'กลุ่มธุรกิจทางการเงินธนาคารกสิกรไทย' เปิดตัว 'ออร์บิกซ์กรุ๊ป'

'กลุ่มธุรกิจทางการเงินธนาคารกสิกรไทย' เปิดตัว 'ออร์บิกซ์กรุ๊ป'

"กลุ่มธุรกิจทางการเงินธนาคารกสิกรไทย" เปิดตัว "ออร์บิกซ์กรุ๊ป" ผู้นำสินทรัพย์ดิจิทัลให้บริการที่ครอบคลุมทั้งระบบนิเวศสินทรัพย์ดิจิทัลในประเทศไทย

กลุ่มธุรกิจทางการเงินในเครือ "ธนาคารกสิกรไทย" ผู้นำด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยีทางการเงิน เข้าร่วมงาน Money 20/20 Asia ซึ่งเป็นงานสัมมนาด้านฟินเทคระดับโลก ที่จัดขึ้นระหว่างวันที่ 22-24 เมษายน 2568 โดยมีธนาคารระดับโลกและภูมิภาค บริษัทผู้ให้บริการด้านการชำระเงินระดับโลกและเอเชีย ผู้นำด้านเทคโนโลยี นักลงทุนและกลุ่มบริษัทร่วมทุนสตาร์ทอัพ หน่วยงานกำกับดูแลชั้นนำของเอเชีย และมีเดียแพลตฟอร์มที่เข้าร่วมงานครั้งนี้

โดยครั้งนี้ผู้บริหารธนาคารกสิกรไทย ร่วมแบ่งปันวิสัยทัศน์และมุมมองเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงอุตสาหกรรมการเงินในยุคดิจิทัล พร้อมเปิดตัว "ออร์บิกซ์ กรุ๊ป" กลุ่มผู้ให้บริการที่ครอบคลุมระบบนิเวศสินทรัพย์ดิจิทัลในประเทศไทย

"ออร์บิกซ์ กรุ๊ป" ถือเป็นกลุ่มบริษัทที่เป็นผู้ให้บริการที่มุ่งมั่นให้บริการครอบคลุมระบบนิเวศสินทรัพย์ดิจิทัลในประเทศไทยแล้ว ยังเป็นผู้ที่ได้รับใบอนุญาตประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลที่ครอบคลุม ครบถ้วนมากที่สุดในประเทศไทย

"พิพิธ เอนกนิธิ" ผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกสิกรไทย ฉายภาพพันธกิจ หรือ Mission ของธนาคารกสิกรไทย ในพื้นที่ที่มีการแข่งขันสูง ทั้งตลาดต่างประเทศและในประเทศ พันธกิจของธนาคารที่เป็นเป้าหมายหลักคือ การคิดว่าจะเป็นส่วนหนึ่งของลูกค้าต่อไปได้อย่างไร ให้บริการอย่างไร และจะเป็นผู้นำการแข่งขันได้อย่างไร

'กลุ่มธุรกิจทางการเงินธนาคารกสิกรไทย' เปิดตัว 'ออร์บิกซ์กรุ๊ป'

และด้วยพันธกิจเหล่านี้จึงบังคับให้ธนาคารเอง ต้อง "อ้าแขน" เปิดกว้างในการรับเทคโนโลยีเข้ามาอย่างรวดเร็วมากขึ้น เพราะองค์ประกอบเหล่านี้จะเป็นแกนกลางในการ "อยู่รอด" ของธนาคาร และทำให้ธนาคารกสิกรไทยยังคงความเป็น "ผู้นำ" ต่อไปได้ 

การคำนึงถึงผู้มีส่วนได้ส่วนเสียของธนาคารทั้งหมด ทั้งลูกค้า หน่วยงานกำกับดูแล ภาครัฐ ที่จะช่วยส่งเสริมและสนับสนุน ภายใต้การคุ้มครองดูแลลูกค้าที่เหมาะสม ดังนั้น สิ่งที่ต้องทำวันนี้คือต้องเร่งให้เกิด "นวัตกรรม" ที่จะเป็นยุทธศาสตร์ของธนาคาร หากทำเองไม่ได้ ต้องเปิดโอกาสให้คนอื่นๆเข้ามาทำ เพื่อให้ธนาคารมั่นใจว่าสามารถยกระดับและสามารถเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันต่อไปได้

