WARRIX เดินหน้าระดมทุน IPO ปีนี้ เล็งขยายฐานตลาดกีฬาสู่อาเซียน

WARRIX เดินหน้าระดมทุน IPO ปีนี้ เล็งขยายฐานตลาดกีฬาสู่อาเซียน

บมจ.วอริกซ์ สปอร์ต เดินหน้าระดมทุนเสนอขาย IPO คาดนำหุ้นเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ ในปีนี้ เปิดแผนกลยุทธ์บุกธุรกิจ Sport – Health & Lifestyle มุ่งสู่ภูมิภาคอาเซียน เพื่อขยายฐานเพิ่ม

นายวิศัลย์ วนะศักดิ์ศรีสกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วอริกซ์ สปอร์ต จำกัด (มหาชน) หรือ WARRIX เปิดเผยว่า ปัจจุบันบริษัทได้ Licensed จากทีมชาติได้ และถ้าออกไปสู่ทีมชาติประเทศเมียนมาร์ ส่งผลให้แบรนด์มีการเติบโตอย่างก้าวกระโดด และจากสินค้าที่เป็น Licensed ทำให้เกิดการรับรู้และรู้จักแบรนด์มากยิ่งขึ้น จึงนำไปสู่การต่อยอดสินค้า Non-Licensed ที่มียอดขายเพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเน้นการขายหลักไปทางออนไลน์ มากกว่าออฟไลน์

ปัจจุบันเตรียมนำแบรนด์ก้าวเข้าสู่ภูมิภาคอาเซียนมากขึ้น และเตรียมขยายฐานลูกค้าไปยังกลุ่มคนรุ่นใหม่เกี่ยวกับแฟชั่นไลฟ์สไตส์ การจัดงานคอนเสิร์ต หรือตามมหาวิทยาลัย เพื่อจัดจำหน่ายสินค้าที่ระลึก และบัตรคอนเสิร์ต เป็นต้น

ช่วงที่ผ่านได้เข้าร่วมกับ Big Mountain Music Festival ทำให้นอกจากจะร่วมขายบัตรคอนเสิร์ตแล้วยังสามารถเพิ่มยอดขายของที่ระลึกได้อีกด้วย นอกจากนี้ในอนาคตมีแผนที่จะขยาย Licensed ไปยังกีฬาบาสเกตบอล และปิงปอง เนื่องจากเป็นกีฬาที่มีคนชื่นชอบเช่นเดียวกันฟุตบอล และวอลเล่บอลเช่นกัน

และอนาคตมีแผนที่จะเข้าไปลงทุนใน Warrix Lifestyle @ Siam Square เป็นการขยายสาขาแห่งใหม่ เพื่อยกระดับแบรนด์และผลิตภัณฑ์เข้าสู่ตลาดระดับพรีเมียม รองรับธุรกิจไลฟ์สไตล์ในอนาคต คาดว่าจะเปิดให้บริการเฟสแรกภายในปีนี้ รวมถึงโครงการศูนย์วิทยาศาสตร์การกีฬา และสำนักงาน บริเวณถนนพระราม 9 ซึ่งเป็นจุดยุทธศาสตร์ฝั่งตะวันออกของกรุงเทพฯ เพื่อรองรับกลุ่มลูกค้าที่เพิ่มขึ้นในอนาคต คาดว่าจะเปิดให้บริการในปี 2567

ทั้งนี้ ปัจจุบันบริษัทยังมีศูนย์วิทยาศาสตร์และการกีฬา หรือ Warrix Physiotherapy & Performance Studio ซึ่งมีบริการด้านการรักษา ฟื้นฟู ให้คำปรึกษา ให้องค์ความรู้ด้านโภชนาการ จากทีมนักกายภาพที่ได้รับใบอนุญาตและเทรนเนอร์มืออาชีพ พร้อมด้วยหลักสูตรเฉพาะทางสำหรับฟุตบอล มาราธอน กอล์ฟ จักรยาน และออฟฟิศซินโดรม ปัจจุบันบริษัทฯ เปิดให้บริการ 2 แห่ง สาขาแรกตั้งอยู่ที่ Stadium One และสาขาที่ 2 ตั้งอยู่ที่ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ซึ่งวางแผนจะพัฒนาเป็น WARRIX Run Hub สำหรับเป็นพื้นที่ในการพัฒนาศักยภาพนักกีฬาและผู้ชอบการออกกำลังกาย

