“หุ้นไทย” บวก 8.57 จุด เหตุสถานการณ์แบงก์ต่างประเทศดีขึ้น หนุนมีแรงซื้อกลับ

“หุ้นไทย” บวก 8.57 จุด เหตุสถานการณ์แบงก์ต่างประเทศดีขึ้น หนุนมีแรงซื้อกลับ

“หุ้นไทย” ปิดตลาดวันนี้ 1,593.65 จุด เพิ่มขึ้น 8.57 จุด หรือ 0.54% “บลจ.เมอร์ชั่น พาร์ทเนอร์” ชี้ ก่อนหน้านี้หุ้นไทยปรับตัวลงเยอะจึงไม่แปลกที่จะรีบาวด์ขึ้นมา ประกอบกับสถานการณ์แบงก์ในยุโรป - สหรัฐดีขึ้น ประเมินแนวรับพรุ่งนี้อยู่ที่ 1,580 จุด ส่วนแนวต้าน 1,600 จุด

ความเคลื่อนไหวดัชนีตลาด “หุ้นไทย” วันนี้ผันผวนในทิศทางปรับขึ้นตลอดทั้งวัน ซึ่งดัชนีตลาดหุ้นไทยทำจุดสูงสุดอยู่ที่ 1,598.59 จุด และต่ำสุดอยู่ที่ 1,577.70 จุด ก่อนมาปิดตลาดที่ 1,593.65 จุด เพิ่มขึ้น 8.57 จุด หรือ 0.54% มูลค่าซื้อขาย 49,431.84 ล้านบาท

หุ้นที่มีมูลค่าซื้อขายสูงสุด 5 ลำดับแรก ได้แก่

1. CPALL  มูลค่า 1,637.20 ล้านบาท ราคาหุ้นปิดที่ 63.50 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท หรือ 0.79%

2. KBANK มูลค่า 1,514.88 ล้านบาท ราคาหุ้นปิดที่ 131.50 บาท เพิ่มขึ้น 1.00 บาท หรือ 0.77%

3. ADVANC มูลค่า 1,476.45 ล้านบาท ราคาหุ้นปิดที่ 213 บาท ลดลง 1.00 บาท หรือ 0.47%

นายประกิต สิริวัฒนเกตุ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) เมอร์ชั่น พาร์ทเนอร์ กล่าวว่า วันนี้ดัชนีตลาดหุ้นไทยปรับตัวสูงขึ้นเนื่องจาก ช่วงก่อนหน้าหุ้นไทยปรับตัวลงเยอะ รวมทั้ง Valuation อยู่ในเกณฑ์ต่ำ จึงทำให้มีแรงซื้อกลับเข้ามา ประกอบกับสถานการณ์แบงก์ในยุโรป และสหรัฐปรับตัวดีขึ้น 

“พูดง่ายๆ เลยนะครับ ตอนนี้หุ้นไทยมันถูก คนก็เลยแห่กันกลับมาซื้อ โดยเฉพาะตัวที่พื้นฐานดี และมูลค่าตลาดต่ำกว่ามูลค่าแท้จริงหรือ Undervalue” 

สำหรับวันพรุ่งนี้ (24 มี.ค.) ดัชนีตลาดหุ้นไทยอาจแกว่งตัวในลักษณะมีพักฐานด้วยแนวรับ 1,580 จุด ส่วนแนวต้าน 1,600 จุด โดยวันพรุ่งนี้ แนะนำลงทุนหุ้นที่ Undervalue เช่น SCB KBANK BAM CRC และ MAKRO เป็นต้น 

 

 

 

พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์