ทองคำ-เงิน ร่วงหนักถูกเทขายทำกำไร นักวิเคราะห์แนะรอจังหวะซื้อ

บลูมเบิร์ก รายงานว่า ราคาทองคำลดลงมากกว่า 4% เมื่อคืนราคาโลหะเงินร่วงลงมากกว่า 8% หลังจากทะลุ 80 ดอลลาร์ต่อออนซ์ในการปรับตัวขึ้นที่ได้รับแรงหนุนจากการเก็งกำไรและความกังวลเรื่องการขาดแคลนอุปทาน 

โลหะมีค่ากลายเป็นสินค้าที่ได้รับความสนใจอย่างมากในตลาดการเงินในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา โดยได้รับแรงหนุนจากการซื้อของธนาคารกลางที่เพิ่มขึ้นและการไหลเข้าของเงินทุนไปยังกองทุนอีทีเอฟ ETF ต้นทุนการกู้ยืมที่ลดลงยังเป็นปัจจัยหนุนสำหรับสินค้าโภคภัณฑ์ที่ไม่ให้ผลตอบแทน ในขณะที่ความขัดแย้งระหว่างสหรัฐฯ และเวเนซุเอลาได้เพิ่มความน่าดึงดูดใจของโลหะมีค่าในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย

ความเคลื่อนไหวของโลหะมีค่าในวันจันทร์ (29 ธ.ค. 68) เกิดขึ้นหลังจากความคิดเห็นของอีลอน มัสก์ในช่วงสุดสัปดาห์ที่เน้นย้ำถึงความเชื่อมั่นที่เพิ่มขึ้นเกี่ยวกับโลหะมีค่า มัสก์ตอบทวีตเกี่ยวกับการจำกัดการส่งออกของจีนโดยกล่าวว่า “นี่ไม่ใช่เรื่องดี เงินเป็นสิ่งจำเป็นในกระบวนการทางอุตสาหกรรมหลายอย่าง”

ขณะเดียวกันราคาทองคำตลาดสปอต (Spot Gold) ร่วงลง 4.4% สู่ระดับ 4,331.57 ดอลลาร์ต่อออนซ์

แมตต์ มาลีย์ หัวหน้านักกลยุทธ์ตลาดของ Miller Tabak + Co กล่าวว่า โลหะมีค่า “อยู่ในภาวะมีแรงซื้อมากเกินไปในระยะสั้น ดังนั้นการที่ราคาลดลงอย่างมากในเช้านี้จึงไม่ใช่เรื่องร้ายแรงอะไร” “เราเชื่อว่าความอ่อนแอใดๆ ในโลหะมีค่าเหล่านี้ในช่วงหนึ่งหรือสองสัปดาห์ข้างหน้าจะสร้างโอกาสที่ดีในการเข้าซื้ออีกครั้ง”

 

ด้านสำนักข่าวซีเอ็นบีซี รายงานว่า สัญญาซื้อขายล่วงหน้าโลหะเงินถือว่าแย่ที่สุดนับตั้งแต่ปี 2021 ร่วงลงอย่างรวดเร็วจากระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์

• หนึ่งในการลงทุนที่ดีที่สุดของปีเพิ่งพลิกผันครั้งใหญ่

สัญญาซื้อขายล่วงหน้าโลหะเงิน ลดลง 8.7% ในวันจันทร์ หลังจากแตะระดับ 80 ดอลลาร์ต่อออนซ์เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์การซื้อขายข้ามคืน โลหะมีค่าปิดที่ 70.46 ดอลลาร์ต่อออนซ์ นับเป็นวันที่แย่ที่สุดสำหรับสัญญาซื้อขายล่วงหน้าเงินนับตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2021

การเคลื่อนไหวนี้ยิ่งน่าตกใจมากขึ้นในระหว่างวัน ราคาโลหะเงินร่วงลง 15% จากจุดสูงสุดถึงจุดต่ำสุด ซึ่งเป็นการเปลี่ยนแปลงจากจุดสูงสุดถึงจุดต่ำสุดที่มากที่สุดนับตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2020 เมื่อราคาสินเงินลดลง 16.85%

“นี่เป็นการเคลื่อนไหวครั้งประวัติศาสตร์” เจฟฟ์ คิลเบิร์ก ซีอีโอและหัวหน้าเจ้าหน้าที่การลงทุนของ KKM Financial กล่าว “เราไม่ได้เห็นการเคลื่อนไหวแบบนี้มานานแล้ว”

เขาอธิบายว่าการปรับตัวลงเกิดจากการขายทำกำไร รวมถึงการลดหย่อนภาษีจากการขาดทุนเมื่อสิ้นปีปฏิทิน ซึ่งทำให้ราคาสินเงินลดลงหลังจากที่พุ่งขึ้นอย่างมาก โลหะมีค่าชนิดนี้ยังคงมีราคาสูงกว่า 140% นับตั้งแต่ต้นปี โดยเริ่มต้นปี 2025 ด้วยราคาซื้อขายที่สูงกว่า 20 ดอลลาร์ต่อออนซ์เล็กน้อย

สิ่งนี้ช่วยให้โลหะมีค่าชนิดนี้มีการปรับตัวขึ้นมากกว่าทองคำในปีนี้ 

สัญญาซื้อขายล่วงหน้าทองคำ (Gold Futures) สำหรับส่งมอบเดือนกุมภาพันธ์ ซึ่งเพิ่งแตะระดับ 4,550 ดอลลาร์เป็นครั้งแรกในเดือนนี้ มีราคาสูงกว่า 60% ในปีนี้

