“บลูบิค” ทุ่มพันล้าน ปิด 2 ดีลบิ๊กเทคฯ หนุนปี 66 โตแบบก้าวกระโดด

“บลูบิค” ทุ่มพันล้าน ปิด 2 ดีลบิ๊กเทคฯ  หนุนปี 66 โตแบบก้าวกระโดด

“บลูบิค” ทุ่มงบกว่า 1 พันล้านบาทปิด 2 ดีลเข้าซื้อกิจการบิ๊กเทคฯ หน่วยธุรกิจดิจิทัลดิลิเวอรี เอ็ม เอฟ อี ซี - อินโนวิซ โซลูชั่นส์ เพิ่มขีดความสามารถส่งมอบงาน และบริหารจัดการระบบเทคโนโลยี รับเศรษฐกิจดิจิทัลทั้งใน และต่างประเทศ วางเป้าหมายเติบโตแบบก้าวกระโดดในปี 2566

นายพชร อารยะการกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บลูบิค กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ BBIK เปิดเผยว่า บริษัททุ่มงบกว่า 1,000 ล้านบาท เข้าซื้อกิจการในสัดส่วน 100% ของ 2 บริษัทชั้นนำในกลุ่มอุตสาหกรรมเทคโนโลยีระดับประเทศ ได้แก่ 1. หน่วยธุรกิจ Digital Delivery ของ บริษัท เอ็ม เอฟ อี ซี จำกัด (มหาชน) หรือ MFEC (ที่ปรึกษาและพัฒนางานด้านเทคโนโลยีสารสนเทศครบวงจร) และ 2. บริษัท อินโนวิซ โซลูชั่นส์ จำกัด (Innoviz Solutions)   ที่ปรึกษาและผู้เชี่ยวชาญการวางระบบ Enterprise Resource Planning – ERP อันดับหนึ่งของ Microsoft Dynamics 365

สำหรับกระบวนการเข้าซื้อกิจการ จะเริ่มหลังจากที่ MFEC จัดตั้งบริษัทย่อยสำหรับหน่วยธุรกิจนี้ โดยใช้เงินสดที่ได้จากการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนแก่ประชาชนครั้งแรก(IPO) และกระแสเงินสดจากการดำเนินงาน รวม 400 ล้านบาท และยังมีวงเงินกู้ไม่เกิน 300 ล้านบาท  และมีแผนการระดมทุนเพิ่ม ซึ่งกระบวนการดังกล่าวคาดว่าจะเสร็จสิ้นภายในไตรมาส 1 ปี 2566

ขณะที่ กระบวนการควบรวมกิจการของ Innoviz โดยบริษัทจะเข้าซื้อหุ้นจากผู้ถือหุ้นเดิมทั้งหมดด้วยเงินสดทั้งสิ้น และจะแบ่งการชำระค่าหุ้นออกเป็น  3 งวด งวดแรกจะเริ่มต้นในไตรมาส 1 ปี 2566 และจะเสร็จสมบูรณ์ในปี 2568

โดย งวดที่ 1 เข้าซื้อในสัดส่วน 55% โดยใช้เงินกู้ยืมจากสถาบัน ไม่เกิน 300 ล้านบาท ในราคาซื้อขายหุ้นที่เท่ากับกำไรสุทธิของ Innoviz ในปี 2565 คูณด้วย 12 เท่าของ P/E และคูณด้วยสัดส่วนหุ้น 55%

งวดที่ 2 ในสัดส่วน 30% โดยราคาซื้อขายหุ้นจะเท่ากับกำไรสุทธิของ Innoviz ในปี 2566 คูณด้วย 16 เท่าของ P/E และคูณด้วยสัดส่วนหุ้น 30%

และงวดสุดท้าย ในสัดส่วน 15% ซึ่งราคาซื้อขายหุ้นจะเท่ากับกำไรสุทธิของ Innoviz ในปี 2566 คูณด้วย 16 เท่าของP/E และคูณด้วยสัดส่วนหุ้น 15% สำหรับการชำระค่าหุ้นในงวดที่ 2 และ 3 นั้น บริษัทจะใช้กระแสเงินสดจากการดำเนินงาน

นายพรช กล่าวว่า การควบรวมกิจการ 2 บริษัทใหญ่ครั้งนี้ เป็นการขยายธุรกิจอย่างต่อเนื่องตามแผนลงทุนที่บริษัทวางไว้ และตามแผนยุทธศาสตร์ 3 ปี ตอกย้ำความเป็น Tech Company ที่มุ่งเน้นการเป็น Venture Builder  ระดับสากล

บริษัทวางเป้าหมายการเติบโตในปี 2566 จะแบบก้าวกระโดด หรือ  1 เท่าตัว จากการต่อยอดทางธุรกิจในอนาคตผ่านการ Synergy ร่วมกัน และพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ  อีกทั้งช่วยการประหยัดต้นทุนจาก Economy of Scale  โดยจะมีจำนวนผู้เชี่ยวชาญด้านไอทีเพิ่มขึ้นกว่าเท่าตัวจาก 350 คน  เป็น 780 คน  เพื่อสนับสนุนการขยายธุรกิจ และบริการทั้งใน และต่างประเทศ เช่น  อังกฤษ สิงคโปร์ เวียดนาม และอินโดนีเซีย  บริษัทคาดว่า จะเพิ่มรายได้จากต่างประเทศ 15-20% ซึ่งปัจจุบันมีสัดส่วน 15% ของรายได้รวม จากในปี 2565 บริษัทตั้งเป้าหมายรายได้รวมอยู่ที่ 500 ล้านบาท เติบโต 70% เมื่อเทียบจากปี 2564 ที่มีรายได้รวมอยู่ที่ 306 ล้านบาท 

 

“การเข้าซื้อหน่วยธุรกิจ Digital Delivery ของ MFEC เพิ่มขีดความสามารถการรองรับงานบริการให้คำปรึกษาและพัฒนาเทคโนโลยี เป็นหน่วยงานหลักที่สร้างรายได้ให้กับบลูบิค   รวมถึงขยายบริการ และผลิตภัณฑ์หลักของบลูบิคไปยังฐานลูกค้าของ Innoviz ที่มีอยู่มากกว่า 200 ราย โดยเฉพาะกลุ่มธุรกิจขนาดกลางและขนาดเล็ก (SME)กลุ่มอุตสาหกรรมสินค้าอุปโภคบริโภค การเงินและธนาคาร และหน่วยงานภาครัฐอีกด้วย” 

 

 

พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์