และการที่จะสามารถก้าวไปข้างหน้าได้ จำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องลงทุนในด้านเทคโนโลยี และทำให้เกิดบริการทางการเงินใหม่ๆ เหล่านี้มาจากการเปลี่ยนผ่านจากดิจิทัล การยกระดับการให้บริการที่มีอยู่แล้ว รวมถึงการหาลูกค้าใหม่ๆ ต้องให้บริการที่ถูกจังหวะ และเวลา ภายใต้การบริหารความเสี่ยงของธนาคารที่รัดกุม บนการบริหารจัดการหนี้อย่างมีประสิทธิภาพ สิ่งต่างๆ เหล่านี้คือสิ่งที่สร้างมูลค่าเพิ่มให้กับธุรกิจในระยะข้างหน้า

"การขยายไปสู่ตลาดที่มีอัตราการเติบโตสูงอยู่แล้ว เราต้องมีกล้ามเนื้อที่แข็งแรงในหลายพื้นที่ หลายอุตสาหกรรม ขีดความสามารถเหล่านี้เราต้องใช้อย่างเข้มแข็ง เมื่อไม่นานมานี้ เราเพิ่งไปจีน เวียดนาม อินโดนีเซีย ที่เราเห็นว่ามีศักยภาพที่กสิกรไทยมีมาร์เก็ตแชร์ แต่สิ่งเหล่านี้ต้องอาศัยการเป็นธนาคารดั่งเดิม เพื่อให้เกิดการต่อยอดการเติบโต"

แต่บนโลกยุคใหม่ ธนาคารต้องเร่งเติบโตบนโลกใหม่มากขึ้น โดยเฉพาะบนธุรกิจ "สินทรัพย์ดิจิทัล" ที่ธนาคารพยายามทำให้เกิดขึ้นตลอดระยะเวลากว่า 5 ปีนับตั้งแต่โควิด ที่ธนาคารมุ่งมั่นให้บริษัทลูกในกลุ่มฯ ได้รับใบอนุญาตประกอบธุรกิจ (License) ในธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลที่ครอบคลุม ดังนั้นเป้าหมายของธนาคารบนการเปลี่ยนผ่านของธนาคาร จะทำให้ธนาคารสามารถเติบโตไปยังพื้นที่ใหม่ๆ ได้อย่างไร จึงเป็นเป้าหมายสำคัญของธนาคารในการก้าวต่อไปในระยะข้างหน้า

อย่างไรก็ตาม ภายใต้เป้าหมายในการเติบโตบนธุรกิจใหม่ๆ ของธนาคาร ยังถือว่าอยู่ในแผนยุทธศาสตร์ 3+1 ของธนาคาร ที่จะช่วยผลักดันให้ธนาคารเติบโตได้ต่อเนื่องบนการมีพาร์ทเนอร์ชิพที่แข็งแกร่ง การบริหารความเสี่ยงที่ดี 

"เราเชื่อว่าการเติบโตในโลกยุคใหม่ การมุ่งไปเติบโตในธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลๆ ต่างถือเป็นดินแดนใหม่ของธนาคาร เราจะฝังตัวเองเข้าไปในอุตสาหกรรมใดๆ อย่างไร ไม่ใช่แค่การจ่าย ฝาก ถอน หรือให้เงินกู้ แต่เราต้องเรียนรู้ เข้าใจ Pain point ของแต่ละอุตสาหกรรมให้มากกว่านี้ เพื่อให้ก้าวออกไปจากธุรกิจแบบเดิม ออกจากการทำธุรกิจโลกเก่า ไม่เช่นนั้นเราก็ไม่สามารถเปิด Value ไปสู่โลกใหม่ได้" 

