โบรกชี้ปัจจัยเสี่ยงต่างประเทศรุมเร้าเพิ่ม ฉุดหุ้นไทยระยะสั้นผันผวน

โบรกชี้ปัจจัยเสี่ยงต่างประเทศรุมเร้าเพิ่ม ฉุดหุ้นไทยระยะสั้นผันผวน

"หุ้นไทย"ดิ่งหนัก 31 จุด -กองทุนในประเทศเทขาย1.3 หมื่นล้าน   “บล.กสิกรไทย”   ชี้ กังวลเครดิตสวิสเบี้ยวหนี้  -เฟดประชุมด่วน   กดดันหุ้นไทยผันวนระยะสั้น “บล.โนมูระ พันฒสิน”  ลุ้นดัชนีรีบาวด์จ “นายกสมาคมบลจ.” แจงย้ำกองทุนขายเพื่อปรับพอร์ตทางเทคนิค

ความเคลื่อนไหวดัชนีหุ้นไทยวานนี้ (3 ต.ค. 2565)ปรับตัวเพิ่มขึ้นในช่วงเปิดตลาด หลังจากนั้นปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง ทำจุดต่ำสุดช่วงท้ายตลาดที่ 1,556.73 จุด หรือลดลง 32.78% ก่อนจะกลับมาปิดตลาดที่ 1,558.05 จุด หรือ 31.46 จุด หรือ 1.98% มูลค่าซื้อขาย 82,448.96 ล้านบาท

นักลงทุนสถาบันในประเทศขายสุทธิ 13,412.03 ล้านบาท นักลงทุนต่างประเทศซื้อสุทธิ 2,594.90 ล้านบาท บัญชีบริษัทหลักทรัพย์ ซื้อสุทธิ 1,563.82 ล้านบาท และนักลงทุนทั่วไปในประเทศซื้อสุทธิ 9,253.31 ล้านบาท

โบรกชี้ปัจจัยเสี่ยงต่างประเทศรุมเร้าเพิ่ม ฉุดหุ้นไทยระยะสั้นผันผวน

นายสรพล วีระเมธีกุล ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.กสิกรไทย เปิดเผยว่า ตลาดหุ้นไทยปรับตัวลงแรงวาน นี้ฝ่ายวิเคราะห์ให้น้ำหนักจากความเสี่ยงเพิ่มเติมกระทบต่อบรรยายกาศการลงทุนทั่วโลก เพราะ กังวลถึงประเด็นที่ราคาหุ้น Credit Suisse ที่ปรับตัวลดลงแรงหลัง Credit Default Swap (CDS) ปรับตัวสูงขึ้น แต่เราคาดว่าสถานการณ์ดังกล่าว ยังห่างไกลการล้มละลายที่จะสร้างผลกระทบเป็นโดมิโน แต่ยังต้องติดตามสถานการณ์ใกล้ชิด

รวมถึงกระแสข่าวการประชุมเฟดฉุกเฉินในคืนวานนี้ แม้เป็นการประชุมปิดเป็นวาระทั่วไป ไม่ได้เป็นการฉุกเฉินเหมือนตอนช่วงเกิดโควิด ที่หลักจากการประชุมแล้วมีมติลดดอกเบี้ยนโยบายทันที แต่ยังต้องติดตามเกี่ยวกับความเห็นเรื่องมาตรการคิวที ( QT) ว่าจะมีการลดเพิ่มเติมจากเดิม 9 หมื่นล้านดอลลาร์หรือไม่

 

นายสรพล กล่าวว่า ในระยะสั้นสัปดาห์นี้ หุ้นไทยยังผันผวนและยังลุ้นรีบาวด์ค่อนข้างยาก จากสถานการณ์ความเสี่ยงต่อการลงทุนทั่วโลกเพิ่มขึ้น ซึ่งกดดันตลาดหุ้นไทยด้วย รวมถึงปัจจัยในประเทศที่เงินบาทอ่อนค่าต่อเนื่องแตะ38 บาทต่อดอลลาร์ และแนวโน้มผลประกอบการบริษัทจดทะเบียน (บจ.) ไตรมาส 3ปี2565 ยังอ่อนแอ คาดว่า ฟันด์โฟลว์คงไม่ไหลกลับเข้ามาในระยะสั้น

ทั้งนี้ คาดดัชนีตลาดหุ้นไทยระยะสั้นสัปดาห์นี้ (3-7 ต.ค. 2565 )มีแนวรับสำคัญบริเวณ 1,550จุด แนวรับถัดไป 1,520 จุด และ แนวต้าน 1,585 จุดตามลำดับ

นายกรภัทร วรเชษฐ์ ผู้อำนวยการ ฝ่ายวิจัยและบริการการลงทุน บล.โนมูระ พัฒนสิน กล่าวว่า  วานนี้ตลาดหุ้นไทยปรับตัวลงแรง มาจากหลายทั้งโมเมนตัมตลาดสูญเสียในเชิงจิตวิทยา หลังเกิดกระแสสับสนข่าวจัดประชุมด่วนของ เฟด และตลาดกังวลความเสี่ยงการดึง สภาพคล่องกลับของเฟดมากขึ้น และแนวโน้มเศรษฐกิจทั่วโลกแผ่วลงในระยะถัดไป อีกทั้งมีปัจจัยเสี่ยงในประเทศเพิ่มเติมเข้ามา เช่น ภาวะน้ำท่วมในประเทศเพิ่มความกังวลความเสี่ยง เศรษฐกิจชะลอตัวลงระยะสั้น 

ทั้งนี้ มองว่าสัปดาห์นี้ลุ้นตลาดกลับมาสร้างฐาน ที่แนวรับ 1,541 -1,550จุด และแนวต้าน  1,578 จุด  แม้สินทรัพย์เสี่ยงโลกยังปรับฐานต่อเนื่อง แต่ภาพในประเทศทั้งความชัดเจนการเมืองและนักท่องเที่ยวลุ้นแตะระดับ 10 ล้าน แม้ระยะสั้นผันผวนบ้าง ปรับตัวลงเป็นโอกาสสะสมหุ้นลงทุนระยะกลาง และยาว  เช่น ADVANC ,  BDMS, PTT

นางชวินดา หาญรัตนกูล กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน  บลจ.กรุงไทย ในฐานะนายกสมาคมบริษัทจัดการลงทุน (AIMC) กล่าวว่า วานนี้มีแรงขายกองทุนมากกว่านักลงทุนกลุ่มอื่น คาดว่า เป็นจังหวะการปรับพอร์ตทางเทคนิคของผู้จัดการกองทุนบางกองทุนเท่านั้น ส่วนปัจจัยเสี่ยงเพิ่มนอกประเทศอาจมีผลต่อเซ็นทริเม้นท์การลงทุนบ้าง แต่ไม่ได้มีผลต่อตลาดหุ้นไทยชัดเจน         

อย่างไรก็ตาม บลจ. ยังมีมุมมองบวกต่อตลาดหุ้นไทย จากคาดการณ์ EPS ของบจ. น่าจะดีกว่าคาด และลุ้นการท่องเที่ยว เงินบาท อ่อนดีต่อหุ้นกลุ่มส่งออก เชื่อว่า หลังจากนี้ที่ดัชนีฯปรับตัวลงกองทุนยังมองเป็นโอกาสเข้าสะสะสมต่อไป คงมุมมองดัชนีฯ สิ้นปีนี้ยังไปถึง 1,700 จุด