ราคาทองคำโลกยืนใกล้ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ เงินเฟ้อติดลบ

รอยเตอร์  รายงานราคาทองคำโลกทรงตัวใกล้ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในวันพุธ (10 ก.ย.68) โดยได้รับแรงหนุนจากการคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐ จะกลับมาปรับลดอัตราดอกเบี้ยอีกครั้งในการประชุมสัปดาห์หน้า หลังจากข้อมูลเงินเฟ้อของสหรัฐ ที่อ่อนตัวกว่าที่คาดการณ์ไว้

 

ราคาทองคำตลาดสปอต (Spot Gold) เพิ่มขึ้น 0.5% อยู่ที่ 3,644.49 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ณ เวลา 11:06 น. ตามเวลาฝั่งตะวันออกสหรัฐ (15:06 GMT) หลังจากแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 3,673.95 ดอลลาร์ในวันอังคาร

ราคาทองคำตลาดล่วงหน้าของสหรัฐ (Gold Futures) ส่งมอบเดือนธันวาคมเพิ่มขึ้น 0.1% อยู่ที่ 3,684.10 ดอลลาร์

ข้อมูลจากกระทรวงแรงงาน ระบุว่า ดัชนีราคาผู้ผลิตของสหรัฐ (PPI) ลดลงอย่างไม่คาดคิดในเดือนสิงหาคม ซึ่งเป็นผลมาจากต้นทุนบริการที่ลดลง

“หากข้อมูลของสหรัฐ อ่อนตัวลงอีก ก็น่าจะยังคงเป็นปัจจัยหนุนราคาทองคำต่อไป เนื่องจากมองว่าอาจมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยมากกว่าสองครั้งก่อนสิ้นปี” ฟาวาด ราซักซาดา นักวิเคราะห์ตลาดจาก City Index และFOREX.com กล่าว

 

ทองคำ ซึ่งโดยทั่วไปแล้วถูกมองว่าเป็นเครื่องมือป้องกันความเสี่ยงจากความไม่แน่นอนทางการเมือง เศรษฐกิจ และเงินเฟ้อ มีแนวโน้มที่จะปรับตัวดีขึ้นในสภาวะอัตราดอกเบี้ยต่ำ โดยราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้นกว่า 38% ในปีนี้

 

ตลาดประเมินความเป็นไปได้ 90% ที่จะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.25% ในการประชุมเฟดวันที่ 16-17 กันยายน 2568 โดยมีโอกาสน้อยมากที่จะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยมากกว่านี้ ทั้งนี้ จากเครื่องมือติดตามเฟด FedWatch ของ CME

ความเชื่อมั่นของตลาดต่อการผ่อนคลายนโยบายการเงินได้เพิ่มขึ้น หลังจากรายงานการจ้างงานนอกภาคเกษตรที่อ่อนแอเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งชี้ให้เห็นถึงภาวะตลาดแรงงานที่ซบเซา กระทรวงแรงงานยังได้ปรับลดประมาณการ การเติบโตของการจ้างงานลงจนถึงเดือนมีนาคม ซึ่งบ่งชี้ว่าการเติบโตของการจ้างงานได้ชะลอตัวลงแล้วก่อนที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ จะใช้มาตรการเก็บภาษีนำเข้าที่เข้มงวด

ศาลขวางทรัมป์ปลดกรรมการเฟด

ขณะเดียวกัน ผู้พิพากษาศาลรัฐบาลกลางได้สั่งระงับความพยายามของทรัมป์ในการปลดลิซา คุก กรรมการผู้ว่าการธนาคารกลางสหรัฐ ออกจากตำแหน่งเป็นการชั่วคราวในวันอังคาร ซึ่งนับเป็นความพ่ายแพ้ในช่วงแรก ของทำเนียบขาวในการต่อสู้ทางกฎหมายที่คุกคามความเป็นอิสระของธนาคารกลาง

 

ขณะนี้ความสนใจหันไปที่ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ในวันพฤหัสบดี ซึ่งถือเป็นปัจจัยสำคัญในการกำหนดจุดยืนทางนโยบายของเฟด

“ทองคำระดับ 3,750 ดอลลาร์สหรัฐ กำลังกลายเป็นแนวต้านสำคัญถัดไป และหากราคาปรับตัวขึ้นเหนือระดับดังกล่าวได้ ราคาโลหะมีค่าอาจพุ่งแตะระดับ 3,900 ดอลลาร์สหรัฐ ภายในสิ้นปีนี้” ริคาร์โด เอวานเจลิสตา นักวิเคราะห์อาวุโสของ ActivTrades กล่าว

 

ด้านราคาโลหะเงิน เพิ่มขึ้น 0.6% มาอยู่ที่ 41.13 ดอลลาร์สหรัฐ ต่อออนซ์ แพลทินัมเพิ่มขึ้น 1.3% มาอยู่ที่ 1,386.45 ดอลลาร์สหรัฐ และแพลเลเดียมเพิ่มขึ้น 3.1% มาอยู่ที่ 1,182.30 ดอลลาร์สหรัฐ

 

 

 

พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์