ราคาทองคำพุ่งสูงสุดเป็นประวัติการณ์ คาดทะลุ 4,200 ดอลลาร์/ออนซ์

ราคาทองคำพุ่งสูงสุดเป็นประวัติการณ์ คาดทะลุ 4,200 ดอลลาร์/ออนซ์

ราคาทองคำพุ่งแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์เหนือ 3,900 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ จากแนวโน้มเฟดลดดอกเบี้ย และความไม่แน่นอนทั่วโลก UBS คาดทะลุ 4,200 ดอลลาร์ ภายในสิ้นปีนี้

สำนักข่าวรอยเตอร์ รายงานราคาทองคำตลาดสปอต (Spot Gold) พุ่งขึ้น 1.8% อยู่ที่ 3,956.19 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ ณ เวลา 14:41 น. ตามเวลาฝั่งตะวันออกสหรัฐ (18:41 GMT) หลังจากแตะระดับสูงสุดที่ 3,969.91 ดอลลาร์สหรัฐ ก่อนหน้านี้ในช่วงการซื้อขาย

ราคาทองคำตลาดสัญญาซื้อขายล่วงหน้าของสหรัฐ ส่งมอบเดือนธันวาคม (Gold Futures) ปิดตลาดเพิ่มขึ้น 1.7% อยู่ที่ 3,976.3 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์

เอ็ดเวิร์ด เมียร์ นักวิเคราะห์จาก Marex กล่าวว่า สถานการณ์ทางการเมืองในฝรั่งเศส อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลญี่ปุ่นที่ปรับตัวสูงขึ้นท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับภาวะเงินเฟ้อ และการปิดทำการของรัฐบาลสหรัฐ ที่กำลังดำเนินอยู่ ล้วนเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ราคาทองคำพุ่งขึ้น

เซบาสเตียน เลอกอร์นู นายกรัฐมนตรีคนใหม่ของฝรั่งเศส และรัฐบาลของเขาได้ลาออกเมื่อวันจันทร์ เพียงไม่กี่ชั่วโมงหลังจากเข้ารับตำแหน่ง ส่งผลให้วิกฤติทางการเมืองของประเทศทวีความรุนแรงยิ่งขึ้น

ในขณะเดียวกัน ภาวะปิดทำการของรัฐบาลสหรัฐบางส่วน (Government Shutdown) เข้าสู่วันที่หกแล้ว โดยทำเนียบขาวขู่ว่าจะเลิกจ้างพนักงานรัฐบาลกลางจำนวนมาก

ราคาทองคำสูงขึ้นแล้ว 50%ในปีนี้

ราคาทองคำพุ่งทะยานขึ้น 50% ในปีนี้ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ โดยได้รับแรงหนุนจากการคาดการณ์การปรับลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) การเข้าซื้อของธนาคารกลางทั่วโลกอย่างต่อเนื่อง ความต้องการสินทรัพย์ปลอดภัยที่แข็งแกร่ง และค่าเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าลง ราคาทองคำสปอตทะลุระดับ 3,000 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เป็นครั้งแรกในเดือนมีนาคม และ 3,800 ดอลลาร์ต่อออนซ์ในช่วงปลายเดือนกันยายน

“ความจริงที่ว่าราคาทองคำใกล้แตะระดับ 4,000 ดอลลาร์ต่อออนซ์ บ่งชี้ว่ากองทุนบางแห่งอาจพยายามดันราคาขึ้นไปให้ถึงระดับนั้น” เมียร์ กล่าวเสริม

ทองคำซึ่งไม่ให้ผลตอบแทนเป็นดอกเบี้ยเติบโตได้ดีในสภาวะอัตราดอกเบี้ยต่ำ และในช่วงที่เศรษฐกิจมีความไม่แน่นอน

ขณะนี้นักลงทุนกำลังประเมินการปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25%ในการประชุมเฟดในเดือนนี้ และคาดว่าจะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยอีก 0.25 %ในเดือนธันวาคม ตามเครื่องมือติดตามเฟด FEDWATCH

“เรามองเห็นทั้งปัจจัยพื้นฐาน และโมเมนตัมที่ทำให้ราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้นต่อไป และขณะนี้คาดว่าราคาทองคำแท่งจะแตะระดับ 4,200 ดอลลาร์ต่อออนซ์ภายในสิ้นปีนี้” ธนาคาร UBS ระบุในรายงาน

ราคาโลหะเงินตลาดสปอตพุ่งขึ้น 1.4% มาอยู่ที่ 48.66 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบกว่า 14 ปี ราคาแพลทินัมเพิ่มขึ้น 1.4% มาอยู่ที่ 1,626.75 ดอลลาร์ และแพลเลเดียมพุ่งขึ้นแรง 4.3% มาอยู่ที่ 1,315.17 ดอลลาร์

อัปเดตราคาทองคำเช้านี้ (7 ต.ค.68)

บลูมเบิร์ก รายงานราคาทองคำสปอตปรับตัวสูงขึ้น 0.2% สู่ระดับ 3,968.49 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ณ เวลา 8:07 น. ตามเวลาสิงคโปร์ และขณะนี้กำลังอยู่ในเส้นทางที่จะปรับตัวขึ้นสูงสุดเป็นประวัติการณ์นับตั้งแต่ปี 1979  ค่าเงินดอลลาร์นิ่ง โดยดัชนีดอลลาร์สปอตของบลูมเบิร์กยังคงทรงตัว

ราคาทองคำพุ่งแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์อีกครั้ง โดยขยับเข้าใกล้ 4,000 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เนื่องจากการปิดทำการของรัฐบาลสหรัฐ และวิกฤตการณ์ทางการเมืองในฝรั่งเศสทำให้เกิดความไม่แน่นอนมากขึ้นในตลาดการเงิน

ราคาทองคำแท่งพุ่งขึ้นแตะระดับ 3,976.25 ดอลลาร์ต่อออนซ์ในวันอังคารนี้ หลังจากพุ่งขึ้น 1.9% ในวันจันทร์

 

 

 

พิสูจน์อักษร....สุรีย์   ศิลาวงษ์