"เราวางแผนจะพัฒนาเป็น WARRIX Run Hub สำหรับเป็นพื้นที่ในการพัฒนาศักยภาพนักกีฬาและผู้ชอบการออกกำลังกาย รวมถึงร้านขายสินค้าและอุปกรณ์วิ่ง ซึ่งเตรียมจะเปิดให้บริการในช่วงปลายเดือนพฤศจิกายนนี้ ขณะเดียวกันยังมุ่งสู่การเป็น Lifestyle Brand มากขึ้น ผ่านการสนับสนุนอีเวนต์กีฬาอื่นๆ เช่น วิ่งมาราธอน วิ่งเทรล รวมถึงการจัดกิจกรรมอื่นๆ ร่วมซึ่งเป็นการ Cross-Industry Strategy เช่น เทศกาลดนตรี เทศกาลอาหาร และแคมป์ปิ้ง พร้อมทั้งมีแผนเพิ่มไลน์การผลิตสินค้าให้ครอบคลุม เช่น เสื้อโปโล สปอร์ตบรา สตรีทแวร์ รองเท้าแฟชั่น กระเป๋า หมวก หน้ากากผ้ากันฝุ่น อุปกรณ์ออกกำลังกาย และอุปกรณ์โยคะ เป็นต้น"

สำหรับการดำเนินงานในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2565 บริษัทฯ มีรายได้รวม 697.48 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 63.82% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน พร้อมกำไรสุทธิสูงถึง 65.41 ล้านบาท ถือเป็นการกลับมาเติบโตอย่างก้าวกระโดดหลังสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 คลี่คลาย ทำให้ผู้คนกลับมาใช้ชีวิตได้ตามปกติ และมีการจัดกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับกีฬาและสุขภาพมากขึ้น

นายพงศ์วรรธน์ ติยะพรไชย ผู้อำนวยการกลุ่มงานขาย บมจ.วอริกซ์ สปอร์ต จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ภาพรวมอุตสาหกรรมเสื้อผ้าและอุปกรณ์กีฬามีมูลค่าสูงถึง 30,000 ล้านบาท และมีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่องที่ประมาณ 15-20% ต่อปี จากพฤติกรรมของผู้คนที่หันมาดูแลสุขภาพมากขึ้น ทำให้กีฬาและกิจกรรมสุขภาพต่างๆ ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้น รวมทั้งยังมีแรงหนุนจากการกลับมาแข่งขันของรายการกีฬาสำคัญอย่างเช่น FIFA World Cup 2022, AFF Mitsubishi Electric Cup 2022 และโอลิมปิกในปี 2024 อีกด้วย ทำให้บริษัทฯ จะได้รับประโยชน์จากเทรนด์การเติบโตเหล่านี้

โดยปัจจุบันรายได้หลักของวอริกซ์มาจากการจำหน่ายสินค้าในกลุ่ม Non-Licensed ได้แก่ สินค้าคลาสสิก สินค้าคอลเลกชัน และสินค้าทำตามคำสั่ง ที่มีสัดส่วนรายได้ในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2565 อยู่ที่ 34.90% 28.26% และ 16.21% ตามลำดับ ซึ่งเป็นสินค้าที่ได้รับความนิยม สามารถสวมใส่ได้หลากหลายโอกาส และมีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่อง สอดคล้องกับกลยุทธ์ของวอริกซ์ที่ต้องการลดการพึ่งพาสินค้าภายใต้สัญญาสนับสนุนและสร้างความหลากหลายของผลิตภัณฑ์เพื่อขยายฐานลูกค้าให้กว้างขึ้น

ขณะที่รายได้ส่วนที่เหลือจะมาจากสินค้าในกลุ่ม Licensed ซึ่งประกอบด้วย สินค้าฟุตบอลทีมชาติ คิดเป็นสัดส่วนรายได้ 12.68% สินค้าสโมสรฟุตบอล 3.99% และสินค้าลิขสิทธิ์อื่นๆ 1.89% นอกจากนี้ ยังมีรายได้จากการจำหน่ายสินค้าอื่นๆ อีก 0.54% และรายได้จากการให้บริการคลินิกกายภาพอยู่ที่ 0.47%

