ตำรวจสอบสวนกลางรวบสาวบัญชีม้า เอื้อแก๊งสแกมเมอร์ หลอกลงทุนหุ้นปลอม

ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) ร่วมกับตำรวจ สภ.ท่าม่วง จับกุม น.ส.ปรีญารัตน์ฯ อายุ 26 ปี ผู้ต้องหาเปิดบัญชีม้าให้แก๊งสแกมเมอร์ ผู้ต้องหาได้เปิดบัญชีธนาคาร 6 บัญชี แล้วนำไปขายให้กับขบวนการสแกมเมอร์ที่ประเทศกัมพูชา โดยได้รับค่าจ้าง 3,000 บาท บัญชีดังกล่าวถูกนำไปใช้รับเงินจากผู้เสียหายที่ถูกหลอกให้ลงทุนหุ้นผ่านแพลตฟอร์มปลอมชื่อ “Macquarie” ทำให้สูญเงินไปทั้งสิ้น 3,680,000 บาท
KEY
POINTS
- ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) ร่วมกับตำรวจ สภ.ท่าม่วง จับกุม น.ส.ปรีญารัตน์ฯ อายุ 26 ปี ผู้ต้องหาเปิดบัญชีม้าให้แก๊งสแกมเมอร์
- ผู้ต้องหาได้เปิดบัญชีธนาคาร 6 บัญชี แล้วนำไปขายให้กับขบวนการสแกมเมอร์ที่ประเทศกัมพูชา โดยได้รับค่าจ้าง 3,000 บาท
- บัญชีดังกล่าวถูกนำไปใช้รับเงินจากผู้เสียหายที่ถูกหลอกให้ลงทุนหุ้นผ่านแพลตฟอร์มปลอมชื่อ “Macquarie” ทำให้สูญเงินไปทั้งสิ้น 3,680,000 บาท
- จากการตรวจสอบพบว่าผู้ต้องหามีประวัติเคยถูกจับกุมในคดีลักษณะเดียวกันมาก่อน โดยในครั้งนี้ผู้ต้องหาให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา
ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ท่าม่วง ได้ร่วมกันจับกุม น.ส.ปรีญารัตน์ฯ อายุ 26 ปี ตามหมายจับศาลจังหวัดกาญจนบุรี ในความผิดฐาน “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน, โดยทุจริตหรือหลอกลวงร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอม และเปิดหรือยินยอมให้บุคคลอื่นใช้บัญชีเงินฝากของตน (บัญชีม้า)” โดยสามารถจับกุมได้ที่บริเวณการเคหะ เขตลาดกระบัง กรุงเทพมหานคร
ทั้งนี้ พฤติการณ์คือ กลุ่มมิจฉาชีพได้สร้างบัญชีเฟซบุ๊กปลอมเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการลงทุนหุ้นชื่อ “ทิวาฯ” เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ และชักชวนผู้เสียหายให้เพิ่มเพื่อนในแอปพลิเคชันไลน์เพื่อพูดคุยให้คำแนะนำ จากนั้นได้แนะนำให้รู้จักกับ “เดียร์ฯ” ซึ่งอ้างตัวเป็นที่ปรึกษาการลงทุนที่ได้รับอนุญาตจาก ก.ล.ต. เพื่อเพิ่มความน่าเชื่อถือยิ่งขึ้น ก่อนจะดึงผู้เสียหายเข้ากลุ่ม LINE OpenChat และแนะนำให้รู้จักกับสมาชิกในกลุ่ม (ซึ่งเป็นหน้าม้า) เพื่อสร้างความมั่นใจ
จากนั้นมิจฉาชีพได้หลอกลวงให้ผู้เสียหายเปิดบัญชีซื้อขายหลักทรัพย์ผ่านแพลตฟอร์มปลอมชื่อ “Macquarie” และให้โอนเงินเพื่อลงทุนไปยังบัญชีธนาคารต่างๆ ซึ่งเป็นบัญชีม้าที่กลุ่มคนร้ายเตรียมไว้ ผู้เสียหายหลงเชื่อจึงได้โอนเงินไปทั้งสิ้น 13 ครั้ง รวมเป็นเงิน 3,680,000 บาท
โดยแพลตฟอร์มดังกล่าวมีการแสดงผลกำไรที่สูงเกินจริง และในช่วงแรกยังสามารถถอนเงินจำนวนเล็กน้อยออกมาได้เพื่อหลอกให้ตายใจ ต่อมาเมื่อผู้เสียหายมีกำไรสะสมในระบบกว่า 20 ล้านบาท และต้องการถอนเงินจำนวนมาก คนร้ายกลับบ่ายเบี่ยงและอ้างเหตุผลต่างๆ ก่อนจะเรียกร้องให้ผู้เสียหายโอนเงินเพิ่มเป็นค่าดำเนินการอีกร้อยละ 10 ของกำไรทั้งหมด แต่ผู้เสียหายไม่สามารถหาเงินมาให้ได้ กลุ่มมิจฉาชีพจึงได้ตัดการติดต่อไปในที่สุด
ซึ่งจากการสืบสวนพบว่า น.ส.ปรีญารัตน์ฯ ผู้ต้องหารายนี้ เป็นหนึ่งในผู้ที่เปิดบัญชีธนาคารจำนวน 6 บัญชี แล้วนำไปขายให้กับขบวนการสแกมเมอร์ดังกล่าวที่ประเทศกัมพูชา โดยได้รับค่าตอบแทนเพียง 3,000 บาท จากการตรวจสอบยังพบว่าผู้ต้องหามีประวัติเคยถูกจับกุมในคดีลักษณะเดียวกันนี้มาแล้ว เจ้าหน้าที่จึงนำตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวน สภ.ท่าม่วง เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป เบื้องต้นผู้ต้องหาให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา
ทั้งนี้ ผลการปฏิบัติภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.ณัฐศักดิ์ เชาวนาศัย ผบช.ก., พล.ต.ต.พัฒนศักดิ์ บุปผาสุวรรณ ผบก.ป., ว่าที่ พ.ต.อ.เนติวิทย์ ธนาสิทธิ์นิติกุล ผกก.2 บก.ป., พ.ต.อ.พิทักษ์ ว่องพานิช ผกก.สภ.ท่าม่วง สั่งการให้ ว่าที่ พ.ต.ท.ไพรวรรณ ตั้นหลก สว.กก.2 บก.ป. พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม กก.2 บก.ป. และเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม สภ.ท่าม่วง ดำเนินการ