เปิดตัวออร์บิกซ์เชื่อมโลก

ดร.กรินทร์ บุญเลิศวณิชย์ รองผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกสิกรไทย กล่าวว่า หากพูดถึง ออร์บิกซ์ Vision ที่เขาอยากเห็นคืออยากเป็นส่วนหนึ่งในการเชื่อมโลก เพราะวันนี้การทำธุรกรรมทางการเงินต่างๆ บนโลกดิจิทัล โลกสินทรัพย์ดิจิทัลสามารถเชื่อมโยงกันได้ง่าย สามารถใช้เป็นเครื่องมือในการโอนเงินข้ามกันไป ทำให้ธุรกรรมต่างๆ วันนี้เริ่มเปลี่ยนไป เชื่อมโยงถึงกันมากยิ่งขึ้น 

'กลุ่มธุรกิจทางการเงินธนาคารกสิกรไทย' เปิดตัว 'ออร์บิกซ์กรุ๊ป'

5 ธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลครบวงจร

สำหรับกลุ่ม "ออร์บิกซ์" Orbix Group ถือว่าเป็นกลุ่มที่ให้บริการ "สินทรัพย์ดิจิทัล" ที่ครอบคลุมระบบนิเวศสินทรัพย์ดิจิทัล ประกอบด้วย

  1. Kubix (คิวบิกซ์) ผู้ให้บริการระบบเสนอขายโทเคนดิจิทัล (ICO Portal) รายแรกของกลุ่มธุรกิจการเงิน ที่ได้รับการเห็นชอบจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) โดยตอบโจทย์ผู้ประกอบการ ที่ต้องการออกโทเคนดิจิทัลและระดมทุนผ่าน Kubix ได้ 
  2. Orbix Trade (ออร์บิกซ์ เทรด) ที่ทำหน้าที่เป็นศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล ได้รับใบอนุญาตประกอบธุรกิจจากกระทรวงการคลังและอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของสำนักงานก.ล.ต.
  3. Orbix Invest (ออร์บิกซ์ อินเวสท์) ผู้จัดการเงินทุนสินทรัพย์ดิจิทัล (Digital Asset Fund Manager) ที่ได้รับใบอนุญาตประกอบธุรกิจจากกระทรวงการคลัง ภายใต้การกำกับดูแลของสำนักงานก.ล.ต. 
  4. Orbix Technology (ออร์บิกซ์ เทคโนโลยี) ผู้พัฒนาและให้บริการ Quarix ซึ่งเป็นโครงสร้างพื้นฐานเทคโนโลยีบล็อคเชนระดับภูมิภาค ที่มุ่งขับเคลื่อนให้เกิด Use Cases ในโลกความจริง
  5. ล่าสุด หลังจากพ.ร.ก. สินทรัพย์ดิจิทัลเปิดให้มีไลเซนส์ Custodian ซึ่งในอดีตยากมากที่จะได้ไลเซนส์นี้ Orbix Custodian (ออร์บิกซ์ คัสโทเดียน) ได้เป็นผู้ให้บริการรับฝากสินทรัพย์ดิจิทัลรายแรกของไทยที่ได้รับใบอนุญาตจากกระทรวงการคลัง ภายใต้การกำกับดูแลของสำนักงาน ก.ล.ต. 

ออร์บิกซ์กรุ๊ปแตกต่างจากคนอื่นอย่างไร

ทั้งนี้ หากถามว่า Value Proposition หรือกลยุทธ์ของ "ออร์บิกซ์กรุ๊ป" เราแตกต่างจากคนอื่นๆ อย่างไร แน่นอนว่าวันนี้มีผู้ให้บริการจำนวนมาก มีจุดขายต่างกัน โดยมีความน่าเชื่อถือและปลอดภัยตามมาตรฐานของหน่วยงานกำกับดูแล

สิ่งที่คนไทยเราเห็นว่ายังไม่เกิดขึ้นคือ ทุกวันนี้หากซื้อของเงินในการจ่ายเงินผ่าน QR payment โดยที่ของกับเงินอยู่คนละที่ แต่ประโยชน์ของเทคโนโลยีบล็อกเชนคือ ของและเงินจะจัดเก็บข้อมูลภายใต้เทคโนโลยีบล็อกเชนทั้งคู่ ทำให้ข้อมูลนั้นเชื่อมโยงกัน สามารถ settle และชำระเงินได้ทันที การใช้เทคโนโลยีบล็อกเชนกับสินทรัพย์ดิจิทัลในประเทศไทยจึงยังไม่เกิด ภาคธุรกิจยังไม่สามารถนำไปใช้ชำระเงินได้ เพราะยังไม่มีเงินในบล็อกเชนตามกฎหมายไทย จึงไม่สามารถชำระราคาในบล็อกเชนได้  