นายวิชา โตมานะ กรรมการผู้จัดการ สายงานวาณิชธนกิจ บริษัทหลักทรัพย์ ฟิลลิป (ประเทศไทย) จํากัด (มหาชน) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน กล่าวว่า การระดมทุนครั้งนี้ มีการเตรียมความพร้อมจากตลาด MAI เพื่อก้าวเข้าสู่ SET ในอนาคต ซึ่งปัจจุบันได้ตามเกณฑ์ของ SET แล้วโดยแผนการกระจายหุ้นของ WARRIX จะทำการขายให้นักลงทุนสถาบันและนักลงทุนรายย่อยด้วย หลังจากที่ระดมเงินทุนได้แล้วมีแผนหลัก ๆ ที่จะระดมทุนเข้าตลาดหลักทรัพย์ เพื่อสร้างการเติบโตให้กิจการต่อเนื่อง คือ เงินทุนหมุนเวียน เนื่องจากที่ผ่านมาต้องยอมรับว่า บริษัทมีข้อจำกัดในเรื่องของเงินทุนหมุนเวียน ยังคงพึ่งพาจากแหล่งเงินทุนจากสถาบันการเงินเป็นหลัก เพราะฉะนั้นเม็ดเงินที่จะระดมทุนได้จากการขายหุ้น IPO ได้ในครั้งนี้ส่วนใหญ่จะนำมาเป็นเงินทุนหมุนเวียน และเป็นการปลดล็อกเวิร์กกิ้งแคปปิตอลที่ไม่เพียงพอในอดีต เพื่อสร้างการเติบโตในด้านยอดขาย รวมถึงศักยภาพในการสร้างความร่วมมือกับพันธมิตรอื่น ๆ เพื่อสร้างการเติบโต และเพื่อเป็นการลดต้นทุนทางการเงิน

นอกจากนี้เม็ดเงินส่วนหนึ่งก็จะนำไปขยายวิทยาศาสตร์การกีฬาแห่งที่ 3 เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับธุรกิจต่อไป โดยโครงการดังกล่าวจะอยู่ถนนพระราม 9 เพื่อพัฒนาเป็นศูนย์สุขภาพและออกกำลังกาย และใช้เป็นสำนักงาน และสุดท้ายการพัฒนาอินฟราสตัคเจอร์เป็นการลงทุนในดาต้าเมเนจเม้นท์ในเฟส 2 และเฟส 3 เพื่อทำให้บริษัทมีระบบในการประมวลข้อมูลในการวางระบบซัพพลายเชนในการซื้อหรือการคำนวณยอดขาย รวมถึงพฤติกรรมของผู้ซื้อได้อย่างถูกต้อง

อย่างไรก็ตามจะเห็นได้ว่า ศักยภาพของ WARRIX มาจากการสร้างแบรนด์ที่ติดตลาดทำให้มีความแข็งแกร่ง ประสบการณ์ ทำให้ความเชี่ยวชาญในเรื่องของผลิตภัณฑ์ และระบบหลังบ้านดาต้าเมเนจเม้นท์ และเติบโตมาจากการได้ Licensed ทีมชาติไทย และขยายมาสู่เสื้อผ้าที่เป็น Licensed การจัดคอนเสิร์ต หรือมหาวิทยาลัย ที่มีการจัดจำหน่ายของที่ระลึกต่าง ๆ เป็นต้น ซึ่งตรงนี้ทำให้ธุรกิจมีการเติบโต และการพัฒนาช่องทางการจัดจำหน่ายผ่านทางออนไลน์เป็นหลักก็ทำให้มีการเติบโตที่เพิ่มมากขึ้นด้วย

ทั้งนี้ WARRIX มีทุนจดทะเบียนจำนวน 300 ล้านบาท เป็นหุ้นสามัญจำนวน 600 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้ (Par) 0.5 บาทต่อหุ้น โดยเป็นทุนชำระแล้วทั้งสิ้นจำนวน 210 ล้านบาท แบ่งออกเป็นหุ้นสามัญจำนวน 420 ล้านหุ้น และจะเสนอขายหุ้นสามัญต่อประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) จำนวนไม่เกิน 180 ล้านหุ้น

นางสาวนลิน วิริยะเสถียร ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวาณิชธนกิจ-ตราสารทุน บริษัทหลักทรัพย์ ดีบีเอส วิคเคอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า การเสนอขายหุ้น IPO ของ WARRIX ในครั้งนี้ มีจำนวนไม่เกิน 180 ล้านหุ้น คิดเป็นสัดส่วนไม่เกิน 30% ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและชำระแล้วทั้งหมดของบริษัทฯ ภายหลังการออกและเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนในครั้งนี้ โดยมีบล. ฟิลลิป (ประเทศไทย) และบล. ดีบีเอส วิคเคอร์ส (ประเทศไทย) เป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายร่วม ซึ่งจะเปิดโอกาสให้นักลงทุนสามารถจองซื้อหุ้น IPO ได้ในเร็วๆ นี้ และคาดว่าจะพร้อมเข้าจดทะเบียนซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ mai ภายในปี 2565