‘หุ้นจีน’ รีบาวด์แรง ขานรับรัฐบาลหนุน ‘กลุ่มเทค’

‘หุ้นจีน’ รีบาวด์แรง ขานรับรัฐบาลหนุนกลุ่มเทคโนโลยีที่พุ่ง ดัชนีฮั่งเส็งปีนี้ ปรับขึ้นแรงตั้งแต่ต้นปี ลุ้นไตรมาส 2-3/68 จีนน่าจะมีมาตรการกระตุ้นออกมาเพิ่ม ก่อนหยุดชั่วคราว 90 วัน
“ตลาดหุ้นจีน” กลับมาอยู่ในสายตานักลงทุนทั่วโลกอีกครั้ง หลังจากทยอยปรับตัวขึ้น นับตั้งแต่ต้นปี สะท้อน “ดัชนีฮั่งเส็ง” ปรับตัวขึ้น “ร้อนแรงสุด” ในภูมิภาค บวกไปกว่า 19% หลังจากรัฐบาลสนับสนุน AI และหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี และคาดการณ์ว่ารัฐบาลยังคงเดินหน้าใช้นโยบายการเงินแบบผ่อนคลายเพื่อประคับประคองการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ ขณะที่ “การลดอัตราดอกเบี้ย” สะท้อนความพยายามกระตุ้นการลงทุน และความเชื่อมั่นภาคธุรกิจ ซึ่งความไม่แน่นอนจากแนวรบการค้าระหว่างจีนกับสหรัฐยังคงเป็นแรงกดดันเชิงโครงสร้างที่ตลาดต้องจับตาใกล้ชิด
“ชยนนท์ รักกาญจนันท์” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และผู้ร่วมก่อตั้ง บลน.ฟินโนมีนา ให้สัมภาษณ์ “กรุงเทพธุรกิจ” ว่า หุ้นจีนรีบาวด์มาตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่ทํามาต่อเนื่องตั้งแต่ไตรมาส 3-4 ปี 2567 ทําให้ตลาดมีความหวัง และมาเซอร์ไพรส์ในไตรมาส 4 ปี 2567 จีดีพีทะลุ 5.3% ทำให้ปี 2567 ขยายตัว 5%
ขณะที่ ตัวเลขเศรษฐกิจล่าสุดของจีน ภาคอสังหาริมทรัพย์จีนได้รับการอุ้มจากเอกชนกับรัฐบาลเข้ามา ทําให้หนี้อสังหาฯ ผ่อนคลายระดับหนึ่ง ขณะที่มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจีนยังต้องลุ้นกันอีกทีว่าจะมาเมื่อไร ซึ่งตลาดมีความคาดหวังภายในไตรมาส 2-3/68 จีนน่าจะมีมาตรการกระตุ้นออกมา ขณะที่สหรัฐ และจีน แต่ต้องไม่ลืมว่า จีนถือเป็นศัตรูของสหรัฐ
ฉะนั้นหลังสงครามการค้า 90 วันไป ซึ่งมองว่าจีนยังมีความเสี่ยงที่จะโดนสหรัฐยังเล่นงานอย่างต่อเนื่อง ส่วนแบงก์ชาติจีนอาจจะกระตุ้นเศรษฐกิจขึ้นมาก่อนที่จะมีปัญหา Reciprocal Tariffs รอบใหม่ขึ้นมา
ขณะเดียวกัน คาดช่วงครึ่งหลังน่าจะมีหุ้นขนาดใหญ่อีกหลายตัวเข้ามาลิสต์ตลาดฮั่งเส็ง ส่งผลให้ดัชนีฮั่งเส็งมีโอกาสไปได้ต่อ ขณะที่ตลาดหุ้น A-Share อาจจะยังต้องรอมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ซึ่งยังพอมีอัปไซด์ แต่เทียบกับตลาดฮั่งเส็งครึ่งหลังมีอัปไซด์ที่มากกว่า
ในส่วนกองทุนหุ้นจีนที่มันรีบาวด์มาค่อนข้างแรงตั้งแต่ต้นปี ส่วนใหญ่มาจากฝั่ง H-Share ส่วนหนึ่งมาจากปัจจัยกระตุ้น และมีเหตุเฉพาะหุ้นกลุ่มกลุ่มเทคโนโลยี
“กรรณ์ หทัยศรัทธา” นักกลยุทธ์การลงทุน บล.ซีจีเอส-อินเตอร์เนชันแนล (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นจีนยังคงมีความน่าสนใจ A-Share และ H-Share เนื่องจาก valuation ยังต่ำ เมื่อเทียบกับ S&P500 หากย้อนไปปี 2018 ที่จีนโดนโจมตีสงครามการค้ากับสหรัฐ ทำให้เห็นการค้าขายกันเองระหว่างชาติในเอเชีย หรืออาเซียน โดยปัจจุบันได้เห็นบริษัทจีนหลายๆ แห่ง เริ่มหาคู่ค้าที่เป็นตลาดใหม่มากขึ้น เพราะจีนมีพันธมิตรที่ดีในอาเซียน ปัจจุบันกำลังการผลิตของจีนล้นอยู่แล้ว ฉะนั้น การหาตลาดใหม่ใช่เรื่อง “ยาก”
ดังนั้น จีนในรอบนี้น่าจะดีกว่าเมื่อเทียบสถานการณ์ปี 2018 รวมถึงมี AI Deep Seek ต้นทุนต่ำกว่า AI ของ Facebook ที่ชื่อว่า Liama 3.1 ถึง 6 เท่า ตลาดหุ้นฮั่งเส็งปรับตัวเพิ่มขึ้นมาจากกระแสข่าว Deep Seek แล้วมีการจับมือกันระหว่างสี จิ้นผิงกับแจ๊ค หม่า
“อนุวัฒน์ อิ่มแสงรัตน์” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ดาโอ จำกัด ให้ข้อมูลต่อไปว่า ดัชนีฮั่งเส็งปีนี้ปรับขึ้นแล้วกว่า 16% ตั้งแต่ต้นปี โดยได้แรงหนุนหลักจากกลุ่มเทคโนโลยีที่พุ่งแรงกว่า 20% นำโดยกระแสความเชื่อมั่นใหม่หลังการเปิดตัวโมเดล AI ขั้นสูงจาก “DeepSeek” ซึ่งแสดงศักยภาพของจีนในเวทีนวัตกรรมโลก
โดย การฟื้นตัวครั้งนี้เป็นผลต่อเนื่องจาก “แผนพัฒนาเศรษฐกิจฯ ฉบับที่ 14” ที่เร่งลงทุน R&D และเทคโนโลยีขั้นสูง ขณะเดียวกัน “ฉบับที่ 15” ที่จะเริ่มในปี 2569 คาดจะต่อยอดด้วยเป้าหมายสร้างผลิตภาพใหม่ใน AI, Robotics, Automation และพลังงานสะอาด
พิสูจน์อักษร....สุรีย์ ศิลาวงษ์







