YLG ชี้นักลงทุนโยกเข้า 'ทอง' ออลไทม์ไฮต่อ หลังทรัมป์กดดันพาวเวล

YLG ชี้นักลงทุนโยกเข้า 'ทอง' ออลไทม์ไฮต่อ  หลังทรัมป์กดดันพาวเวล

YLG ชี้ราคาทองพุ่งต่อ ฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย แม้มีแรงขายสลับ จับตาเจรจาการค้า มองนักลงทุนโยกเงินเข้า หลังทรัมป์กดดันพาวเวล และธนาคารกลางทั่วโลก ตุนเข้าพอร์ตแล้ว 24 ตัน

นางสาวฐิภา นววัฒนทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน เเอนด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด (YLG) เปิดเผยว่า แม้ใระยะนี้จะมีข่าวการเจรจาทางการค้าของสหรัฐกับหลายประเทศคู่ค้า ส่งผลให้ในระยะสั้นอาจเกิดแรงขายทำกำไรทองคำสลับออกมาบางส่วน

มองว่าส่วนหนึ่งมาจากราคาทองคำที่ได้ปรับตัวขึ้นมาอย่างรุนแรง โดยจากต้นปีจนถึงปัจจุบัน (เวลา 14.20น. ณ วันที่ 21 เม.ย. 68) ทำระดับสูงสุดใหม่ 3,395.66 ดอลลาร์ต่อออนซ์ จากระดับดังกล่าวราคาทองคำโลกขึ้นมาแล้วถึง 771.84 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หรือ +29.42% YTD  

ส่วนราคาทองคำแท่ง 96.5% ของไทย ทำระดับสูงสุดใหม่ที่ 53,150 บาทต่อบาททองคำ ปรับตัวขึ้นมาแล้ว 10,750 บาทต่อบาททองคำ หรือ +25.35% YTD  ขณะที่ SPDR กองทุนทองคำขนาดใหญ่ที่สุดของโลก ในปีนี้ได้ทำการเข้าซื้อสุทธิมาแล้วถึง 79.77 ตัน

โดยแม้ว่าระหว่าง สหรัฐ-จีน จะเปิดช่องเจรจาเพื่อหาทางออกร่วมกัน แต่ล่าสุดกระทรวงพาณิชย์ของจีนได้ออกมาเปิดเผยว่าจีนเคารพสิทธิของแต่ละประเทศ บนพื้นฐานของความเท่าเทียม แต่ขอคัดค้านอย่างหนักแน่นหากมีประเทศใดทำข้อตกลงที่ส่งผลเสียต่อจีนจะดำเนินมาตรการตอบโต้อย่างเด็ดขาด  ด้วยความผันผวนและความกังวลของนักลงทุนที่ยังคงอยู่ในระดับสูง จึงจะยังคงมีความระมัดระวังในการลงทุนสูงเช่นกัน

 ในขณะที่ดอลลาร์สหรัฐยังคงดิ่งอ่อนค่าลงอย่างต่อเนื่องจนทำระดับต่ำสุดในรอบกว่า 3 ปี จากความเสี่ยงนโยบายภาษีของ “ทรัมป์” ในท้ายที่สุดแล้วจะส่งผลกระทบต่อการเติบโตของเศรษฐกิจสหรัฐ และเสี่ยงต่อภาวะถดถอย หรือ Recession

อีกทั้ง ยังมีปัจจัยความวุ่นวายภายในประเทศ หลังจากสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา "ทรัมป์" ปธน.สหรัฐ โพสต์ข้อความผ่าน Truth Social ว่าการปลด "พาวเวล" ปธ.เฟด ไม่สามารถรอได้อีกต่อไป พร้อมวิจารณ์ว่าทำการปรับลดดอกเบี้ยล่าช้าเกินไป  ปัจจัยดังกล่าวสะท้อนถึงความเสี่ยงในการดำเนินโยบายการเงินของเฟด ซึ่งเป็นองค์กรอิสระที่ไม่ควรถูกแทรกแซงทางการเมือง  จนเป็นหนึ่งในปัจจัยกระตุ้นให้เริ่มมีผู้ชุมนุมหลายหมื่นคนรวมตัวกันที่กรุงวอชิงตัน และเมืองอื่นๆ เพื่อประท้วงนโยบายของ “ทรัมป์”  

