หุ้นไทยวันนี้ 11 ก.ย. ปิดตลาดเย็น ลบ 6.23 จุด แรงขายหุ้นโรงไฟฟ้า จาก 'ความคลุมเครือ' นโยบายรัฐ

หุ้นไทยวันนี้ 11 ก.ย. ปิดตลาดเย็น ลบ 6.23 จุด แรงขายหุ้นโรงไฟฟ้า จาก 'ความคลุมเครือ' นโยบายรัฐ

“ตลาดหุ้นไทย” วันนี้ (11 ก.ย. 66) ปิดตลาดเย็นอยู่ที่ 1,540.94 จุด ลบ 6.23 จุด หรือ 0.40% โบรก ชี้ ดัชนีฯ ปรับตัวลดลงจากความกังวล “ดอกเบี้ยขาขึ้น” สหรัฐ และ “ความคลุมเครือ” ของแหล่งเงินทุนในการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล คาดพรุ่งนี้อ่อนตัวต่อในกรอบ 1,535 - 1,560 จุด แนะเก็งกำไร BDMS CENTEL และ MINT

“หุ้นไทยวันนี้” (11 ก.ย.) ความเคลื่อนไหว หุ้นไทย ปิดตลาดอยู่ที่ 1,540.94 จุด ลบ 6.23 จุด หรือ 0.40% โดย ตลาดหุ้นไทย ผันผวนในทิศทางปรับตัวลดลงทั้งวัน ซึ่ง ดัชนีหุ้นไทย  ทำจุดต่ำสุดวันนี้อยู่ที่ 1,535.82 จุด และสูงสุดอยู่ที่ 1,550.46  จุด มูลค่าซื้อขาย 41,601.46 ล้านบาท

 

หุ้นไทยวันนี้ 11 ก.ย. ปิดตลาดเย็น ลบ 6.23 จุด แรงขายหุ้นโรงไฟฟ้า จาก \'ความคลุมเครือ\' นโยบายรัฐ

หุ้นไทยวันนี้ ที่มีมูลค่าซื้อขายสูงสุด 5 ลำดับแรก ได้แก่

  1. BDMS  มูลค่า 1,978.54 ล้านบาท ราคาหุ้นอยู่ที่ 27.25 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง
  2. BH มูลค่า 1,512.37 ล้านบาท ราคาหุ้นอยู่ที่ 266.00 บาท เพิ่มขึ้น 11.00 บาท หรือ 4.31%
  3. PTTEP  มูลค่า 1,349.67  ล้านบาท ราคาหุ้นอยู่ที่ 164.50 บาท ลดลง 3.00 บาท หรือ 1.79%
  4. AOT มูลค่า 1,237.23 ล้านบาท ราคาหุ้นอยู่ที่ 71.25 บาท เพิ่มขึ้น 0.25 บาท หรือ 0.35%
  5. GPSC มูลค่า 1,079.44 ล้านบาท ราคาหุ้นอยู่ที่ 49.75 บาท ลดลง 1.50 บาท หรือ 2.93%

นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการอาวุโส สายงานวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ทิสโก้ จำกัด เปิดเผยว่า วันนี้ดัชนีฯ ปรับตัวลดลงจากทั้งปัจจัยในประเทศและต่างประเทศ

- ปัจจัยต่างประเทศ คือความกังวลเรื่องเงินเฟ้อของสหรัฐ ทำให้ผลตอบเเทนพันธบัตรรัฐบาล (บอนด์ยีลด์) และค่าเงินดอลลาร์ปรับตัวขึ้น เพราะนักลงทุนกังวลว่าธนาคารกลางสหรัฐ (FED) อาจขึ้นดอกเบี้ยและคงไว้ในระดับสูงอีกนาน

- ปัจจัยในประเทศ เป็นแรงเทขายหุ้นกลุ่มพลังงาน-โรงไฟฟ้าเพราะนักลงทุนกังวลเกี่ยวกับเเหล่งเงินทุนที่รัฐบาลจะใช้เพื่อดำเนินนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ

โดยวันพรุ่งนี้ (12 ก.ย.) ดัชนีฯ อาจแกว่งในลักษะ "ซึม" ด้วยกรอบ 1,535 - 1,560 จุด และปลายสัปดาห์อาจมีภาพของความผันผวนเนื่องจากเงินเฟ้อสหรัฐเพิ่มขึ้นแบบ 2 เดือนติดต่อกันส่งผลกระทบต่อตลาดหุ้นในหลายภูมิภาค โดยแนะนำให้เก็งกำไรหุ้นเชิงรับ (Passive Stocks) คือโรงพยาบาล แนะนำ BDMS และโรงแรมแนะนำ CENTEL และ MINT