มูลค่าตลาด Nvidia พุ่งทะลุ 33 ล้านล้านบาท หลังทุ่มพัฒนาผลิตภัณฑ์จาก ‘AI’ หนัก

มูลค่าตลาด Nvidia พุ่งทะลุ 33 ล้านล้านบาท หลังทุ่มพัฒนาผลิตภัณฑ์จาก ‘AI’ หนัก

“มูลค่าตลาด” ของบริษัทเอ็นวิเดียปรับตัวสูงขึ้นมากกว่า 1 ล้านล้านดอลลาร์ หรือกว่า 33 ล้านล้านบาท หลังซีอีโอ “เจนเซ่น หวง” ซุ่มพัฒนาผลิตภัณฑ์จากปัญญาประดิษฐ์หลายปี   

Key Points

  •  การประเมินมูลค่าทางการตลาดของหุ้นเอ็นวิเดียพุ่งสูงขึ้นมากกว่า 1 ล้านล้านดอลลาร์
  •  มูลค่าของบริษัทอยู่ในเกณฑ์เดียวกันกับ "บิ๊กเทค" ของสหรัฐ
  • ความสำเร็จส่วนใหญ่มาจากการพัฒนาระบบปัญญาประดิษฐ์

สำนักข่าวบลูมเบิร์ก (Bloomberg) รายงานวันนี้ (31 พ.ค.) ว่า การประเมินมูลค่าทางการตลาด (Valuation) ของหุ้นเอ็นวิเดีย (Nvidia) ปรับตัวสูงขึ้นมากกว่า 1 ล้านล้านดอลลาร์ (ประมาณ 33 ล้านล้านบาท) อย่างรวดเร็วเมื่อวานนี้ หลังจากเอ็นวิเดีย สร้างมูลค่าบริษัทให้อยู่ในเกณฑ์เดียวกับ Alphabet Inc., Amazon.com Inc., Apple Inc. และ Microsoft Corp. ได้

มูลค่าตลาดของบริษัทในกลุ่มเทคโนโลยี สหรัฐ

โดยในช่วงเริ่มต้นการซื้อขายเมื่อวานนี้ หุ้นเอ็นวิเดีย ปรับตัวเพิ่มขึ้นมากถึง 7.7% ส่งผลให้มูลค่าบริษัทแตะ 1 ล้านล้านดอลลาร์ ก่อนที่จะย่อตัวลงในช่วงบ่าย และในช่วงปิดตลาดหุ้นนิวยอร์ก ราคาหุ้นเอ็นวิเดียเพิ่มขึ้น 3% เป็น 401.11 ดอลลาร์ (ประมาณ 13,236.63 บาท) ทำให้ มูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด อยู่ที่ 990.7 พันล้านดอลลาร์ (ประมาณ 32.6931 ล้านล้านบาท)

ด้านบทวิเคราะห์ของสำนักข่าวบลูมเบิร์ก ระบุว่า เอ็นวิเดียเป็นบริษัทซึ่งทำธุรกิจเกี่ยวข้องกับเอไออันดับต้นๆ ที่บรรดานักวิเคราะห์จากวอลล์สตรีท (Wall Street) โปรดปราน ซึ่งบริษัทเทคโนโลยีดังกล่าวกลายเป็นผู้ผลิตชิปรายใหญ่ที่สุดของโลกที่จำเป็นต่อการขับเคลื่อนผลิตภัณฑ์ด้านเอไอรุ่นใหม่ ซึ่งแซงหน้า Advanced Micro Devices Inc. และ Intel Corp. ในด้านนวัตกรรม และความสามารถ เช่นเดียวกับความสำเร็จแบบก้าวกระโดดของ ChatGPT ที่ทำให้แทบทุกบริษัททั่วโลกหันมาใช้เอไอในการดำเนินงาน

ในการกล่าวสุนทรพจน์ที่มหาวิทยาลัยแห่งชาติไต้หวัน เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา เจนเซ่น หวง (Jensen Huang) ประธานกรรมการบริหารสูงสุด แบ่งปันปรัชญาที่ทำให้บริษัทมาถึงจุดที่ประสบความสำเร็จ ต่อบัณฑิตว่า 

“ให้วิ่ง อย่าเดิน” พร้อมเสริมว่า “ไม่ว่าคุณกำลังวิ่งหาอาหาร หรือคุณกำลังวิ่งหนีจากการกลายเป็นอาหารก็ตาม”

ทั้งนี้ความทะเยอทะยานของ หวง และการเต็มใจที่จะรับความเสี่ยงที่เหล่าธุรกิจซึ่งดำเนินธุรกิจภายใต้บรรดาคณะกรรมการบริหารไม่กล้าที่จะทำคือ สิ่งที่ผลักดัน เอ็นวิเดียให้ประสบความสำเร็จ 

โดย หวง เดิมพันครั้งใหญ่กับระบบเอไอมาหลายปีก่อนที่หลายคนจะให้ความสนใจ  และปัจจุบันความพยายามดังกล่าวก็ได้รับการพิสูจน์แล้วว่า “เอไอคือ ห่านทองคำของบริษัท”

ทั้งนี้ หุ้นของเอ็นวิเดีย พุ่งสูงขึ้นตั้งแต่สัปดาห์ที่แล้วเมื่อ บริษัทให้เอไอคาดการณ์การขาย ซึ่งทำลายประมาณการของบรรดานักวิเคราะห์จากวอลล์สตรีท  โดยหุ้นดังกล่าวปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในวันอังคารหลังจากประกาศผลิตภัณฑ์ใหม่ที่เกี่ยวข้องกับเอไอหลายรายการในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งครอบคลุมทุกอย่างตั้งแต่ หุ่นยนต์ เกม ไปจนถึงการโฆษณา 

รวมทั้ง หวง ยังเปิดตัวแพลตฟอร์ม ซูเปอร์คอมพิวเตอร์ เอไอที่จะช่วยให้บริษัทเทคโนโลยีสร้าง ChatGPT ในรูปแบบของตนเองได้

อ้างอิง

1. Bloomberg 

พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์