‘หุ้นจีน’พุ่งรับข่าว ‘โปลิตบูโร’ จ่อกระตุ้นเศรษฐกิจ แก้ปัญหาหนี้ท้องถิ่น

‘หุ้นจีน’พุ่งรับข่าว ‘โปลิตบูโร’ จ่อกระตุ้นเศรษฐกิจ แก้ปัญหาหนี้ท้องถิ่น

ดัชนีหุ้นจีนอย่าง Shanghai Composite,   Hang Seng Index และ China A50 ปรับตัวสูงขึ้นเช้านี้ รับข่าว “โปลิตบูโร” จ่อกระตุ้นภาคอสังหาฯ การบริโภค และแก้ปัญหาหนี้ท้องถิ่น แม้ขาดมาตรการที่เป็นรูปธรรมในการกระตุ้นเศรษฐกิจที่โตแบบชะลอตัว 

Key Points

  • ดัชนีหุ้นจีนอย่าง Shanghai Composite,   Hang Seng Index และ China A50 ปรับตัวสูงขึ้นรับข่าว “โปลิตบูโร” จ่อออกมาตรการกระตุ้นหลายภาคส่วน
  • อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีมาตรการที่เป็นรูปธรรมกระตุ้นเศรษฐกิจที่โตแบบชะลอตัว
  • นักวิเคราะห์ประเมิน มีประเด็นสำคัญอยู่ 2 ข้อในการประชุมครั้งนี้คือ กระตุ้นอุปสงค์ในประเทศ และ เร่งจัดการหนี้ท้องถิ่น
  • อย่างไรก็ตาม ยังต้องจับตาดูต่อไปว่า มาตรการเหล่านี้จะกระตุ้นเศรษฐกิจจีนได้ขนาดไหน เพราะความเชื่อมั่นผู้บริโภคและนักลงทุนต่ำลง

สำนักข่าวบลูมเบิร์ก (Bloomberg) รายงานวันนี้ (25 ก.ค. 66) ว่า สี จิ้นผิง (Xi Jingping) และเหล่าผู้นําระดับสูงของจีนส่งสัญญาณ “กระตุ้นภาคอสังหาริมทรัพย์" ควบคู่ไปกับคํามั่นสัญญาที่จะยกระดับการบริโภคภายในประเทศ และแก้ไขปัญหาหนี้ของรัฐบาลท้องถิ่น แม้ว่าจะขาดการประกาศมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจีนขนาดใหญ่เพื่อสนับสนุนการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจที่ชะลอตัวก็ตาม

ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การประชุมนับเป็นการกำหนดเป้าหมายและทิศทางของเศรษฐกิจจีนช่วงครึ่งปีหลัง ทว่าบรรดาผู้นำไม่ได้ระบุถึง “การคลายตัวทางการคลังหรือการเงิน” อย่างมีนัยสำคัญ

"โดยรวมแล้ว โปลิตบูโรขาดสิ่งที่เรียกว่า 'มาตรการกระตุ้นแบบบาซูก้า'" คียอง ซอง ( Kiyong Seong) หัวหน้านักยุทธศาสตร์มหภาคของเอเชียที่โซซิเอเต้ เจเนเรล เอสเอ (Societe Generale SA) กล่าว  

พร้อมเสริมว่า “อย่างไรก็ตาม ผมมองว่ามาตรการเหล่านี้ก็อาจยังไม่มีแรงสั่นสะเทือนแบบยั่งยืนต่อตลาดเว้นแต่จะมีการระบุขั้นตอนที่เป็นรูปธรรมและเป็นรูปเป็นร่างมากขึ้น”

บทวิเคราะห์ของสำนักข่าวบลูมเบิร์ก ระบุว่า ตลาดการเงินสะท้อน “ความตื่นเต้น” ออกมาหลังจากทราบข่าวนี้แบบจำกัด โดยฟิวเจอร์สใน ดัชนี ฮั่งเซง ไชน่า เอ็นเทอร์ไพร์ (Hang Seng China Enterprises Index) ปรับตัวขึ้น 0.6% หลังจากมีการเผยแพร่แถลงการณ์ ขณะที่ก่อนหน้านั้น ค่าเงินหยวนที่ซื้อขายต่างประเทศ (Offshore) ปรับตัวดีขึ้นเล็กน้อยก่อนที่จะยังคงอ่อนตัวตลอดทั้งวัน