ปัจจัยเหล่านี้ ความเป็นสินทรัพย์ปลอดภัยของทองคำจึงเด่นชัด ด้วยความเป็นอิสระต่อสหรัฐ และการเคลื่อนไหวที่ส่วนใหญ่ที่จะสวนทางกับดอลลารสหรัฐ


นอกจากนี้ ปัจจัยสนับสนุนทองคำที่สำคัญในปีนี้ คือการเข้าซื้อทองคำอย่างต่อเนื่องของธนาคารกลางทั่วโลก โดยล่าสุดสภาทองคำโลก (WGC) ได้ประกาศตัวเลขการถือครองทองคำของธนาคารกลางทั่วโลก โดยซื้อสุทธิต่อเนื่องเป็นปีที่ 15 ติดต่อกันในปี 2567 ด้วยปริมาณการเข้าซื้อทองคำระดับ 1,045 ตัน  และถือเป็นปีที่ 3 ติดต่อกันแล้วที่ความต้องการทองคำสูงเกิน 1,000 ตัน  

สำหรับปี 2568 ธนาคารกลางทั่วโลกยังคงซื้อทองคำสุทธิ 24 ตัน ในช่วง 2 เดือนแรก นำโดยธนาคารกลางโปแลนด์ที่ซื้อทองคำสุทธิรวม 32 ตัน ซึ่งเป็นการซื้อต่อเนื่อง 11 เดือนติดต่อกัน  ตามมาด้วยธนาคารกลางจีน (PBOC) ซึ่งซื้อทองคำเป็นอันดับ 2  โดยซื้อสุทธิเพิ่มขึ้น 10 ตัน ทำให้ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา จีนถือครองทองคำสำรองเพิ่มขึ้น 340 ตัน ล่าสุด  ขณะที่ PBOC เผยข้อมูลล่าสุด ในเดือน มี.ค. ยังคงถือทองคำสำรองเพิ่มขึ้นเป็นเดือนที่ 5 ติดต่อกัน 

สำหรับคำแนะนำการลงทุนทองคำ

ด้วยระดับราคาและความผันผวนที่อยู่ในระดับสูง ขณะที่ยังมีโมเมนตัมในเชิงบวกอย่างชัดเจน  ในช่วงนี้จึงแนะนำ หาจังหวะย่อตัวลงเพื่อเข้าซื้อเก็งกำไรระยะสั้น โดยมีแนวรับระยะสั้นที่ 3,321 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ซึ่งหากยังยืนเหนือระดับดังกล่าวได้ จะยังสามารถปรับตัวขึ้นต่อตามแนวโน้มหลักได้ ลุ้นขึ้นทดสอบแนวต้าน 3,400-3,411 ดอลลาร์ต่อออนซ์

พร้อมแนะนำแบ่งขายทำกำไรหากราคาไม่ผ่านระดับดังกล่าว  อย่างไรก็ดี ในทางกลับกันหากราคาหลุด 3,321-3,300 ดอลลาร์ จะเสียโมเมนตัมในระยะสั้น และต้องระวังว่าราคาทองคำอาจสลับมาเข้าสู่ช่วงการพักตัวอีกครั้ง 

นอกจากนี้นักลงทุนยังสมารถลงทุนทองคำในตลาดฟิวเจอร์ส ซึ่งเป็นอีกหนึ่งทางเลือกในช่วงที่ราคาทองคำปรับตัวขึ้นมาอยู่ในระดับสูง เพราะใช้เงินลงทุนเพียง 10% ของราคาทองคำ และสามารถทำกำไรได้ทุกสภาวะตลาด โดยล่าสุดวายแอลจีได้ออกโปรโมชั่นสำหรับลูกค้าที่เปิดบัญชีกับ YLG Futures รับสิทธิ์ใช้งาน Trading View Essential Plan ที่จะมอบสิทธิพิเศษให้กับลูกค้า 5 ด้าน 1.กราฟและอินดิเคเตอร์ครบครัน รวมถึง Volume Profile 2.เครื่องมือวาดรูปและฟีเจอร์ทางเทคนิค 3.การแจ้งเตือนราคา 4.ไอเดียเทรดจากคอมมูนิตี้ 5.ไม่มีโฆษณาและอีกจำนวนมาก