ตลท.ผนึกพันธมิตร ชี้บทบาทผู้บริหาร ในการทรานส์ฟอร์มวิสัยทัศน์ ESG

ตลท.ผนึกพันธมิตร ชี้บทบาทผู้บริหาร ในการทรานส์ฟอร์มวิสัยทัศน์ ESG

ตลท.ผนึกพันธมิตร ชี้บทบาทผู้บริหาร ในการทรานส์ฟอร์มวิสัยทัศน์ ESG สู่การปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรม เพื่อสร้างศักยภาพการแข่งขัน ขยายโอกาสการเติบโตธุรกิจ ท่ามกลางปัจจัยท้าทายทุกภาคส่วนที่กำลังเผชิญในปัจจุบัน

นายภากร  ปีตธวัชชัย กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เปิดเผยว่า ปัจจุบันการดำเนินธุรกิจเผชิญกับความท้าทายรอบด้าน โดยเฉพาะประเด็นด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และบรรษัทภิบาล (ESG) ออกกฎเกณฑ์การทำธุรกิจที่เข้มงวดมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นมาตรการปรับราคาคาร์บอนก่อนเข้าพรมแดนของสหภาพ
ยุโรป (CBAM) และการพิจารณาให้สินเชื่อที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อมของธนาคารแห่งประเทศไทย ซึ่งจะมีผลในไตรมาส 3 ปี 2566 

สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นสิ่งที่ทำให้ธุรกิจต้องปรับตัวให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลง เพื่อจัดการกับความเสี่ยง และหาโอกาสใหม่ๆ ในการดำเนินธุรกิจ 

อย่างไรก็ตาม การปรับตัวรับการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นนี้ ไม่สามารถทำเพียงองค์กรต้องเคลื่อนไปพร้อมกัน โดยเริ่มจากผู้นำองค์กรในการกำหนดทิศทาง และวิสัยทัศน์ด้านความยั่งยืน เชื่อมโยงสู่
ฝ่ายจัดการ พนักงานทุกคนต้องมีส่วนร่วมในการขับเคลื่อน และสุดท้าย ESG จะถูกบูรณาการให้กลายเป็น DNA และ Culture ขององค์กรในที่สุด

ตลท.ผนึกพันธมิตร ชี้บทบาทผู้บริหาร ในการทรานส์ฟอร์มวิสัยทัศน์ ESG

ตลท.สนับสนุนให้ทุกภาคส่วนเห็นความสำคัญ และดำเนินงานด้วยความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม คำนึงถึงผู้มีส่วนได้เสียรอบด้าน และปฏิบัติตามหลักบรรษัทภิบาลอย่างต่อเนื่อง โดยมุ่งพัฒนา Ecosystem ของการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน สร้างความรู้ ความเข้าใจ รวมถึงสร้างเครื่องมือด้าน ESG เพื่อสนับสนุนภาคธุรกิจ อาทิ ระบบจัดการข้อมูลความยั่งยืน ESG Data Platform เพื่อเชื่อมโยงข้อมูลด้าน ESG ระหว่างบริษัทจดทะเบียนกับผู้ลงทุน

อีกทั้งรวบรวมบุคลากรที่ทำงานด้านความยั่งยืนในตลาดทุน (SET ESG Experts Pool) เพื่อสนับสนุนการขับเคลื่อนการพัฒนา ESG ในวงกว้าง ทั้งนี้ ผู้สนใจสามารถรับฟังสัมมนา “SET Sustainability Forum 2/2566 : จากเป้าหมายความยั่งยืน...สู่การปฏิบัติ” ย้อนหลังผ่านช่องทางออนไลน์ Facebook & YouTube : SET Thailand

 

 

 

นายสมโภชน์ อาหุนัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พลังงานบริสุทธิ์  จำกัด (มหาชน) หรือ EA ได้ร่วมแบ่งปันประสบการณ์ในฐานะผู้นำองค์กรที่ต้องบริหารจัดการธุรกิจภายใต้การเปลี่ยนแปลงที่รุนแรง และรวดเร็ว เปิดเผยว่า "ธุรกิจกับความยั่งยืน นั้นสามารถขับเคลื่อนไปบนถนนสายเดียวกันได้ เราจะทำธุรกิจอย่างไรที่จะ 'ช่วยโลก' ด้วย 'ทำเงิน' ด้วย นั่นคือ โจทย์ที่ผู้นำองค์กรต้องคิด และบริหารจัดการเพื่อสร้างความแตกต่างและเพิ่มความสามารถในการแข่งขัน รวมถึงการขับเคลื่อนนโยบาย และกลยุทธ์ที่ทำให้ทุกคนในองค์กรมองเห็นเป้าหมายเดียวกัน และไปด้วยกัน และเราจะเป็นธุรกิจที่ช่วยรักษา
สิ่งแวดล้อมเพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืน

ปัจจุบันเรื่องสิ่งแวดล้อมโดนกดดันจากภายใน (ปัญหาเศรษฐกิจสิ่งแวดล้อม สังคมความเหลื่อมล้ำ ความไม่เท่าเทียม) และภายนอก (การกีดกันการค้า ปัญหาโลกร้อน ) โดยบริษัททำธุรกิจทางด้านพลังงานสะอาดเป็นคำตอบในการเข้ามาแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อม และเป็นโอกาสที่ทำให้บริษัทเติบโตยั่งยืนในระยะยาว 

รวมถึงเข้าไปโน้มน้าวให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะภาครัฐ ร่วมสนับสนุนในเรื่องพลังงานสะอาด  มองว่า ไม่ว่าจะเป็นรัฐบาลชุดไหน หากมีนโยบายสนับสนุนพลังงานสะอาด จะส่งผลให้เกิดการหมุนเวียนของอุตสาหกรรม ทั้งเศรษฐกิจ และสังคมไทยได้ประโยชน์

นางศรีกัญญา ยาทิพย์ เลขาธิการ กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.) ได้ถ่ายทอดความรู้ประสบการณ์แนวทางบริหารจัดการ และทิศทางการลงทุนในอนาคตของ กบข. ในฐานะผู้ลงทุนสถาบันที่ให้ความสำคัญในการส่งเสริม และผลักดันเรื่องการลงทุนอย่างยั่งยืนของประเทศไทย ได้เน้นย้ำว่า ปัจจุบันเทรนด์การลงทุนอย่างยั่งยืนกำลังเติบโตอย่างรวดเร็วทั่วโลก ทำให้มีกระแสเงินลงทุนมหาศาลไหลเข้าสู่การลงทุนในกิจการที่คำนึงถึง ESG กบข. ตระหนักถึงบทบาทของการเป็น “นักลงทุนที่เป็นเจ้าของสินทรัพย์ทั่วโลก (Universal Owner)” เชื่อว่า กบข. สามารถสร้างผลตอบแทนที่ดีระยะยาวให้กับสมาชิกควบคู่ไปกับการสร้างผลตอบแทนทางสังคม จึงได้กำหนดกรอบนโยบาย และแนวทางในการลงทุนที่สนับสนุนการนำปัจจัยด้าน ESG มาบูรณาการพร้อมทั้งเพิ่มกระบวนการ Positive Engagement เพื่อส่งเสริม และกระตุ้นให้ผู้เกี่ยวข้องทุกภาคส่วนร่วมมือกันยกระดับการดำเนินงานด้าน ESG ซึ่งจะเป็นกลไกหลักในการขับเคลื่อนภารกิจด้านการลงทุนอย่างรับผิดชอบที่ยั่งยืนต่อไป

นางสาววรัญรัชต์ อัสสานุพงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่สายการเงิน บมจ. เอเชี่ยน อะไลอันซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล แลกเปลี่ยนมุมมองและประสบการณ์ในฐานะผู้บริหารที่มีบทบาทสำคัญในการเชื่อมโยงการขับเคลื่อนเรื่องความยั่งยืนในองค์กรสู่การปฏิบัติจริงว่า ทุกวันนี้ เป็นที่ยอมรับว่า ประเด็นด้านความยั่งยืน มีความสำคัญกับองค์กร ซึ่งในมิติความยั่งยืน  E S และ G มีหลากหลายประเด็นที่ล้วนสำคัญทั้งในด้านการสร้างโอกาสทางธุรกิจ และการสร้างผลตอบแทนที่ดีในระยะยาว ดังนั้น ESG Data จึงมีบทบาทในการช่วยจัดลำดับความสำคัญของประเด็นต่างๆ ที่กระทบกับองค์กร ยิ่งไปกว่านั้นในอนาคตอันใกล้ เราจะเห็นว่า ESG Data จะทวีความสำคัญเทียบเท่า Financial Data  และข้อมูลทั้งสองประเภทจะมีความสัมพันธ์เชื่อมโยงกัน ทำให้ CFO ต้องเข้ามามีบทบาทอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ 

 

 

พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์