ก.ล.ต.เดินหน้าแผนพัฒนาตลาดทุนไทย หนุนตลาดทุนเป็นกลไกขับเคลื่อนเศรษฐกิจ

ก.ล.ต.เดินหน้าแผนพัฒนาตลาดทุนไทย หนุนตลาดทุนเป็นกลไกขับเคลื่อนเศรษฐกิจ

ก.ล.ต. พร้อมเดินหน้ารับแผนพัฒนาตลาดทุนไทย ฉบับที่ 4 (ปี 2565-2570) สนับสนุนให้ตลาดทุนเป็นกลไกสำคัญช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ

สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) พร้อมเดินหน้ารับแผนพัฒนาตลาดทุนไทย ฉบับที่ 4 (ปี 2565-2570) เพื่อให้ตลาดทุนไทยเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงเป้าหมาย (Key results) 5 ด้าน ตามแผนยุทธศาสตร์ ก.ล.ต. ปี 2566-2568 

ตามที่คณะรัฐมนตรีได้รับทราบแผนพัฒนาตลาดทุนไทย ฉบับที่ 4 (ปี 2565-2570) เมื่อวันอังคาร ที่ 31 ม.ค. 2566 โดยมี 5 ยุทธศาสตร์สำคัญในการขับเคลื่อนตลาดทุนไทยให้เติบโต และเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนของเศรษฐกิจของประเทศ ได้แก่

  • ยุทธศาสตร์ที่ 1 ตลาดทุนเพื่อการแข่งขันได้ (Competitiveness) เป็นการเพิ่มศักยภาพ และขีดความสามารถในการแข่งขันของทุกภาคส่วนในตลาดทุนไทย และระบบเศรษฐกิจ
  • ยุทธศาสตร์ที่ 2 ตลาดทุนที่เข้าถึงได้ (Accessibility) เป็นตลาดทุนที่เอื้อให้ทุกภาคส่วนสามารถเข้ามาใช้ประโยชน์ได้
  • ยุทธศาสตร์ที่ 3 ตลาดทุนดิจิทัล (Digitalization) เป็นการส่งเสริม ประยุกต์ และใช้เทคโนโลยี และดิจิทัลในตลาดทุน
  • ยุทธศาสตร์ที่ 4 ตลาดทุนเพื่อความยั่งยืน (Sustainability) เป็นการมุ่งเน้นส่งเสริมความยั่งยืนของทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องกับตลาดทุนไทย และระบบเศรษฐกิจในระยะยาว
  • ยุทธศาสตร์ที่ 5 ตลาดทุนเพื่อความอยู่ดีมีสุขทางการเงิน (Financial well-being) ของประชาชน เป็นการมุ่งเน้นสร้างผลลัพธ์ทางการเงินที่ดี รวมถึงการสร้างโอกาสในการลงทุน โดยมีการบริหารความเสี่ยงอย่างเหมาะสม

ก.ล.ต. ในฐานะหน่วยงานที่ได้รับมอบหมายให้ดำเนินการจัดทำแผนพัฒนาตลาดทุนไทย ฉบับที่ 4 (ปี 2565-2570)ร่วมกับผู้ที่เกี่ยวข้องในตลาดทุน มีบทบาทเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยพัฒนาตลาดทุนไทยให้เติบโต ซึ่งเป็นเสาหลักในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยให้รุดไปข้างหน้า สอดรับกับนโยบายทางเศรษฐกิจของประเทศ ก.ล.ต. จึงพร้อมปฏิบัติตามทิศทางยุทธศาสตร์ของแผนฉบับดังกล่าว

โดยสะท้อนอยู่ในแผนยุทธศาสตร์ ก.ล.ต. ปี 2566-2568 ที่มุ่งเป้าให้ตลาดทุนไทยมีโอกาส และสามารถรับมือกับความท้าทายจากสถานการณ์ปัจจุบัน และแนวโน้มการเปลี่ยนแปลงสำคัญที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว และมีผลกระทบต่อภาคการเงินการลงทุนมากยิ่งขึ้น รวมถึงสานต่อการดำเนินการที่ ก.ล.ต. ได้พัฒนาต่อยอดให้ตลาดทุนไทยขับเคลื่อนไปในทิศทางที่เหมาะสมอย่างต่อเนื่อง 

