เงินฝืดจีนยังน่าห่วง ดัชนี CPI 'ต่ำ 0%' ครั้งแรกในรอบ 3 เดือน

เงินฝืดจีนยังน่าห่วง ดัชนี CPI 'ต่ำ 0%' ครั้งแรกในรอบ 3 เดือน

ดัชนีเงินเฟ้อผู้บริโภคของจีนลดลงต่ำ 0% เป็นครั้งแรกในรอบ 3 เดือน หลังอุปสงค์ซบเซาหนัก แต่ดัชนีเงินเฟ้อฝั่งผู้ผลิตเริ่มดีขึ้น หลังรัฐบาลปักกิ่งลงมาคุมสงครามราคา

สำนักงานสถิติแห่งชาติของจีนแถลงข้อมูลล่าสุดวันนี้ว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของจีน เดือนส.ค. ปรับตัวลดลงต่ำกว่าศูนย์เป็นครั้งแรกในรอบ 3 เดือน โดยลดลง 0.4% เมื่อเทียบเดือนเดียวกันของปีที่แล้ว แย่กว่าที่ผลสำรวจนักเศรษฐศาสตร์โดยบลูมเบิร์กและรอยเตอร์สคาดการณ์ว่าจะลดลง 0.2% และเป็น "สัญญาณเชิงลบต่อเนื่อง" หลังจากตัวเลขเงินเฟ้อในฝั่งผู้บริโภคของจีนอยู่ที่ระดับ 0% ในเดือนที่แล้ว 

หากเปรียบเทียบดัชนีเงินเฟ้อผู้บริโภคตลอดช่วง 8 เดือนที่ผ่านมาของจีนในปีนี้จะพบว่า มีเพียงแค่เดือนก.พ. และเดือนมิ.ย. เท่านั้นที่ขยายตัวเป็นบวกเมื่อเทียบปีที่แล้ว สะท้อนให้เห็นถึงอุปสงค์ในจีนที่ยังคงอ่อนแรง

ตง ลี่จวิน จากสำนักงานสถิติแห่งชาติจีนระบุว่า สาเหตุหลักที่ CPI ปรับตัวลดลง มาจากราคาอาหารที่ลดลงและผลจากฐานที่สูงเมื่อปีก่อน โดยต้นทุนด้านอาหารปรับตัวลงถึง 4.3% เมื่อเทียบเป็นรายปี ขณะที่ราคาสินค้าอุปโภคบริโภคลดลง 1%

หากไม่รวมสินค้าที่มีความผันผวนอย่างอาหารและพลังงาน ดัชนีราคาผู้บริโภคพื้นฐาน (Core CPI) จะขยายตัวขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 18 เดือนที่ 0.9% ซึ่งสำนักงานสถิติระบุว่า การเพิ่มขึ้นของ Core CPI แสดงให้เห็นว่านโยบายกระตุ้นอุปสงค์และการบริโภคกำลังเกิดผล

เงินฝืดจีนยังน่าห่วง ดัชนี CPI 'ต่ำ 0%' ครั้งแรกในรอบ 3 เดือน

อย่างไรก็ตาม ในส่วนของ "เงินเฟ้อฝั่งผู้ผลิต" นั้นพบว่า ดัชนีราคาผู้ผลิตของจีน (PPI) เดือนส.ค. เริ่มมีสัญญาณดีขึ้น โดยขยายตัวลดลง 2.9% แม้จะยังอยู่ในแดนลบเป็นเดือนที่ 35 ติดต่อกัน แต่ก็ลดลงเล็กน้อยจากที่หดตัวลง 3.6% ในเดือนก.ค. และหากเทียบเป็นรายเดือนจะพบว่าตัวเลขในหลายอุตสาหกรรมเริ่มปรับตัวสูงขึ้นได้เป็นครั้งแรกในรอบหลายเดือน

การที่ภาวะเงินฝืดในภาคอุตสาหกรรมของจีนเริ่มส่งสัญญาณผ่อนคลายลงนั้น มีขึ้นในขณะที่รัฐบาลปักกิ่งกำลังเร่งเครื่องควบคุมเรื่องโอเวอร์ซัพพลายและการแข่งขันด้านราคาที่รุนแรงมากเกินไป (Anti-involution) หรือเน่ยจวน ที่ปรากฎในหลายอุตสาหกรรมตั้งแต่รยนต์ สินค้าอุปโภคบริโภค และแพลตฟอร์มเดลิเวอรี่

“ผลจากการต่อต้านสงครามที่เริ่มต้นในเดือนมิ.ย.-ก.ค. เริ่มปรากฏให้เห็นแล้ว...แต่การฟื้นตัวได้อย่างต่อเนื่องของจีนยังคงต้องใช้เวลาอีกพอสมควร” สวี่ เทียนเฉิน นักเศรษฐศาสตร์อาวุโสประจำ Economist Intelligence Unit กล่าว

ด้านปฏิกิริยาของตลาดทุนหลังรับทราบข้อมูลนี้ อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลจีนอายุ 30 ปีแทบไม่เปลี่ยนแปลงที่ 2.17% ขณะที่เงินหยวนทรงตัวเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ

ทั้งนี้ จีนกำลังเผชิญกับภาวะเงินฝืดเป็นปีที่ 3 ติดต่อกันเป็นครั้งแรก นับตั้งแต่เริ่มปฏิรูปเศรษฐกิจออกจากระบบส่วนกลางในช่วงปลายทศวรรษ 1970 ขณะที่ดัชนีเงินเฟ้อที่ลดลงติดต่อกันนานถึง 9 ไตรมาส สะท้อนให้เห็นถึงความไม่สมดุลระหว่างอุปสงค์และอุปทาน ซึ่งส่งผลกระทบต่องบดุลของบริษัทต่างๆ และกดรายได้ของทั้งครัวเรือนและรัฐบาลให้ลดลง

ที่มา: Bloomberg, Reuters