ราคาทองคำ ลดลง แม้เงินเฟ้อของสหรัฐต่ำกว่าคาด อาจปรับตัวลงแรงต่อ

สำนักข่าวรอยเตอร์/ซีเอ็นบีซี รายงานว่า ราคาทองคำ ปรับตัวลดลงในวันศุกร์ (24 ต.ค. 68) หลังจากข้อมูลเงินเฟ้อของสหรัฐฯ ที่อ่อนตัวกว่าที่คาดการณ์ไว้เล็กน้อย ตอกย้ำความคาดหวังที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะลดอัตราดอกเบี้ยในสัปดาห์หน้า 

แต่ ราคาทอง ยังคงปรับตัวลดลงเป็นสัปดาห์แรกในรอบ 10 สัปดาห์

ราคาทองคำสปอต (Spot Gold) ล่าสุดลดลง 0.57% มาอยู่ที่ 4,101.61 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หลังจากร่วงลงเกือบ 2% ในช่วงต้นตลาด ราคาทองคำปรับตัวลดลงมากกว่า 3% ในสัปดาห์ที่ผ่านมา 

ราคาทองฟิวเจอร์ สัญญาทองคำล่วงหน้าส่งมอบเดือนธันวาคมของสหรัฐฯ (Gold Futures) ปิดตลาดลดลง 0.2% มาอยู่ที่ 4,137.8 ดอลลาร์ต่อออนซ์

“ราคาทองคำและโลหะเงินพุ่งสูงขึ้น เนื่องจากดัชนี CPI พื้นฐานเดือนกันยายนต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้ แต่อาจไม่เพียงพอที่จะลดแรงเทขายในสัปดาห์นี้ได้ทั้งหมด การเคลื่อนไหวของราคาบ่งชี้ว่าทองคำ และโดยเฉพาะอย่างยิ่งโลหะเงิน จำเป็นต้องปรับฐานลงอีกก่อนที่จะเข้าสู่ช่วงการปรับตัว” ไท หว่อง เทรดเดอร์โลหะอิสระกล่าว

ราคาทองคำตลาดสปอต พุ่งสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 4,381.21 ดอลลาร์สหรัฐในวันจันทร์ แต่ลดลงกว่า 6% นับตั้งแต่นั้นมา เนื่องจากนักลงทุนเทขายทำกำไร และสัญญาณการผ่อนคลายความตึงเครียดทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ-จีนได้ส่งผลกระทบทางลบต่อความต้องการสินทรัพย์ปลอดภัย

ราคาโลหะเงิน ตลาดสปอต ลดลง 0.86% มาอยู่ที่ 48.50 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ คาดว่าจะลดลงมากกว่า 6% ต่อสัปดาห์

ข้อมูลของกระทรวงแรงงานแสดงให้เห็นว่าดัชนีราคาผู้บริโภคของสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 3.0% ในช่วง 12 เดือนจนถึงเดือนกันยายน ซึ่งต่ำกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ไว้เล็กน้อยที่ 3.1%

ผู้ค้าคาดการณ์การปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ ในสัปดาห์หน้าไว้เกือบเต็มที่แล้ว และคาดว่าจะมีการปรับลดอีกครั้งในเดือนธันวาคม

อัตราดอกเบี้ยที่ลดลงช่วยลดต้นทุนค่าเสียโอกาสของการถือครองสินทรัพย์ที่ไม่ให้ผลตอบแทนเป็นดอกเบี้ย เช่น ทองคำ

ขณะเดียวกัน ทำเนียบขาวยืนยันเมื่อวันพฤหัสบดีว่าประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ จะพบกับประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีนในสัปดาห์หน้า ก่อนถึงเส้นตายวันที่ 1 พฤศจิกายนสำหรับมาตรการขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจีนเพิ่มเติมจากสหรัฐฯ

“หาก (ราคาทองคำ) ร่วงลงต่ำกว่า 4,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ เราจะยังคงเห็นการร่วงลงอย่างรุนแรงในตลาดต่อไป โดยอาจลงไปถึง 3,850 ดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งเป็นแนวรับสำคัญถัดไป” ฟิลลิป สไตร์เบิล หัวหน้านักกลยุทธ์การตลาดของบลูไลน์ ฟิวเจอร์ส กล่าว

ราคาทองคำแท่ง ปรับตัวสูงขึ้น 55% ในปีนี้ จากความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์และการค้า แรงซื้อที่แข็งแกร่งของธนาคารกลางทั่วโลก และการคาดการณ์การลดอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐฯ รวมถึงปัจจัยอื่นๆ

ราคาแพลทินัม ร่วงลง 1.33% มาอยู่ที่ 1,603.94 ดอลลาร์สหรัฐฯ

ราคาแพลเลเดียม ลดลง 1.43% มาอยู่ที่ 1,436.19 ดอลลาร์สหรัฐฯ