ลงทุนทองช่องทางไหนดี

ช่วงวันสงกรานต์ที่ผ่านมา ได้ไปเที่ยวที่ไหนกับมาบ้างมั้ยครับ ปีนี้ก็ถือว่าเป็นอีกหนึ่งปีที่ช่วงวันหยุดสงกรานต์ หากลาเพิ่มเติมก็ทำให้เรามีช่วงเวลาการได้ท่องเที่ยว กลับไปเยี่ยมครอบครัวกันมากขึ้น และในช่วงเดือนที่ผ่านมา ก็มีอีกหนึ่งอย่างที่ถือว่าเป็นช่วงขาขึ้นจริงๆ ก็คือราคาทองคำที่พุ่งขึ้นอย่างมากมาย วันนี้ผมจะขอให้คุณปิติพงษ์ รุ่งเรืองวุฒิกุล CFP® ผู้เชี่ยวชาญในด้านการวางแผนการเงินของบริษัท Wealth Creation International Investment Advisory Security Co., Ltd. จะมาเล่ามุมมองเกี่ยวกับการลงทุนในทองคำให้ท่านผู้อ่านได้อ่านกันนะครับ

“นับตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา เรียกว่าเป็นเวลาของทองคำจริงๆ เพราะ ตั้งแต่ตั้นปีที่ผ่านมานั้นราคาทองคำได้พุ่งขึ้นไปถึง 54,000 บาท โดยหากเทียบกับราคาเมื่อต้นปี ก็ถือว่าราคามีการปรับขึ้นไปไม่ต่ำกว่า 20% เลยทีเดียว และในเมื่อราคาของทองคำร้อนแรงขนาดนี้ ย่อมเป็นที่สนใจของนักลงทุน โดยนักลงทุนหลายท่านอาจจะยังไม่ทราบว่า ในปัจจุบันนี้ช่องทางในการลงทุนมีหลากหลายมากขึ้น และหลายๆช่องทางก็ไม่จำเป็นต้องใช้เงินจำนวนมากในการลงทุน ทำให้เป็นข้อดีสำหรับสายสะสมที่ชอบทยอยๆ ซื้อ อย่างไรก็ตามแต่ แต่ละช่องทางก็มีข้อแตกต่างกันไป เรามาดูกันดีกว่าว่า แต่ละช่องทางการลงทุนมีข้อแตกต่างกันอย่างไร

เริ่มต้นด้วยการลงทุนในทองคำระดับพื้นฐานก่อนเลยก็คือ การลงทุนในทองคำจริง หรือก็คือการไปซื้อทองที่ร้านทองนั่นเอง วิธีนี้เป็นวิธีที่นิยมมานาน ข้อดีของวิธีนี้ก็คือการได้ทองคำมาเก็บไว้กับตัว และหากเป็นทองรูปพรรณ ก็สามารถนำไปใช้ประโยชน์เป็นเครื่องประดับได้อีกด้วย อย่างไรก็ตาม การลงทุนแบบนี้จะมี ค่าใช้จ่ายแฝง ไม่ว่าจะเป็นค่ากำเหน็จ เมื่อต้องการขายทองคำ ,ค่าเดินทาง ในการไปซื้อทอง และค่าใช้จ่ายในการดูแลรักษาทอง นอกจากนี้ การซื้อทองป็นทองคำแท่งเก็บไว้ ก็ยังมีความเสี่ยงที่จะสูญหาย ได้อีกด้วย ดั้งนั้นการเลือกใช้วิธีลงทุนในทองโดยการซื้อทองนั้น จะเหมาะกับคนที่สามารถใช้ประโยชน์จากทองคำได้ เช่นใช้เป็นเครื่องประดับ หรือใช้เป็นค่าสินสอด เป็นต้น และต้องมีความสามารถที่จะดูและทองได้เป็นอย่างดี

หากการลงทุนโดยการซื้อทองจริง ไม่เหมาะกับคุณ อาจจะเนื่องด้วย ต้องใช้เงินก้อนใหญ่ หรือ ไม่สะดวกในการจัดเก็บรักษา การเลือกลงทุนในทองคำผ่านกองทุนรวม ก็เป็นอีกหนึ่งวิธีที่น่าสนใจครับ โดยการลงทุนทองคำผ่านกองทุนรวมนอกจากจะทำผลตอบแทนได้ใกล้เคียงกับทองคำจริงๆ, ไม่ต้องใช้เงินก้อน และ ไม่มีค่าใช้จ่ายในการดูแลรักษาทองคำแล้วนั้น การลงทุนในกองทุนรวม ยังมีสภาพคล่องที่สูง สามารถซื้อขายได้ทุกวันทำการ ผ่านทาง โบรกเกอร์ต่างๆ หรือธนาคารที่เราเปิดบัญชีซื้อขายด้วย นอกจากนั้น หากลงทุนในกองทุนรวมทองคำชนิด RMF ก็ยังสามารถนำมาใช้ลดหย่อนภาษีได้อีกด้วย แต่ก็อย่าลืมดูค่าธรรมเนียมของแต่ละกองทุนที่แตกต่างกันด้วยนะครับ 