จึงเป็นที่มาที่เราต้องมีบล็อกเชนเป็นของตัวเอง ผ่าน Orbix Technology ผู้พัฒนา Quarix ซึ่งเป็นโครงสร้างพื้นฐานบล็อกเชน เพราะเราเชื่อว่าหลังจากนี้ จะทำให้รูปแบบของตลาดเงินตลาดทุนเปลี่ยนไป 

'กลุ่มธุรกิจทางการเงินธนาคารกสิกรไทย' เปิดตัว 'ออร์บิกซ์กรุ๊ป'

ทำไมกสิกรถึงลุกขึ้นมาทำธุรกิจ "สินทรัพย์ดิจิทัล"

ถามว่า ทำไมกสิกรไทยถึงลุกมาทำเรื่องเหล่านี้ ผ่าน "ออร์บิกซ์กรุ๊ป" หรือการให้บริการผ่านสินทรัพย์ดิจิทัลครบวงจร เพราะเราเชื่อว่า "ทุกอย่างกำลังจะมา" ประเทศไทยเรามีพระราชกำหนดการประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลเกิดขึ้นตั้งแต่ ปี 2018 โดยสำนักงาน ก.ล.ต. หันมาให้ความสำคัญและทำให้เรื่องเหล่านี้เข้ามาอยู่ภายใต้การกำกับดูแล 

และเชื่อว่าหลักจากนี้ ด้วยเทคโนโลยีที่พัฒนาอย่างต่อเนื่อง แน่นอนว่าในมุมของนักลงทุน "สินทรัพย์ดิจิทัล" จะมีความผันผวน ราคาขึ้นลงได้ตามพื้นฐานของแต่เหรียญ แต่เวลาผ่านไปเมื่อนักลงทุนมีความรู้มากขึ้น การใช้เทคโนโลยีสุดท้ายจะเปลี่ยนรูปแบบการทำธุรกรรมทางการเงินในระยะข้างหน้าได้

จุดเปลี่ยนนั้นคือ การสนับสนุนของหน่วยงานภาครัฐ เช่น "โดนัลด์ ทรัมป์" ประธานาธิบดีสหรัฐ ที่เข้ามาผลักดัน "สินทรัพย์ดิจิทัล" ที่เหล่านี้ถือว่าเป็นหนึ่งในการปรับเปลี่ยนมุมมองเกี่ยวสินทรัพย์ดิจิทัลของภาครัฐในระดับโลก

"ประเทศไทย" เช่นเดียวกัน ภายใต้พ.ร.ก. สินทรัพย์ดิจิทัลในปัจจุบัน ที่ก.ล.ต. และหน่วยงานกำกับต่างๆ เห็นประโยชน์ของเทคโนโลยีนี้มากขึ้นเรื่อยๆ และเปิด Regulatory Sandbox หรือการทดสอบนวัตกรรมการเงินหรือสนับสนุนการให้บริการทางการเงินต่างๆ ได้มากขึ้น ในแง่ของผู้ใช้การถือสินทรัพย์ดิจิทัลถือว่าไม่ใช่เรื่องใหม่ของคนไทย

"สิ่งที่เราเชื่อ เราเห็นเทคโนโลยีต่างๆ ที่กำลังมาที่เกี่ยวกับสินทรัพย์ดิจิทัล เกณฑ์ต่างๆ เริ่มเอื้อ ดังนั้นต้องสร้างมันให้เกิดขึ้น สร้างนวัตกรรมใหม่ๆ ให้เกิดขึ้น และเราจะได้เห็นว่าประเทศไทยมีดีไม่แพ้ใคร" 

