“หุ้นไทย” ร่วง 1.80 จุด พักฐานไร้ปัจจัยกระตุ้น - รอตัวเลขเศรษฐกิจกลางสัปดาห์

ความเคลื่อนไหวดัชนีตลาด “หุ้นไทย” วันนี้ผันผวนในทิศทางเพิ่มขึ้นเกือบทั้งวันก่อนมาปิดตลาดในแดนลบ ซึ่งดัชนีตลาดหุ้นไทยทำจุดต่ำสุดอยู่ที่ 1,588.25 จุด ก่อนมาปิดตลาดที่ 1,591.85 จุด ลดลง 1.80 จุด หรือ 0.11% มูลค่าซื้อขาย 44,924.85 ล้านบาท

หุ้นที่มีมูลค่าซื้อขายสูงสุด 5 ลำดับแรก ได้แก่

1. CPALL  มูลค่า 1,843,38 ล้านบาท ราคาหุ้นปิดที่ 62.75 บาท ลดลง 0.75 บาท หรือ 1.18%

2. PTTEP มูลค่า 1,670.43 ล้านบาท ราคาหุ้นปิดที่ 143.50 บาท เพิ่มขึ้น 1.00 บาท หรือ 0.70%

3. DELTA มูลค่า 1,494.30 ล้านบาท ราคาหุ้นปิดที่ 994 บาท เพิ่มขึ้น 6.00 บาท หรือ 0.61%

4. KBANK มูลค่า 1,440.12 ล้านบาท ราคาหุ้นปิดที่ 131.50 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลงจากราคาปิดก่อนหน้า

5. AOT มูลค่า 1,268.20 ล้านบาท ราคาหุ้นปิดที่ 72 บาท เพิ่มขึ้น 0.25 บาท หรือ 0.35%

นายณัฐพล คำถาเครือ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัท หลักทรัพย์ (บล.) หยวนต้า (ประเทศไทย) กล่าวว่า วันนี้ดัชนีตลาดหุ้นไทยเเกว่งในลักษณะพักฐาน เนื่องจากขาดปัจจัยด้านบวกเข้ามาสนับสนุน โดยตลาดแกว่งในลักษณะทรงตัวเพื่อรอประกาศตัวเลขทางเศรษฐกิจสำคัญ 3 อย่างคือ

1. วันพุธ ที่ 29 มี.ค. คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) จะประกาศตัวเลขทางเศรษฐกิจ
2. สหรัฐประกาศตัวเลขดัชนีราคาการใช้จ่ายด้านการบริโภคพื้นฐานส่วนบุคคล (Core PCE Price Index) ในวันศุกร์ ที่ 31 มี.ค.
3. ทางการจีนประกาศตัวเลขดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ในวันศุกร์ ที่ 31 มี.ค.

สำหรับต้นสัปดาห์หน้าดัชนีตลาดหุ้นไทยจะยังคงแกว่งในลักษณะทรงตัวรอตัวเลขดังกล่าว ด้วยแนวรับอยู่ในช่วง 1,580 จุด - 1,585 จุด ส่วนแนวต้าน 1,600 จุด

ด้านการแนะนำในการลงทุนต้นสัปดาห์หน้า แนะนำหุ้นที่จะได้ประโยชน์จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจภายในประเทศ หรือหุ้นที่จะได้ประโยชน์จากการฟื้นตัวของภาคเศรษฐกิจในประเทศ (Domestice Play) เช่น กลุ่มอาหาร เครื่องดื่ม สื่อสาร ค้าปลีก และไฟแนนซ์ รวมทั้งหุ้นที่ได้ลุ้นตัวเลข PIM ของจีนอย่างกลุ่มปิโตรเคมีเป็นต้น

 

 

พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์