โบรกคาด ”หุ้นไทย” วันนี้ ไซด์เวย์ 1,610 – 1,630 จุด ยังกังวลเศรษฐกิจถดถอย

บล.กรุงศรีคาด หุ้นไทย วันนี้ (27ก.ย.65) ไซด์เวย์ 1,610 - 1,630 จุด ยังกังวลเศรษฐกิจถดถอย หลังเฟด ธนาคารกลางยันขึ้นดอกเบี้ยสกัดเงินเฟ้อ ทำบอนด์ยีลด์สหรัฐพุ่ง-ราคาน้ำมันดิบลด กดดันดัชนี แต่คาดแรงหุ้นเฉพาะตัวหนุนดัชนี และการประชุมกนง.คาดขึ้นดอกเบี้ย 0.25% 28 ก.ย. นี้

บริษัทหลักทรัพย์(บล.)กรุงศรี คาดแนวโน้มดัชนีหุ้นไทย วันนี้ (27 ก.ย. 65) แกว่งตัวที่ระดับ 1,610 - 1,630 จุด ภาวะตลาดยังคงถูกแรงกดดันจากความกังวลเศรษฐกิจถดถอยหลังเฟดและธนาคารกลางต่างๆเดินหน้าปรับขึ้นดอกเบี้ยเพื่อสกัดเงินเฟ้อส่งผลให้ บอนด์ยีลด์สหรัฐพุ่งขึ้น ประกอบกับราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวลงเป็นลบต่อดัชนี

อย่างไรก็ตามแรงซื้อหุ้นที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว รวมถึงแนวรับสำคัญตามเทคนิค 1,610 จุด จะหนุนให้ดัชนีสลับรีบาวด์ขึ้นได้ พร้อมทั้งวันที่ 28 ก.ย. ติดตามการประชุมกนง.คาดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% เป็น 1%

ประเด็นสำคัญวันนี้

(+) กลยุทธ์การลงทุน 4Q22 ยังมองบวกให้เป้า SET Index ปีนี้ที่ 1,700 จุด: ศก. ไทยฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไปโดยมีภาคการท่องเที่ยวเป็นฟันเฟืองหลักซึ่งจะส่งต่อผลบวกไปยังภาคการบริโภคในประเทศให้เพิ่มขึ้นขณะที่เงินเฟ้อที่สูงขึ้นสะท้อนถึงรายได้ของผู้ประกอบการที่สูงขึ้นคาดว่าจะหนุนให้กำไรสุทธิของบริษัทจดทะเบียนยังเติบโตได้ เราให้เป้า SET Index ณ สิ้นปี 2565 ที่ 1,700 จุด อิง PE เฉลี่ยย้อนหลัง 3 ปีที่ 16.5 เท่าและคาดการณ์ EPS ปี 2023 ที่103 บาท โดยมีหุ้น Top pick คือ AMATA AH LH SCB และ WHA
(+) ส่งออกไทยเดือน ส.ค.ขยายตัว 7.5%yoy เติบโตต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 18: ก.ทรวงพาณิชย์รายงานยอดส่งออกเดือน ส.ค. ขยายตัว 7.5%yoy เพิ่มขึ้นจาก 4.3%yoy ในเดือน ก.ค. และหากตัดรายการที่เป็นน้ำมัน ทองคำ และอาวุธออกจะมียอดขยายตัว 10.1%yoy เป็นผลจากดีมานด์สินค้าที่เพิ่มขึ้นหลังจากหลายประเทศทั่วโลกทยอยผ่อนคลายมาตรการป้องกัน Covid-19 ที่มากขึ้น

(-) ดาวโจนส์, น้ำมันดิบ WTI ยังร่วงหนัก นักลงทุนยังกังวลภาวะ ศก. ถดถอย: ดัชนีตลาดหุ้นดาวโจนส์ร่วงอีก 330 จุด (-1.11%) ปิดที่ 29,261 จุด ขณะที่ราคาน้ำมันดิบ WTI ลดลง 2.03$ (-2.6%) ปิดที่ 76.71$/bbl ต่ำสุดในรอบ 9 เดือน ความวิตกกังวลว่า ศก.โลกจะถดถอยยังเป็นปัจจัยกดดันหลัก ดัชนี VIX Index ซึ่งชี้วัดความกลัวของนักลงทุนเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 32.26 สูงสุดในรอบ 3 เดือน

กลยุทธ์การลงทุน: Selective Buy

KBANK BBL SCB KTB TTB BLA TLI อานิสงส์ดอกเบี้ยขาขึ้น
AOT CENTEL ERW BA AAV อานิสงส์มาตการสนับสนุนการท่องเที่ยวในประเทศ
GPSC BGRIM GULF RATCH EPG TASCO อานิสงส์ราคาน้ำมันดิบอ่อนตัวลง

หุ้นแนะนำวันนี้

EPG (ปิด 10.30 ซื้อ/เป้า 14.5 บาท) คาดผลประกอบการผ่านจุดต่ำสุดมาแล้ว ทุกกลุ่มธุรกิจกลับสู่โหมดฟื้นตัว ระยะสั้นมี Sentiment บวกจากราคาน้ำมันลดลงและค่าเงินบาทอ่อนค่าเป็นบวกกับ EPG โดยตรงเนื่องจาก 60% ของรายได้มาจากต่างประเทศ
GFPT (ปิด 15.1 ซื้อ/เป้า IAA Consensus 19 บาท) คาดได้ประโยชน์หลังจากญี่ปุ่นประกาศเข้าแทรกแซงค่าเงินเยนรวมถึงได้ประโยชน์จากการที่ญี่ปุ่นประกาศเปิดฟรีวีซ่าให้เข้าประเทศได้ตั้งแต่ 16 ต.ค.นี้ ช่วยหนุนดีมานด์ผลิตภัณฑ์จากไก่ของ GFPT เพิ่มขึ้น (ญี่ปุ่นเป็นตลาดส่งออกคิดเป็น 48% ของ GFPT)

บทวิเคราะห์วันนี้