“หุ้นไทย” ปิดตลาดลบ 0.08 จุด คาดพรุ่งนี้รีบาวด์

ความเคลื่อนไหวดัชนีตลาด “หุ้นไทย” วันนี้ผันผวนในทิศทางปรับตัวลดลงเกือบทั้งวัน ซึ่งดัชนีทำจุดต่ำสุดอยู่ที่ 1,676.51 จุด ก่อนมาปิดตลาดที่ 1,681.22 จุด ลดลง 0.08 จุด หรือ 0.00% มูลค่าซื้อขาย 54,952.17 ล้านบาท

หุ้นที่มีมูลค่าซื้อขายสูงสุด 5 ลำดับแรก ได้แก่

1. BBL มูลค่า 2,565.75 ล้านบาท ราคาหุ้นปิดที่ 161 บาท ลดลง 1.50 บาท หรือ 0.92%

2. KBANK มูลค่า 2,388.38 ล้านบาท ราคาหุ้นปิดที่ 146 บาท ลดลง 1.50 หรือ 1.02%

3. BANPU มูลค่า 2,021.51 ล้านบาท ราคาหุ้นปิดที่ 12 บาท ลดลง 0.30 บาท หรือ 2.44

4. DELTA มูลค่า 1,914.57 ล้านบาท ราคาหุ้นปิดที่ 898 บาท เพิ่มขึ้น 26 บาท หรือ 2.98%

5. ADVANC มูลค่า 1,725.54 ล้านบาท ราคาหุ้นปิดที่ 197.50 บาท ลดลง 2.50 บาท หรือ 1.25%

นายกิจพณ ไพรไพศาลกิจ ผู้อำนวยการนักกลยุทธ์ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) กล่าวว่า วันนี้ดัชนีตลาดหุ้นไทยเคลื่อนไหวในกรอบแคบ เนื่องจากยังไม่มีปัจจัยเพิ่มเติมเข้ามากระตุ้นตลาด

 

ทั้งนี้ มีปัจจัยที่น่าติดตามในสัปดาห์นี้คือ

(+) รายงานตัวเลขเศรษฐกิจฉบับใหม่ของกองทุนการเงินระหว่างประเทศ หรือไอเอ็มเอฟ วันพรุ่งนี้ (31 ม.ค. 2566)

(+) ผลการประชุมเกี่ยวกับตัวเลขเศรษฐกิจของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) วันที่ 1 ก.พ. 2566

(+/-) ความชัดเจนของวันเลือกตั้งที่อาจเกิดขึ้นในช่วงต้นเดือนพฤษภาคม

“สภาวะตลาดหุ้นหลังการประชุมของเฟดจะมีความชัดเจนมากขึ้น ในอีกด้านหนึ่ง หากไอเอ็มเอฟกล่าวในแนวทางที่ว่า ทิศทางเศรษฐกิจโลกจะเป็นบวก ผ่านการปรับประมาณการจีดีพีของโลกปีหน้าขึ้น และระบุว่าเศรษฐกิจอเมริกาจะไม่ถดถอยเหมือนในยุโรปช่วงที่ผ่านมาคือ ทิศทางของทั้งโลกเริ่มฟื้นตัว หากเป็นตามคาดการณ์นี้ ตลาดอาจตอบรับในเชิงบวก”

สำหรับดัชนีหุ้นไทยวันพรุ่งนี้ (31 ม.ค. 2566) ยังคงเคลื่อนไหวในกรอบแคบ ในทิศทางปรับตัวเพิ่มขึ้น ด้วยแนวรับ 1,670 จุด ส่วนแนวต้านอยู่ระหว่าง 1,688-1,695 จุด จากปัจจัยชุดเดิม สำหรับคำแนะนำในการลงทุนระยะสั้นควรลงทุนในหน้าหุ้นที่เกี่ยวกับการเปิดเมืองที่ยังปรับตัวขึ้นน้อย และกลุ่มที่ได้รับอานิสงส์จากราคาพลังงานที่อาจจะปรับตัวลงต่ำกว่าปี 2565 

 

 

พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์