สัญญาซื้อขายล่วงหน้าทองคำลดลงประมาณ 4.6% ในวันจันทร์นี้ ปิดที่ 4,343.6 ดอลลาร์

มีหลายเหตุผลที่ทำให้ราคาสินเงินพุ่งสูงขึ้นอย่างมาก นอกจากทองคำแล้ว สินเงินยังถูกมองว่าเป็นสินทรัพย์ปลอดภัยสำหรับนักลงทุนที่กังวลเกี่ยวกับความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ที่เพิ่มสูงขึ้นและความเสี่ยงอื่นๆ เช่น การขาดดุลงบประมาณของสหรัฐฯ ที่พุ่งสูงขึ้น โลหะทั้งสองชนิดยังถูกมองว่าเป็นแหล่งเก็บรักษามูลค่า หมายความว่าพวกมันสามารถทำหน้าที่เป็นเครื่องมือป้องกันความเสี่ยงจากดอลลาร์สหรัฐที่อ่อนค่าลงเนื่องจากภาวะเงินเฟ้อหรือความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ นอกจากนี้ ค่าเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าลงยังทำให้สินทรัพย์เหล่านี้มีราคาถูกลงสำหรับประเทศอื่นๆ ซึ่งส่งผลให้ความต้องการเพิ่มขึ้น

ยิ่งไปกว่านั้น สินเงินยังได้รับประโยชน์จากความต้องการทางอุตสาหกรรมที่แข็งแกร่งสำหรับอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เช่น แผงโซลาร์เซลล์ ศูนย์ข้อมูล และรถยนต์ไฟฟ้า

คิลเบิร์กจาก KKM Financial คาดว่าแรงหนุนเหล่านี้จะยังคงผลักดันราคาสินเงินให้สูงขึ้นต่อไปในปี 2026 เขาคิดว่าสินเงินอาจพุ่งขึ้นไปถึง 90 ดอลลาร์หรือแม้กระทั่ง 100 ดอลลาร์ ซึ่งหมายถึงโอกาสในการเพิ่มขึ้นประมาณ 27% หรือ 40% ตามลำดับ จากราคาซื้อขายครั้งล่าสุด

“ผมคิดว่านี่เป็นการเริ่มต้นใหม่ การพักหายใจ เป็นเพียงการเคลื่อนไหวส่งท้ายปีเพียงวันเดียว แต่ผมคิดว่าโลหะมีค่าทั้งสองชนิด  ทองคำและเงิน ยังคงมีแนวโน้มสูงขึ้นต่อไป” คิลเบิร์กกล่าว

“มีปัญหาด้านอุปทานอย่างมาก มีปัญหาด้านอุปสงค์อย่างมหาศาล และเมื่อรวมสองสิ่งนี้เข้าด้วยกัน มันจะผลักดันให้ราคาสินเงินสูงขึ้น” เขากล่าว “ดังนั้น ผมไม่คิดว่าการปรับตัวขึ้นจะสิ้นสุดลงแล้ว”

ด้านบิตคอยน์แตะระดับ 90,000 ดอลลาร์ก่อนที่จะลดลง ในขณะที่ดัชนีเงินดอลลาร์เปลี่ยนแปลงเล็กน้อย

• อัปเดตราคาเช้านี้ (30 ธ.ค.68)

บลูมเบิร์ก รายงานว่า ราคาโลหะเงินตลาดสปอตลดลง 0.5% สู่ระดับ 71.74 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ณ เวลา 7:15 น. ตามเวลาในสิงคโปร์ (6:15 น.เวลาไทย) หลังจากแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 84.01 ดอลลาร์ในรอบการซื้อขายก่อนหน้า 

ด้านราคาทองคำปรับตัวขึ้น 0.1% สู่ระดับ 4,336.86 ดอลลาร์ ราคาแพลทินัมและแพลเลเดียมลดลงหลังจากลดลงเป็นตัวเลขสองหลักในวันจันทร์ ดัชนี Bloomberg Dollar Spot Index ปิดรอบการซื้อขายก่อนหน้าโดยแทบไม่เปลี่ยนแปลง

ราคาโลหะเงินทรงตัวหลังจากลดลงมากที่สุดในรอบหนึ่งวันในรอบกว่าห้าปี เนื่องจากนักลงทุนขายทำกำไรหลังจากราคาพุ่งขึ้นอย่างแข็งแกร่งในช่วงปลายปี

ราคาโลหะเงินทรงตัวเหนือ 71 ดอลลาร์ต่อออนซ์ในวันอังคาร หลังจากร่วงลง 9% ในรอบการซื้อขายก่อนหน้า ขณะที่ราคาทองคำแทบไม่เปลี่ยนแปลงอยู่ที่ประมาณ 4,340 ดอลลาร์ หลังจากร่วงลง 4.4% ราคาโลหะมีค่าร่วงลงหลังจากตัวชี้วัดทางเทคนิคแสดงให้เห็นว่าการปรับตัวขึ้นนั้นสูงมากเกินไป ขณะที่สภาพคล่องในตลาดที่เบาบางทำให้ความผันผวนของราคาในช่วงที่ผ่านมาทวีความรุนแรงขึ้น

ถึงแม้จะมีการปรับตัวลงในวันจันทร์ แต่ราคาทองคำและเงินยังคงมีแนวโน้มที่จะทำผลงานได้ดีที่สุดในรอบปีนับตั้งแต่ปี 1979