'เงินบาท' ช่วงเช้าวันนี้ 'อ่อนค่า' กังวลเสถียรภาพการคลังอังกฤษ

ความเคลื่อนไหวของ "ค่าเงินบาท" ช่วงเช้าวันนี้ (3 ก.ย. 68) ปิดตลาด เที่ยง (12.00 น.) ที่ระดับ 32.43 บาทต่อดอลลาร์ จากปิดตลาดเช้าที่ระดับ 32.32 บาทต่อดอลลาร์  ซึ่งเป็นการ อ่อนค่า สอดคล้องกับ สกุลเงินเอเชียอ่อนค่าลง ขณะที่ ดอลลาร์ฟื้นตัว ท่ามกลางความเสี่ยงด้านการคลัง และการคาดการณ์การลดดอกเบี้ย  และราคาทองโลกพุ่งสูงสุดเป็นประวัติการณ์ 

นายพูน พานิชพิบูลย์ นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน Krungthai GLOBAL MARKETS ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า  เงินบาทช่วงเช้าวันนี้ ทยอยอ่อนค่าลง จากปัจจัยเรื่องความ "กังวลเสถียรภาพการคลังของหลายๆ ประเทศ"  หนักสุด คือ อังกฤษ  โดยจะเห็นจากที่เงินปอนด์อังกฤษ อ่อนค่าลงต่อ  และอีกประเด็น คือ "เงินหยวนอ่อนค่าลง"  แม้ว่า ดัชนี PMI ภาคการบริการจะดีกว่าคาด

ทางด้านปัจจัยในประเทศ มองว่า การยุบสภาไม่น่าจะกดดันเงินบาท เนื่องจากการเมืองไทยไม่ว่าจะช้าหรือเร็ว ก็ต้องยุบสภา  ขณะที่ หุ้นไทยยังไม่ได้โดนนักลงทุนต่างชาติขายออกมาแรง   แต่ยังต้องจับตาฝั่งตลาดบอนด์จากมีแรงขายมากน้อยแค่ไหน 

อีกปัจจัยสำคัญ คือ  พฤติกรรมทองคำกับเงินบาทจะเปลี่ยนไป สะท้อนว่า การลงทุนอาจจะไล่ราคาซื้อทองคำ ทำให้ความสัมพันธ์เปลี่ยน  "ราคาทองยิ่งปรับขึ้น เงินบาทยิ่งอ่อนลง"

นางสาวกาญจนา โชคพศาลศิลป์ ผู้บริหารงานวิจัย บริษัท ศูนย์วิจัยกสิกรไทย จำกัด เปิดเผยว่า ในช่วงเช้าวันนี้ ค่าเงินบาทอ่อนค่า ปรับตัวอยู่ที่ระดับประมาณ 32.38-32.40 บาทต่อดอลลาร์ เทียบกับระดับปิดตลาดวานนี้ที่ 32.39 บาทต่อดอลลาร์  โดยแม้จะยังมีอานิสงส์จากการปรับตัวขึ้นทำสถิติสูงสุดใหม่ของราคาทองคำในตลาดโลก แต่ "เงินบาทอ่อนค่าลง"

 เนื่องจากตลาดยังคงมีจุดสนใจอยู่ที่ประเด็นทางการเมืองในประเทศ ประกอบกับเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นตามทิศทางบอนด์ยีลด์สหรัฐฯ และได้รับแรงหนุนทางอ้อมจากทิศทางที่อ่อนค่าของเงินเยนและเงินปอนด์จากปัจจัยเฉพาะของทั้ง 2 สกุล

สำหรับกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในวันนี้ ประเมินเบื้องต้นไว้ที่ 32.25-32.50 บาทต่อดอลลาร์

ขณะที่ปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่ ปัจจัยการเมืองในประเทศ ทิศทางฟันด์โฟลว์ของต่างชาติ สถานการณ์ราคาทองคำในตลาดโลก และตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ อาทิ ตัวเลขการเปิดรับสมัครงานและอัตราการหมุนเวียนของแรงงาน ยอดสั่งซื้อภาคโรงงานเดือนก.ค. และรายงาน Beige Book ของเฟด