ขณะที่ดัชนีสำคัญของจีน  ณ เวลา 8.53 ของวันที่ 25 ก.ค. ดัชนี เซี้ยงไฮ้ คอมโพสิต (Shanghai Composite), ดัชนีฮั่งเซ็ง  (Hang Seng Index) และ ไชน่า เอ 50 (China A50) ปรับตัวสูงขึ้น 1.46% 2.83% และ 2.57% ตามลำดับ

โดยช่วงที่ผ่านมา บรรดานักลงทุนต่างเฝ้ารอมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลจีน หลังจากข้อมูลเศรษฐกิจจากสำนักงานสถิติเเห่งชาติแสดงให้เห็นว่าโมเมนตัมของการรีบาวด์เริ่มชะลอตัวในไตรมาสที่สอง ท่ามกลางความปั่นป่วนของภาคอสังหาริมทรัพย์และความเชื่อมั่นของภาคเอกชนที่อ่อนแอ ทั้งหมดนับเป็นความท้าทายหลักต่อเป้าหมายการเติบโตทางเศรษฐกิจประมาณ 5% ในปีนี้ของจีน

ขณะที่ ซิง จ่าวเพิง (Xing Zhaopeng) นักยุทธศาสตร์อาวุโสของจีนที่ ออสเตรเลีย แอนด์ นิวซีแลนด์ แบงกิ้งกรุ๊ป (Australia & New Zealand Banking Group Ltd.) ระบุว่า การประชุมครั้งนี้ประกอบด้วยประเด็นสำคัญ 2 ประการ 

“หนึ่งคือโปลิบูโลต้องการทําให้อุปสงค์ในประเทศนําหน้านโยบายอุตสาหกรรม ซึ่งชี้ให้เห็นถึงมาตรการตอบโต้วัฏจักรที่แข็งแกร่งขึ้น" และ "สอง การประชุมครั้งนี้ยังเน้นย้ำถึงความพยายามครั้งใหญ่สําหรับการกําจัดหนี้ของรัฐบาลท้องถิ่น"

โดยในช่วงที่ผ่านมา ภาระหนี้ของรัฐบาลท้องถิ่นปรับตัวเพิ่มขึ้นเนื่องจากตลาดอสังหาริมทรัพย์ตกต่ำ ส่งผลให้รายได้ของรัฐบาลท้องถิ่นลดน้อยลงถึง 50% ดังนั้นโปลิตบูโรจึงให้คํามั่นว่าจะจัดการกับความเสี่ยงของหนี้ของรัฐบาลท้องถิ่นอย่างมีประสิทธิภาพและ "คิดและดําเนินนโยบายใหม่เพื่อลดหนี้"

โดยสำนักข่าวบลูมเบิร์ก รายงานว่า รัฐบาลกําลังพิจารณาการแลกเปลี่ยนหนี้ (debt-swaps) และการปรับโครงสร้างเงินกู้ (loan restructuring) 

จับตาภาษาและท่าทีของโปลิบูโร

ทั้งนี้ วาทศิลป์ของโปลิตบูโรเกี่ยวกับภาคอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งคิดเป็น 20% ของตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายประเทศ (GDP) นั้นค่อนข้าง “เบาบางและไม่หนักแน่น” เท่าในการประชุมครั้งก่อนอย่างเห็นได้ชัด โดยละเว้นสโลแกนที่เป็นเอกลักษณ์ของนายสีที่ว่า "บ้านมีไว้เพื่อการอยู่อาศัย ไม่ใช่เพื่อการเก็งกําไร" ซึ่งถือเป็นถ้อยแถลงที่อ่อนโยนเป็นครั้งแรกในการทบทวนเศรษฐกิจในช่วงกลางปีตั้งแต่ปี 2562

ก่อนหน้านี้ บรรดานักเศรษฐศาสตร์ต่างส่งสัญญาณว่า ภาคอสังหาริมทรัพย์เป็นภาคส่วนที่ต้องการความช่วยเหลือมากที่สุด และมีข้อบ่งชี้อื่น ๆ ว่าเจ้าหน้าที่อยู่ในช่วงให้ความสําคัญกับอสังหาริมทรัพย์เช่นกัน 

