GPSC ครองแชมป์ | ออฟเรคคอร์ด

๐๐๐ GPSC  ครองแชมป์ 

           บรรดา หุ้นโรงไฟฟ้า ที่ราคาหุ้นสะบักสะบอมกันยกกลุ่มเพราะเจอแต่สารพัดข่าวกระทบทำราคาหุ้นฟื้นยากหากเศรษฐกิจยังไม่เติบโตเต็มที่ 

       เทียบกันตัวต่อตัว และหุ้นต่อหุ้นรอบนี้ยกให้ GPSC กันแบบไร้ข้อสงสัย เพราะทำราคา “โลว์ใหม่” ได้ทุกแนว ตั้งแต่ราคาหุ้นเสียทรงตามกลุ่มจากหลุด 80 บาท มาถึง 70 บาท ตอนนี้คงไม่ต้องพูดถึงไปอยู่ที่ 43 บาท 

          กระทบแรงจากหั่น “ค่าไฟฟ้า” ช่วยค่าครองชีพประชาชนแม้ไม่กระทบโดยตรงแต่เจอทางอ้อม  และดันมาเผชิญ “ต้นทุนเชื้อเพลิง” ในช่วงนี้เข้าไฮซีซันน้ำมันพุ่งเอาๆ 

        ดังนั้นผลประกอบการทั้งไตรมาส 3 และ 4 ปีนี้แทบจะมองข้ามไปหวังปี 2567 กันว่าจะฟื้นตัวตามเศรษฐกิจ ..จะได้หลุดจากแชมป์ราคาร่วงหนักสุดในกลุ่ม SET 50 ได้สักที 

๐๐๐

      ตลาดหุ้นอยู่ในโซนปรับตัวลง แม้จะมีการรับปัจจัย Bond Yield ปรับตัวเพิ่มขึ้นไปแล้ว  แต่ ราคาน้ำมันกดดันต่อรวมไปถึงตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐรายงานดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไป(รวมอาหารและพลังงาน) PCE ส.ค. (29 ก.ย.66)คาดเพิ่มขึ้น 3.5% เมื่อเทียบรายปี จากระดับ 3.3% ในก.ค.ซึ่งจะสะท้อนไปยังตัวเลขเงินเฟ้อหรือ PCI  

๐๐๐

     ตลาดหุ้นจีนยังปั่นป่วนจากอสังหาฯ  โดยตลาดหุ้นฮ่องกงต้องระงับการซื้อขายหุ้น “ไชน่า เอเวอร์แกรนด์” (28 ก.ย.66) หลังข่าวการจับกุม “หุย กาหยั่น” เจ้าของ และประธานบริษัทไปยังบ้านพักยังไม่ได้ตั้งข้อกล่าวหาท่ามกลางปัญหาขาดสภาพคล่อง

๐๐๐

     ราคาสัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้า WTI ส่งมอบเดือนพ.ย.ยังปรับตัวขึ้นแรงทำจุดสูงสุดใหม่รอบ 13 เดือน ปิดที่ระดับ 93.68 ดอลลาร์/บาร์เรล +3.29 ดอลลาร์ (+3.64%) โดยได้รับแรงหนุนจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) รายงานตัวเลขสต๊อกน้ำมันดิบลดลง 2.16 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่ตลาดคาดว่าจะลดลง 0.60 ล้านบาร์เรล

๐๐๐

    หุ้นต้นน้ำพลังงาน PTTEP ยังตลาดและบวกสวนดัชนีที่แกว่งตัวติดลบได้ ราคาหุ้นสามารถปิดตลาดเกิน 170 บาทในรอบ 8 เดือน บล.หยวนต้า ปัจจัยหนุนเชิงบวกต่อ BANPU, BCP, TOP, SPRC และ ส่วนที่กระทบเป็นลบ เช่น  TASCO, SCGP, AAV

๐๐๐

     หลังแรงขายพักใหญ่ BANPU  เพื่อโยกเงินจากหุ้นสามัญเพื่อใช้สิทธิแปลงสภาพ Warrant ได้ถือว่าหมดแรงดัน จากการใช้สิทธิและเตรียมรับเงิน 29 ก.ย.66 ทำให้หันมา โฟกัสแนวโน้มกำไรไตรมาส 3/2566 คาดฟื้นตัว และไตรมาส 4 ปี 2566 เข้าสู่ High Season ของธุรกิจพลังงานทั้งถ่านหินและก๊าซธรรมชาติ

๐๐๐

     หลัง กนง.ขึ้นดอกเบี้ย 0.25% เป็น 2.50% คาดขึ้นเป็นครั้งสุดท้ายรอบนี้ อ้างอิงจาก กนง. คาดกรอบเงินเฟ้อทั่วไปปี 2566 ที่ 1.6%และปี 2567 ที่ 2.6% ดังนั้นจังหวะดีที่นายแบงก์เตรียมขยับดอกเบี้ยทั้งขากู้และขาฝาก 

๐๐๐

     บล.ฟินันเซีย ไซรัส ปรับขึ้นดอกเบี้ยของ กนง.ระยะสั้นจะเป็น sentiment บวกต่อ "กลุ่มธนาคาร"  แต่ลบต่อกลุ่ม finance และเชื่อว่ารอบนี้น่าจะเห็นการปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ในเร็วๆ นี้หากเป็นเช่นนี้จะส่งผลต่อเนื่องต่อNIM ใน ไตรมาส 4/66 และต่อเนื่องไปยังปี 2567 ซึ่งจะได้ผลบวกเต็มที่ทั้งปี

      จากการศึกษาพบว่า ทุก 0.25% ที่อัตราดอกเบี้ยเพิ่มขึ้นจะส่งผลบวกต่อ NIM 0.9% และกำไรสุทธิปี  2567 +6% จากคาดการณ์ปัจจุบันที่ +8%  (y-y) Top picks ยังชอบ BBL และ KTB ส่วนกลุ่ม finance เลือก JMT เป็นหุ้น top pick

 

 

 

พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์