‘เคที เมดิคอล’เข้าเทรดกลางธ.ค. เตรียมเคาะราคาขายไอพีโอ6 ธ.ค.65

‘เคที เมดิคอล’เข้าเทรดกลางธ.ค. เตรียมเคาะราคาขายไอพีโอ6 ธ.ค.65

“เคที เมดิคอล” มั่นใจหุ้นได้รับการตอบรับดีจากนักลงทุน เหตุ เป็นหุ้นยั่งยืน “รายได้โตเฉลี่ยปีละ30%-ช่วยเหลือสังคม” เตรียมเคาะราคาขายไอพีโอ 6 ธ.ค. -เข้าเทรดในตลาดเอ็มเอไอ กลางเดือนธ.ค.65

  บริษัท เคที เมดิคอล เซอร์วิส จำกัด (มหาชน)หรือ KTMS ผู้ให้บริการฟอกเลือดด้วยเครื่องไตเทียมแบบครบวงจร บริษัทแรกที่เตรียมเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ โดยเสนอขายหุ้นต่อประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO)  จำนวน76.63 ล้านหุ้น ในสัปดาห์แรกของเดือนธ.ค.และเข้าซื้อขายวันแรก(เทรด)ในตลาดหลักทรัพย์เอ็มเอไอ (mai)กลางเดือนธ.ค.2565

นางสาวกาญจนา พงศ์พัฒนะเดชา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เคที เมดิคอล เซอร์วิส จำกัด (มหาชน)หรือ KTMS กล่าวว่า บริษัทมั่นใจจะได้รับการตอบรับที่ดีจากนักลงทุน  เพราะช่วงที่นำเสนอข้อมูล(โรดโชว์)แก่นักลงทุน ได้รับการตอบรับที่ดี ด้วยจุดแข่งที่บริษัทเป็นผู้ให้บริการบริการฟอกเลือดด้วยเครื่องไตเทียมที่ครบวงจร  มีส่วนแบ่งการตลาด(มาร์เก็ตแชร์) อันดับต้นๆของอุตสาหกรรม ประกอบกับมีทีมแพทย์ พยาบาลและบุคลากรที่มีความเชี่ยวชาญในการให้บริการ และฐานะการเงินที่แข็งแกร่ง มีหนี้สินต่อทุนD/E ที่ต่ำ

รวมถึงแนวโน้มผลการดำเนินงานที่เติบโตต่อเนื่อง ซึ่งในช่วง 3 ปี ที่ผ่านมามีอัตราการเติบโตเฉลี่ยปีละ30% เนื่องจาก จำนวนผู้ป่วยโรคไตที่มีอัตราเพิ่มขึ้นเฉลี่ยปีละ15% และสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.)ได้ออกประกาศเพิ่มทางเลือกผู้ป่วยไตวายเรื้อรังสิทธิบัตรทอง  สามารถเลือกใช้วิธีฟอกเลือดได้โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายเองตั้งแต่1 ก.พ. นี้เป็นต้นไป 

 ดังนั้น ทำให้มีผู้ที่เข้ามาใช้บริการมากขึ้น ซึ่งปกติผู้ที่เป็นผู้ป่วยโรคไตต้องได้รับการฟอกไตเดือนละ 2-3 ครั้งต่อสัปดาห์ ซึ่งค่าบริการครั้งละ 1,500 บาท สะท้อนมาที่กำไรงวด9 เดือนปีนี้ อยู่ที่15.66 ล้านบาท ซึ่งเกือบเท่ากับกำไรทั้งปี2564 อยู่ที่16.80 ล้านบาท

 

  "เรามองว่าหุ้น  KTMS เป็นหุ้นยั่งยืน เพราะ  มีการช่วยเหลือสังคม(Social) และผลดำเนินงานเติบโตต่อเนื่องจากจำนวนผู้ป่วยโรคไตที่เพิ่มขึ้น  แม้ปัจจุบันคนจะหันมาใส่ใจสุขภาพมากขึ้น แต่ยังไม่สามารถลดจำนวนผู้ป่วยลงได้ในระยะสั้น" 

นางสาวกาญจนา กล่าวว่า จากจำนวนผู้ใช้บริการที่เพิ่มขึ้นและอัตราการใช้เครื่องฟอกไต ที่สูงระดับ 75-80%  ทำให้บริษัทต้องระดมทุนเพื่อขยายสาขาอีก 14 แห่ง ทั้งสาขาในโรงพยาบาลบริษัทจึงต้องการระดมทุน และสาขาคลีนิก จากปัจจุบันที่มีสาขารวมจำนวน 21 สาขา , ลงทุนโรงงานผลิตน้ำยาไตเทียม  ซื้อเครื่องฟอกไตเทียมอีก 123 เครื่อง จากณ สิ้นก.ย.อยู่ที่ 254 เครื่องฯลฯ