ราคาทองคำโลกลดลง หลังพุ่งขึ้นแรงเกือบ 5% ท่าทีใหม่ของทรัมป์ฉุด
ราคาทองคำโลกย่อตัวลง จากอุปสงค์ในตลาดสินทรัพย์ปลอดภัยลดลง หลังทรัมป์เลื่อนกำหนดเส้นตายเก็บภาษีนำเข้าจากสหภาพยุโรป 50% ออกไปจนถึง 9 ก.ค.68 ลดตึงเครียดสงครามการค้า
บลูมเบิร์ก รายงาน ราคาทองคำลดลงเนื่องจากสถานะเป็นสินทรัพย์ปลอดภัยได้รับผลกระทบจากสัญญาณที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ อาจผ่อนปรนท่าทีแข็งกร้าวต่อการค้ากับสหภาพยุโรป หลังจากเขาเลื่อนกำหนดเส้นตายสำหรับมาตรการภาษีนำเข้าครั้งใหญ่
ทองคำแท่งซื้อขายใกล้เคียง 3,350 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หลังจากพุ่งขึ้นเกือบ 5% เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว โดยเมื่อวันอาทิตย์ตามเวลานิวยอร์ก ทรัมป์ประกาศว่าแผนของเขาที่จะเรียกเก็บภาษีนำเข้า 50% จากสหภาพยุโรปจะถูกเลื่อนออกไปจนถึงวันที่ 9 กรกฎาคม 2568 เพื่อให้ทั้งสองฝ่ายมีเวลาเจรจาข้อตกลงกันได้
เมื่อวันศุกร์ ผู้นำสหรัฐขู่ว่าจะเรียกเก็บภาษีนำเข้าจากสหภาพยุโรปในอัตราที่สูงกว่าที่คาดไว้ พร้อมทั้งเตือนแอปเปิ้ล ว่าจะต้องเสียภาษีนำเข้าสมาร์ตโฟน 25% หากไม่ผลิตโทรศัพท์ไอโฟนในสหรัฐ
สงครามการค้าที่เริ่มต้นโดยรัฐบาลสหรัฐชุดใหม่ช่วยผลักดันให้ราคาทองคำพุ่งสูงขึ้นกว่า 25%ในปีนี้ โดยปัจจุบันราคาซื้อขายอยู่ต่ำกว่าระดับสูงสุดตลอดกาลที่ทำไว้เมื่อเดือนที่แล้วราว 150 ดอลลาร์
แม้ว่าท่าทีที่ผ่อนปรนมากขึ้นเกี่ยวกับการค้าจะทำให้ความต้องการที่หลบภัยอ่อนแอลง แต่การดึงดูดความปลอดภัยทองคำกลับแข็งแกร่งขึ้นท่ามกลางความกังวลที่เพิ่มขึ้นเกี่ยวกับสถานะทางการคลังของรัฐบาลสหรัฐ หลังจากที่บริษัท มูดี้ส์ เรตติ้งส์ในเดือนนี้ลดอันดับความน่าเชื่อถือของสหรัฐ ลง นักลงทุนกังวลว่าร่างกฎหมายลดภาษีของทรัมป์ซึ่งผ่านสภาผู้แทนราษฎรเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว และตอนนี้ส่งไปยังวุฒิสภาแล้ว จะทำให้การขาดดุลงบประมาณเพิ่มขึ้นอีก
เมื่อมองไปข้างหน้า ผู้ค้าจะพิจารณาตัวชี้วัดทางเศรษฐกิจต่างๆ ที่จะเกิดขึ้นในสัปดาห์นี้ เช่น ยอดขายสินค้าคงทน และบ้าน และผลสำรวจความเชื่อมั่นของผู้บริโภค ตลาดหุ้นสหรัฐ จะปิดทำการในวันจันทร์เนื่องในวันหยุดวันทหารผ่านศึก
ราคาทองคำตลาดโลกเช้านี้ (26 พ.ค.68)
ราคาทองคำแท่ง(Spot Gold)ลดลง 0.3% เหลือ 3,346.82 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เมื่อเวลา 07.22 น. ตามเวลาในสิงคโปร์ ค่าเงินดอลลาร์ทรงตัว โดยดัชนีบลูมเบิร์กดอลลาร์ทรงตัว โลหะเงิน และแพลเลเดียมแทบไม่เปลี่ยนแปลง
ขณะเดียวกัน แพลทินัมยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องหลังจากที่แตะระดับสูงสุดในรอบ 2 ปีเมื่อวันศุกร์ ราคาโลหะพุ่งขึ้น 11% ในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งถือเป็นการเพิ่มขึ้นรายสัปดาห์ครั้งใหญ่ที่สุดในรอบกว่า 4 ปี โดยมีความกังวลเกี่ยวกับภาวะขาดแคลน และความต้องการเครื่องประดับที่เพิ่มขึ้นในจีน ซึ่งทำให้ตลาดตึงตัวมากขึ้น
พิสูจน์อักษร....สุรีย์ ศิลาวงษ์