ไม่ไกลมากนัก เนื่องจากตัวเลขสต๊อกน้ำมันของสหรัฐสูงกว่าที่คาดไปมาก อย่างไรก็ตามหากเศรษฐกิจจีนกลับมาฟื้นจะช่วยผลักดันให้ตัวเลขน้ำมันเพิ่มขึ้นอีก 

ทั้งนี้ในส่วนของกลุ่มพลังงานที่แนะนำนักลงทุนในช่วงนี้ ที่จะได้รับอานิสงส์คือ พลังงานต้นน้ำ เช่น ปตท.สผ. เชื่อว่า งบครึ่งปีหลังจะออกมาดีจากทั้งปริมาณขาย และจากราคาขายในไตรมาส 3/66 ขณะที่น้ำมันที่มีการตึงตัวแบบถือว่า เป็นบวกกับ ปตท.สผ. ที่เป็นหุ้นพลังงานต้นน้ำ บวกกับไม่มีความเสี่ยงของนโยบายภาครัฐ ขณะที่หุ้นโรงไฟฟ้ายังมีความเสี่ยงที่ยังคงได้รับผลกระทบจากบอนด์ยีลด์ที่สูงก็จะเป็นตัวกดดันให้กับกลุ่มโรงไฟฟ้า รวมถึงค่าเงินบาทที่อ่อนค่าลง เนื่องจากหุ้นโรงไฟฟ้ามีการไปลงทุนยังต่างประเทศ 

“หุ้นกลุ่มพลังงาน เช่น สถานีบริการน้ำมัน หรือกลุ่มโรงไฟฟ้า ยังคงไม่ได้รับอานิสงส์เท่ากับกลุ่มต้นน้ำ ขณะที่กลุ่มโรงกลั่นซึ่งถือว่ายังไม่น่าสนใจ เพราะค่าการกลั่นเริ่มปรับตัวลดลง ปตท.สผ.ถือว่าดีที่สุด”

อย่างไรก็ตาม ตลาดหุ้นไทย ณ ขณะนี้ถ้าลองเข้าไปดูจะพบว่าหุ้นเกือบทุกตัวมีราคาที่ค่อนข้างถูก ฉะนั้นยังลงทุนสามารถเลือกหุ้นที่เป็นธีมได้รับประโยชน์จากในประเทศจะเป็นการปลอดภัย มากกว่าหุ้นโรงไฟฟ้าแม้ขณะนี้จะปรับตัวลงมาถูกก็ตาม แต่ก็ยังถือว่า มีความเสี่ยงมาก 

 

 

พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์