ราคาทองคำโลกทรงตัว ตลาดห่วงทรัมป์แจ้งขึ้นภาษีศุลกากรหลายชาติ

สำนักข่าวบลูมเบิร์ก รายงานว่า ราคาทองคำทรงตัวหลังฟื้นขึ้นจากปรับตัวลดลงในช่วงก่อนหน้า เมื่อประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เริ่มแจ้งอัตราภาษีศุลกากรล่าสุดแก่ประเทศต่างๆ หลายแห่ง โดยตลาดมีความกังวลเกี่ยวกับสงครามการค้าที่นำโดยสหรัฐฯเพิ่มขึ้น ส่งผลให้อุปสงค์ในสินทรัพย์ปลอดภัยเพิ่มสูงขึ้นตาม

ราคาทองคำปิดตลาดวันจันทร์ ( 7 ก.ค.) แทบไม่เปลี่ยนแปลง หลังจากร่วงลง 1.2% ในช่วงต้นของวัน และทรงตัวที่ 3,335 ดอลลาร์ต่อออนซ์ในการซื้อขายในวันอังคาร (8 ก.ค.) ประธานาธิบดีทรัมป์กล่าวว่า ญี่ปุ่นและเกาหลีใต้จะต้องถูกเรียกเก็บภาษีสินค้า 25% โดยสหรัฐจะเรียกเก็บภาษีในอัตราอื่นๆ สำหรับคู่ค้าประเทศอื่นๆ ส่งผลให้เกิดการเทขายสกุลเงินของประเทศเป้าหมายและหนุนค่าเงินดอลลาร์ เงินดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้นมักจะทำให้ทองคำมีราคาแพงขึ้นสำหรับผู้ซื้อส่วนใหญ่

ประเทศในเอเชียเป็นกลุ่มแรกที่ได้รับคำเตือนฝ่ายเดียวและข้อตกลงการค้าที่ประกาศเมื่อวันจันทร์ โดยนักลงทุนเตรียมรับมือกับผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นเพิ่มเติม เนื่องจากทำเนียบขาวเตรียมที่จะเรียกเก็บภาษีศุลกากรที่สูงขึ้นกับประเทศที่ไม่บรรลุข้อตกลงกับสหรัฐฯ 

อย่างไรก็ตาม การเคลื่อนไหวของทรัมป์ในการเลื่อนอัตราดอกเบี้ยใหม่ออกไปจนถึงวันที่ 1 สิงหาคมนั้น ส่งผลให้แต่ละประเทศที่ได้รับผลกระทบมีเวลาเพิ่มขึ้นอีก 3 สัปดาห์ในการเจรจาเพื่อบรรลุข้อตกลง

ความพยายามของทรัมป์ในการปฏิรูปนโยบายการค้าเป็นที่มาของความไม่แน่นอนอย่างต่อเนื่องสำหรับตลาดท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับผลกระทบที่ภาษีศุลกากรของสหรัฐฯ อาจมีต่อเศรษฐกิจโลก ซึ่งทำให้นักลงทุนแห่ซื้อสินทรัพย์ปลอดภัย เช่น ทองคำแท่ง ซึ่งพุ่งขึ้นมากกว่า 25%  ในปีนี้ และซื้อขายต่ำกว่าระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ทำได้เมื่อเดือนเมษายนประมาณ 160 ดอลลาร์ ความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ที่เพิ่มสูงขึ้นยังเน้นย้ำถึงความน่าดึงดูดใจของโลหะชนิดนี้

อัปเดตราคาทองคำเช้านี้ (8 ก.ค.)

ราคาทองคำแท่งตลาดสปอต (Spot Gold) ทรงตัวที่ 3,337.30 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ณ เวลา 7.15 น. ตามเวลาในสิงคโปร์ ค่าเงินดอลลาร์ย่อลง โดยดัชนี Bloomberg Dollar Spot ลดลง 0.1% หลังจากเพิ่มขึ้น 0.5% ในวันจันทร์ โลหะเงินและแพลเลเดียมแทบไม่เปลี่ยนแปลง ในขณะที่แพลตตินัมลดลง