SAWAD รวบตึง | ออฟเรคคอร์ด

๐๐๐ SAWAD   รวบตึง

      งบแบงก์ออกมาทำเอาลากกระทบ หุ้นไฟแนนซ์ “กลัวจะซ้ำรอย” กลายเป็นหุ้นใหญ่ในกลุ่ม และในตลาดนอนแบงก์  SAWAD กลับทำราคาหุ้นรีบาวด์

       ราคาหุ้นยืนเหนือ 50 บาท มาได้สลับย่อ และพักฐาน แต่ราคายังสามารถขึ้นมาบวก และปิดที่ 54.25 บาท เพิ่มขึ้น 0.93% ท่ามกลางปัจจัยลบประชุม กนง. (25 ม.ค.)ทรงขึ้นดอกเบี้ย 0.25% เป็น 1.50% เพิ่มต้นทุนทางการเงินกลุ่มนี้ตรงๆ 

     ราคาหุ้นขึ้นมาสวนทางกับปัจจัยกดดันในกลุ่มอุตสาหกรรม ถือได้ว่าต้องโฟกัสไปที่ SAWAD กันละทีนี้ว่าเตรียมจะเขย่าตลาดทรงไหน 

      เพราะข่าวมาไวว่าแผนที่ลุยจะบุกตะลุย “สินเชื่อ - ขยายพอร์ต” เร่งโตปี 2566 ถึง 25% ไม่ได้ราคาคุย แม้จะมีทั้งเรื่องดอกเบี้ยขาขึ้น - คุมเพดานลิสซิ่งมาบีบไว้ 

      แต่กลุ่ม “แก้วบุตตา”   ทำจริงพูดจริง และวางแผนไปที่พอร์ต ลิสซิ่งรถจักรยานยนต์ แน่นอน เพราะถือว่าเป็นพอร์ตที่มีสัดส่วนน้อยที่สุด 

        ที่สำคัญไม่กลัวคู่แข่ง เพราะทั้ง “ดึง-ซื้อ”  “ทีมคู่แข่ง” ได้พอร์ตลูกค้ามาไว้ในมือเรียบร้อย SAWAD ไปแล้วนะซิ 

๐๐๐

หุ้นไทยแกว่งตัวในกรอบแคบๆ โดยมีแรงขายออกมาในช่วงท้ายตลาด หลังตัวเลขส่งออกต่ำกว่าคาด เดือน ธ.ค. ติดลบมากถึง 14.6% ส่วนวันนี้รอติดตามการประชุมของ กนง. นัดแรกของปี เพื่อจับสัญญาณอัตราดอกเบี้ย

โดยดัชนีฯ ปิดการซื้อขายที่ 1,682.94 จุด ลดลง 1.10 จุด หรือ 0.07% ระหว่างวันแตะระดับสูงสุดที่ 1,693.97 จุด และระดับต่ำสุดที่ 1,682.58 จุด มูลค่าการซื้อขาย 56,587.29 ล้านบาท

นักลงทุนต่างชาติขาย 867 ล้านบาท นักลงทุนสถาบันขาย 787.47 ล้านบาท ส่วนพอร์ตโบรกเกอร์ ซื้อ 27.16 ล้านบาท และนักลงทุนรายซื้อ 1,627.31 ล้านบาท

๐๐๐

หลังเลื่อนแล้วเลื่อนอีก! เฝ้ารอมาหลายสัปดาห์ ในที่สุด ครม. ไฟเขียว มาตรการ “เราเที่ยวด้วยกัน” เฟส 5 เป็นที่เรียบร้อย ทั้งหมด 5.6 แสนสิทธิ หวังกระตุ้นการท่องเที่ยวในประเทศให้คึกคักขึ้นไปอีก โดยจะเริ่มเปิดใช้สิทธิตั้งแต่ก.พ.- ก.ย. นี้

แน่นอนว่าเป็นข่าวดีเต็มๆ สำหรับ “หุ้นโรงแรม” ที่รัฐจะช่วยออกค่าห้องพักสูงสุดไม่เกินคืนละ 3,000 บาท ราคาหุ้นเลยจับมือกันขึ้นมาอย่างพร้อมเพรียง

โดยบมจ.ดิ เอราวัณ กรุ๊ป (ERW) ปิด 4.78 บาท เพิ่มขึ้น 0.10 บาท หรือ 2.14%, บมจ.โรงแรมเซ็นทรัลพลาซา (CENTEL) ปิด 51.75 บาท เพิ่มขึ้น 1 บาท หรือ 1.97% ส่วนบมจ.ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล (MINT) ปิด 33.25 บาท เพิ่มขึ้น 0.75 บาท หรือ 2.31% จะเห็นว่าราคาหุ้นแต่ละตัวพุ่งทะลุช่วงก่อนเกิดโควิดไปแล้ว ควรต้องเพิ่มความระมัดระวังมากขึ้น

๐๐๐

ส่วนบมจ.เอสซีจี แพคเกจจิ้ง (SCGP) งบออกมาน่าผิดหวัง กำไรหายไปกว่า 2 พันล้านบาท จากดีมานด์ที่ลดลงหลังจีนปิดประเทศ ประกอบกับต้นทุนที่พุ่งสูงขึ้น เลยทำให้มีแรงเทขายออกมาตามระเบียบ ปิด 53.50 บาท ลดลง 1.75 บาท หรือ 3.17% แต่บรรดากูรูหลายสำนักเห็นตรงกันว่าจุดต่ำสุดได้ผ่านไปแล้ว

๐๐๐

ด้านแม่ลูกตระกูล F ราคาพุ่งติดเทอร์โบ บมจ.ฟอร์ท คอร์ปอเรชั่น (FORTH) บวก 12.23% ปิด 39 บาท และบมจ.ฟอร์ท สมาร์ท เซอร์วิส (FSMART) บวก 14.08% ปิด 16.20 บาท รับจิตวิทยาเชิงบวกจากการเปิดตัวโปรดักส์ใหม่ตู้เติมเงินชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า ด้วยชื่อสุดเก๋ “ตู้กิ้งก่า EV” เรียกว่าเกาะกระแสอีวีสุดๆ เดี๋ยวคงต้องรอดูว่ากระแสตอบรับจะถล่มทลายเหมือนตู้เต่าบินก่อนหน้านี้หรือเปล่า?

 

 

พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์