นอกจากการลงทุนในทองคำผ่านกองทุนรวมแล้วนั้น นักลงทุนยังสามารถลงทุนในทองคำผ่านกองทุน ETF ในตลาดหลักทรัพย์ได้อีกด้วย โดยการลงทุนผ่าน ETF ในตลาดหลักทรัพย์นั้นข้อดีจะคล้ายกับการลงทุนผ่านกองทุนรวม คือสภาพคล่องสูง สามารถซื้อขายผ่าน โปรแกรมที่ใช้ซื้อขายหุ้นได้เลย นอกจากนั้นค่าธรรมเนียมก็ยังต่ำกว่ากองทุนรวมอีกด้วย 

แต่หากผู้ลงทุนต้องการที่จะได้ทองคำจริง และ อยากจะลงทุนแบบทยอยออมด้วย การลงทุนในทองคำผ่าน Gold Wallet อาจจะเป็นคำตอบครับ โดยการลงทุนใน Gold Wallet จะเป็นการรวมข้อดีของการลงทุนในทองคำโดยตรง และ การลงทุนโดยอ้อมเข้าด้วยกัน โดยผู้ลงทุนสามารถที่จะส่งคำสั่งซื้อขายทองคำได้ตลอด 24 ชั่วโมง โดยการส่งคำสั่งเป็นจำนวนนำหนักของทองที่ต้องการซื้อ และเมื่อจำนวนน้ำหนักทองถึงตามกำหนด ก็สามารถติดต่อขอรับทองคำได้จริงที่ร้านทอง อย่างไรก็ตาม จุดสังเกตของการลงทุนในทองคำผ่าน Gold Wallet ก็คือ ผู้ลงทุนจะต้องมีการเปิดบัญชี FCD (Foreign Currency Deposit) หรือก็คือบัญชีเงินฝากเงินตราต่างประเทศนั้นเอง การเปิดบัญชีประเภทนี้ ผู้เปิดจะต้องนำเงินบาท ไปแลกเป็นเงิน USD ผ่านช่องทางการซื้อขายทองคำ Gold Wallet โดยการแลกเปลี่ยนเงินแต่ละครั้งผู้รับแลกเงินแต่ละเจ้าก็จะมีอัตราแลกเปลี่ยนที่แตกต่างกัน การเลือกใช้บริการกับผู้ให้บริการที่มี ส่วนต่างราคาซื้อขายสกุลเงินที่กว่าง ก็จะทำให้ผู้ลงทุนเสียเปรียบจากส่วนต่างราคาซื้อขายได้

สุดท้ายนี้คือการลงทุนในทองคำผ่าน Gold Future สำหรับการลงทุนในทองคำผ่าน Gold Future นั้นจะเหมาะกับผู้ที่มีความรู้ความเข้าใจในลักษณะของสัญญาซื้อขายล่วงหน้าเพราะการลงทุนค่อนข้างจะซับซ้อน การลงทุนประเภทนี้เหมาะกับการเก็งกำไรระยะสั้น เนื่องจากใช้เงินทุนน้อย แต่ความเสี่ยงค่อนข้างสูง

โดยสรุปแล้วนั้น การลงทุนในทองคำนั้นมีให้เลือกค่อนข้างหลากหลาย หากนักลงทุนต้องการลงทุนแบบไม่ใช้เงินจำนวนมาก หรือชอบที่จะทยอยสะสม การเลือกลงทุนผ่าน กองทุนรวม หรือ ETF ดูจะเป็นทางเลือกที่เหมาะสมมากกว่าการลงทุนในทองคำจริงๆ แต่หากผู้ลงทุน ต้องการที่จะได้ทองคำเป็นสินทรัพย์เก็บเอาไว้ โดยไม่ต้องกังวลเรื่องการเก็บรักษา การเลือกลงทุนโดยการซื้อทองคำจริงเก็บไว้ ก็เป็นทางเลือกที่เหมาะสม โดยให้เลือกเก็บในรูปของทองคำแท่ง จะดีกว่าทองรูปพรรณ เพราะราคารับซื้อคืนที่สูงกว่า และให้เลือกซื้อกับร้านทองร้านใหญ่ เพราะ การขายคืน หากขายคืนต่างร้านจะมีค่ากำเหน็จที่ค่อนข้างสูง สุดท้าย หากนักลงทุนชอบที่จะทยอยสะสม และ คิดว่าอาจจะต้องใช้ทองจริงด้วย การเลือกออมผ่าน Gold Wallet ก็เป็นทางเลือกที่น่าสนใจครับ แต่ไม่ว่าจะลงทุนผ่านช่องทางไหน อย่าลืมศึกษารายละเอียดการลงทุนด้วยทุกครั้งนะครับ”