สำหรับแผนยุทธศาสตร์ของ ก.ล.ต. ปี 2566 – 2568 มีเป้าหมายหลัก 5 ด้าน ดังนี้

     (1) การส่งเสริมตลาดทุนให้เป็นกลไกสำคัญในการส่งเสริมโครงสร้างเศรษฐกิจไทยให้เข้มแข็ง โดยสร้างระบบนิเวศน์ให้เอื้ออำนวยต่อการระดมทุนของกลุ่มธุรกิจเป้าหมาย อาทิ กลุ่มวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) กลุ่มเศรษฐกิจชีวภาพ เศรษฐกิจหมุนเวียน และเศรษฐกิจสีเขียว (BCG) กลุ่มอุตสาหกรรมเป้าหมายใหม่ (S-curve) และธุรกิจส่งเสริม Soft Power*

     (2) การเป็นตลาดทุนดิจิทัลเพื่อส่งเสริมศักยภาพทางเศรษฐกิจของประเทศ โดยการพัฒนาระบบนิเวศน์เทคโนโลยี และนวัตกรรมเพื่อรองรับการแข่งขัน รวมถึงการนำเทคโนโลยีมาใช้ในการพัฒนาและกำกับดูแลตลาดทุน และการยกระดับการกำกับดูแลความปลอดภัยทางไซเบอร์

     (3) การยกระดับศักยภาพให้เป็นตลาดทุนเพื่อความยั่งยืน (Sustainable Capital Market) โดยมุ่งเน้นการเสริมสร้างความยั่งยืนให้แก่บริษัทที่ระดมทุนจากตลาดทุน และผลักดันให้ตลาดทุนเป็นกลไกสำคัญในการบรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนของประเทศ

     (4) การเป็นตลาดทุนที่มีการพัฒนาและกำกับสอดรับกับฉากทัศน์ที่เปลี่ยนแปลงไป เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ และเป็นที่ยอมรับของผู้ลงทุน โดยกำหนดนโยบาย ทิศทางการพัฒนา และกำกับผู้ประกอบธุรกิจให้สอดรับและเท่าทันภูมิทัศน์ (landscape) ที่เปลี่ยนไป รวมถึงเสริมสร้างความร่วมมือกับหน่วยงานกำกับดูแลต่างประเทศในการยกระดับความเชื่อมโยง และส่งเสริมผลิตภัณฑ์ทางการเงินข้ามกัน

     (5) การสนับสนุนให้ตลาดทุนเป็นแหล่งสะสมความมั่งคั่งได้อย่างเหมาะสม โดยส่งเสริมให้ผู้ลงทุนมีศักยภาพในการสร้างสุขภาพทางการเงินที่ดี และสนับสนุนให้ประชาชนใช้ตลาดทุนเป็นแหล่งสะสมความมั่งคั่งได้อย่างเหมาะสม ด้วยการส่งเสริมให้ได้รับความรู้ด้านการเงินการลงทุน (financial literacy) รวมถึงการป้องกันตนเองจากการถูกหลอก รวมถึงความรู้ ความเข้าใจด้านเทคโนโลยีในการใช้บริการด้านตลาดทุน 

ทั้งนี้ ก.ล.ต. ได้กำหนดให้มีแผนองค์กรนวัตกรรม เพื่อขับเคลื่อนให้ ก.ล.ต. เป็นองค์กรแห่งนวัตกรรมที่มีขีดสมรรถนะสูง สามารถให้บริการที่ตอบโจทย์ และเชื่อถือได้ ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่จะช่วยส่งเสริมการขับเคลื่อนและผลักดันภารกิจให้เกิดผลสัมฤทธิ์ และบรรลุเป้าหมายตามที่ตั้งไว้

 

 

พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์