ก้าวถัดไปของ "ออร์บิกซ์กรุ๊ป"     

สำหรับ the next chapter มีลูกค้าหลายรายของ Kubix ที่อยู่ระหว่างการศึกษาและเตรียมความพร้อมในการออกโทเคนดิจิทัลในรูปแบบที่หลากหลายมากขึ้นบนแพลตฟอร์มของ Kubix โดยรวมถึงโทเคนที่อิงกับสินค้าโภคภัณฑ์ และโทเคนการลงทุนทางเลือก ซึ่งคาดว่าจะเริ่มเห็นนวัตกรรมเหล่านี้ได้ตั้งแต่ไตรมาส 2 ไตรมาส 3 เป็นต้นไป

นอกจากนี้ โทเคนคาร์บอนเครดิตยังคงเป็นหนึ่งในประเด็นสำคัญที่ Kubix ให้ความสำคัญ โดยบริษัทอยู่ระหว่างการพัฒนาแนวทางการให้บริการที่มีประสิทธิภาพ และร่วมหารือกับหน่วยงานกำกับดูแลที่เกี่ยวข้อง เพื่อแก้ไขข้อจำกัดของอุตสาหกรรม และสร้างผลกระทบเชิงบวกอย่างเป็นรูปธรรมในตลาดไทย เพื่อสอดคล้องกับเป้าหมายของประเทศไทยในการบรรลุความเป็นกลางทางคาร์บอนภายในปี 2050

สิ่งนี้ที่เราเลือก ไม่ใช่ว่ามีคนอยากจะหาเงิน ต้องการระดมทุนแล้วเราออกโทเคนดิจิทัลให้ได้ แต่เราอยากให้การออกโทเคนดิจิทัลในระยะข้างหน้ามีการกลั่นกรองและมีการเปิดเผยข้อมูลให้นักลงทุนอย่างครบถ้วน

สุดท้ายหากให้เปรียบเทียบ "ออร์บิกซ์กรุ๊ป" วันนี้ เหมือนอยู่ในช่วงของการเป็น "สตาร์ทอัพ" ธุรกิจยังติดลบ มีการลงทุนมากกว่ารายได้ แต่เราคาดว่าจะสามารถ Break even ได้ใน 3-5 ปีข้างหน้า!! 

**การแข่งขันธนาคารดิจิทัล-ธนาคารดั้งเดิม

"วศิน วณิชย์วรนันต์" รองผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกสิกรไทย ได้ร่วมเสวนาในหัวข้อ "Digital Banks vs. Legacy Banks: Will 2025 Be the Tipping Point?" โดยเขามองว่า ธนาคารดั้งเดิมสามารถรักษาความสำคัญและแข่งขันกับธนาคารดิจิทัลได้โดยการปรับตัวเป็น Hybrid Bank

ผสมผสานระหว่างความแข็งแกร่งดั้งเดิม เช่น ความน่าเชื่อถือและความสัมพันธ์กับลูกค้า กับการพัฒนา ประสบการณ์ดิจิทัลที่ทันสมัย และการจับมือเป็นพันธมิตร เพื่อเข้าถึงตลาดใหม่ๆ ส่วนกลยุทธ์สำคัญ ได้แก่ การลงทุนในนวัตกรรม ปรับเปลี่ยนวัฒนธรรมองค์กร

รวมถึงการใช้จุดแข็งด้าน Human Touchpoints เพื่อสร้างความมั่นใจในเรื่องความปลอดภัย ขับเคลื่อนให้ลูกค้าใช้ชีวิตและทำธุรกิจได้ทุกที่ ทุกเวลา ด้วยบริการที่ครบวงจร สอดรับกับพฤติกรรมที่เปลี่ยนไปของผู้บริโภคในยุคดิจิทัล พร้อมต่อยอดจากธุรกิจธนาคารสู่ระบบนิเวศทางการเงินยุคใหม่

เช่น การจัดตั้งกลุ่มธุรกิจทางการเงินเพื่อรองรับ Digital Asset Ecosystem และการให้บริการที่ครบวงจร เพื่อขับเคลื่อนการเติบโตในโลกการเงินยุคใหม่