TIDLOR ติดหล่ม |ออฟเรคคอร์ด

๐๐๐ TIDLOR ติดหล่ม

       แรงขายทำงานอย่างต่อเนื่องทำเอาหุ้นไทยที่ซื้อขายกันแค่ 3 วันทำการในสัปดาห์นี้ “ทรงตัวไม่อยู่” พาดัชนีลงลึกท่ามกลางการซื้อขายสุดจะเบาบาง ทำให้กลายเป็นช่วง “พักพอร์ต” ไปได้ช่วงใหญ่สำหรับใครที่ถือเงินสดไว้รอช้อป

 

       ใครถือทนถือรอ เจอจัดหนักยกช้อนแทบไม่ไหว อาการหุ้นหลายตัวมอบตัวชิงทำราคา All time low กันโดยเฉพาะใน กลุ่มไฟแนนซ์ ที่ขาลงมาต่อเนื่อง และยังหาสัญญาณกลับตัวของราคาหุ้นยังไม่เจอ 

         หนักอกหนักใจรายย่อยต้องให้ TIDLOR ที่ราคาลงมาปิด 24.50 บาท เป็นการ ปิดที่ราคาต่ำสุดของวัน อีกด้วย ราคาร่วงแรงถึง 6.67% ทำราคาต่ำสุดตั้งแต่เข้าตลาดหุ้นมา

         รอบนี้ไม่เฉพาะแค่ TIDLOR ยังมีหุ้นดาวเด่นในกลุ่มพากันราคาร่วงทั้ง BAM -MTC และ SAWAD   ทำเอาราคาลงมาแรงให้ได้หนาวกันเป็นแถว 

        เฉพาะแรงกระทบจากเพดานดอกเบี้ยลิสซิ่งยังไม่ทันจาง กลิ่นรายใหญ่ - เจ้าบุญทุ่ม “ออมสิน” ถึงขั้นตั้ง นอนแบงก์ มาปล่อยสินเชื่อแข่งแบบโนสน JV ซะเอง...เจอแบบนี้ก็สะเทือนทั้งอุตสาหกรรม

 

๐๐๐

หุ้นไทยถูกเทขายตามตลาดภูมิภาค หลังตัวเลขตลาดแรงงานสหรัฐออกมาดี ทำให้กลับมากังวลว่าเฟดจะเร่งขึ้นดอกเบี้ยอีกครั้ง ขณะที่ไฮไลต์สัปดาห์นี้ต้องรอติดตามตัวเลขเงินเฟ้อเดือนก.ย. ว่าจะออกมาเท่าไร? 

โดยดัชนี ปิดการซื้อขายที่ 1,570.57 จุด ลดลง 9.09 จุด หรือ 0.58% ระหว่างวันแตะระดับสูงสุดที่ 1,573.41 จุด และระดับต่ำสุดที่ 1,562.35 จุด มูลค่าการซื้อขาย 53,324.22 ล้านบาท

นักลงทุนต่างชาติขาย 3,486.67 ล้านบาท พอร์ตโบรกเกอร์ ขาย 493.99 ล้านบาท นักลงทุนรายย่อยซื้อ 2,764.14 ล้านบาท และนักลงทุนสถาบันซื้อ 1,216.51 ล้านบาท

๐๐๐

“หุ้นพลังงาน” หลายตัวยืนบวกสวนกระดาน หลังราคาน้ำมันดิบพุ่งแรง! ขยับใกล้ 100 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล อีกครั้ง ตลาดยังขานรับข่าวโอเปคพลัส ลดกำลังการผลิตครั้งใหญ่ในรอบ 2 ปี โดยหุ้นต้นน้ำ บมจ.ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม (PTTEP) ปิด 170.50 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท หรือ 0.29%

๐๐๐

ส่วนพี่ใหญ่กลุ่มถ่านหิน บมจ.บ้านปู (BANPU) มีหุ้นเพิ่มทุนจากการแปลงสภาพ BANPU-W4 เข้าซื้อขาย 1,688 ล้านหุ้น ด้วยราคาแปลงเพียงแค่ 5 บาท หนุนราคาหุ้นวิ่งมาปิด 12.60 บาท เพิ่มขึ้น 0.30 บาท หรือ 2.44%

แถมมีรายการบิ๊กล็อตออกมามากที่สุดของวันรวมกว่า 12.5 ล้านหุ้น ที่ราคาเฉลี่ย 12.29 บาท ต่ำกว่าราคาในกระดาน โดยคิดเป็นมูลค่ารายการรวมกว่า 153 ล้านบาท

๐๐๐

ขณะที่หุ้นปูนใหญ่ บมจ.ปูนซิเมนต์ไทย (SCC) ราคาลงมาปิด 313 บาท ลดลง 5 บาท หรือ 1.57% หลังใกล้ประกาศงบ เนื่องจากแนวโน้มผลประกอบการไตรมาส 3 น่าจะทำจุดต่ำสุดของปี กำไรชะลอตัวในทุกกลุ่มธุรกิจ ท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจถดถอย และต้นทุนพลังงานที่พุ่งสูงขึ้น

๐๐๐

หุ้นบมจ.ซีพี ออลล์ (CPALL) ควงคู่ บมจ.สยามแม็คโคร (MAKRO) ปิดบวก 55.75 บาท และ 35.50 บาทตามลำดับ หลังผู้บริหาร MAKRO แจงในการประชุมนักวิเคราะห์ว่าการเข้าซื้อห้างค้าส่ง “เมโทร แคช แอนด์ แคร์รี” ในอินเดีย มูลค่า 1 พันล้านดอลลาร์ ของกลุ่มซีพีนั้นไม่ได้ดำเนินการผ่านบริษัท ทำให้ผ่อนคลายความกังวลต่อภาระค่าใช้จ่ายที่อาจจะเกิดขึ้นไปได้บ้าง

๐๐๐

 ส่วน “กลุ่มไฟแนนซ์” ราคายังไหลต่อ หลัง สคบ. เข้ม! เคาะคุมสินเชื่อเช่าซื้อกระทบรายได้ โดยกลุ่มสินเชื่อรถจักรยานยนต์จะได้รับผลกระทบมากที่สุด เนื่องจากถูกกำหนดเพดานดอกเบี้ยไว้ไม่เกิน 23% ต่อปี จากปัจจุบันที่คิดดอกเบี้ยสูงกว่า 30%

บมจ.เงินติดล้อ (TIDLOR) มีวอลุ่มขายออกมามากที่สุด กดราคาลงมาปิด 24.50 บาท ลดลง 1.75 บาท หรือ 6.67% แม้บริษัทเคยออกมาแจงแล้วว่า แทบไม่ได้รับผลกระทบจากเกณฑ์ใหม่ เพราะพอร์ตส่วนใหญ่เป็นกลุ่มสินเชื่อรถบรรทุก ส่วนบมจ.ศรีสวัสดิ์ คอร์ปอเรชั่น (SAWAD) ที่มีพอร์ตมอเตอร์ไซค์ราวๆ 20% ราคาร่วงปิด 40.25 บาท ลดลง 1.50 บาท หรือ 3.59%

 

 

 

พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์