จากข้อกังวลข้างต้น โดยทางการจีนเร่งพิจารณาผ่อนคลายข้อจํากัดการซื้อบ้านในเมืองระดับ 1 ของประเทศ ซึ่งอาจรวมถึงการยกเลิกกฎการจํานองที่ต้องการเงินดาวน์สูงขึ้นและมีวงเงินการกู้ยืมที่เข้มงวดมากขึ้นสําหรับผู้ซื้อบ้านที่เคยเป็นเจ้าของทรัพย์สินมาก่อน

ในขณะที่วิธีการใช้ภาษาของระดับผู้นำเมื่อกล่าวเกี่ยวกับนโยบายการคลังส่วนใหญ่ “ไม่เปลี่ยนแปลง” หลังจากท่าทีการคลังโดยรวมของจีนในช่วงครึ่งปีแรกตึงตัวขึ้นเมื่อเทียบกับปีที่แล้ว โดยโปลิตบูโรเรียกร้องให้ออกพันธบัตรรัฐบาลท้องถิ่นเร็วขึ้นซึ่งก่อนหน้านี้ถูกจํากัดด้วยโควต้าประจําปี

อย่างไรก็ตาม ถ้อยแถลงในการประชุมไม่ได้บอกเป็นนัยว่าจะขยายโควต้าเหมือนปีที่แล้วหรือไม่ เมื่อการล็อกดาวน์โคโรนาไวรัสส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจ แต่เจ้าหน้าที่ควร "ใช้ประโยชน์" กับช่องว่างของนโยบายที่มีอยู่ให้เป็นประโยชน์

ส่วนภาษาขณะแถลงเกี่ยวกับนโยบายการเงินยัง “สอดคล้อง” กับคําแถลงก่อนหน้านี้ แม้ว่าโปลิตบูโรจะบอกใบ้ว่าธนาคารกลาง (PBOC) เสริมสภาพคล่องที่ในภาคส่วนที่จำเป็นมากขึ้นเพื่อกระตุ้นยอดการปล่อยสินเชื่อให้กับภาคส่วนที่ได้รับการสนับสนุน ขณะที่เงินหยวนจะได้รับการคุ้มครองไว้ในสถานะที่มี "เสถียรภาพ" 

"รายละเอียดส่วนใหญ่สอดคล้องกับความคาดหวังของเราและตลาด ซึ่งอยู่ในระดับต่ำในการเริ่มต้น" มิเชล แลม (Michelle Lam) นักเศรษฐศาสตร์ชาวจีนแผ่นดินใหญ่ของ Societe Generale SA กล่าว 

พร้อมเสริมว่า "ผู้กําหนดนโยบายมุ่งเน้นไปที่ความยั่งยืนในระยะยาว และใช้แนวทางที่สามารถตรวจสอบผลลัพธ์ได้เพื่อสนับสนุนการเติบโตในระยะสั้น ทั้งนี้ ยังคงต้องรอดูว่ามาตรการกระตุ้นอุปสงค์ใหม่ๆ จะมีประสิทธิภาพหรือไม่เนื่องจากความเชื่อมั่นของนักลงทุนอยู่ในเกณฑ์ที่ไม่ดี"

ด้าน โปลิตบูโร กล่าวเพิ่มเติมด้วยการอ่านว่า ปัจจัยพื้นฐานระยะยาวของประเทศยังคงแข็งแกร่ง โดยให้คํามั่นว่าจะเพิ่มความเชื่อมั่นโดยทั่วไปในระบบเศรษฐกิจ รวมทั้งความเชื่อมั่นของนักลงทุนและตลาดทุน

"อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันการดําเนินงานทางเศรษฐกิจเผชิญกับปัญหาและความท้าทายใหม่ ๆ ส่วนใหญ่เกิดจากอุปสงค์ภายในประเทศอ่อนตัว ความยากลําบากในการดําเนินงานขององค์กรบางแห่ง ความเสี่ยงที่ซ่อนอยู่มากมายในพื้นที่สําคัญ และสภาพแวดล้อมภายนอกที่ซับซ้อนและรุนแรง" 

ท้ายที่สุด สี จิ้นผิง มั่นสัญญาที่จะขับเคลื่อนการพัฒนาไปในทางที่ดีต่อบรรดาบริษัท แพลตฟอร์มอินเทอร์เน็ตรวมถึงคําปฏิญาณที่จะเพิ่มการบริโภครถยนต์และผลิตภัณฑ์อิเล็กทรอนิกส์ด้วย

อ้างอิง

Bloomberg