ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ชี้ทรัมป์ขึ้นภาษีไทย สะเทือนส่งออก 4แสนล้าน

ล่าสุดศูนย์วิจัยกสิกรไทย เปิดเวทีแถลงเกี่ยวกับ Special Topic : "ไทยโดน Reciprocal Tariff ที่ 37% สร้างความเสี่ยงต่อไทยอย่างไร?"

โดย นางสาวณัฐพร ตรีรัตน์ศิริกุล รองกรรมการผู้จัดการ,นางสาวเกวลิน หวังพิชญสุข รองกรรมการผู้จัดการ ,น.ส.ธัญญลักษณ์ วัชระชัยสุรพล รองกรรมการผู้จัดการ,น.ส.กาญจนา โชคไพศาลศิลป์ ผู้บริหารงานวิจัย บริษัท ศูนย์วิจัยกสิกรไทย จำกัด 

โดยคาดการณ์ผลกระทบกรณีทรัมป์ ขึ้นกำแพงภาษีนำเข้ากับไทยที่ 37% เบื้องต้นกระทบต่อภาคการส่งออกของไทยราว 4 แสนล้านบาท ทั้งทางตรงและทามอ้อม ส่งผลให้คาดการณ์ส่งออกปีนี้ คาดติดลบที่ 0.5% จากเดิมที่ประมาณการณ์ 2.5%  

โดยกระทบทั้งการส่งออกไปสหรัฐ จากการที่ไทยเพิ่งพาตลาดส่งออกสหรัฐค่อนข้างสูง ขณะที่ไทยยังถูกผลกระทบทางอ้อมจากการส่งสินค้าไปตลาดอื่นๆ ทั้งในจีน และอาเซียน ญี่ปุ่น อียู ที่ถูกขึ้นกำแพงภาษีเช่นเดียวกันกัน 

ไม่เฉพาะส่งออกที่ไทยได้รับผลระทบ แต่จากแผ่นดินไหวที่ผ่านมา อาจทำให้นักท่องเที่ยวลดลงได้ โดยกสิกรไทย ปรับประมาณการณ์นักท่องเที่ยวเหลือเพียง 35.9 ล้านคน จาก 37.5 ล้านคน แม้ปรับลดลงแต่ยังสูงกว่าปีก่อนที่ 2% 

ดังนั้นในภาพรวม มองว่าปัจจุบันเศรษฐกิจไทยค่อนข้างเปราะบาง  ดังนั้นต้องเร่งดำเนินการ ทั้งการเจรจากับสหรัฐ และการปรับโครงสร้างเศรษฐกิจในภาคอุตสาหกรรมต่างๆ  
ซึ่งจากผลกระทบเบื้องต้น ทำให้

ศูนย์วิจัยกสิกรไทยคาดกระทบต่อเศรษฐกิจอยู่ที่ 1% ทำให้จีดีพีไทยปีนี้จะอยู่ที่ 1.4% จากประมาณการณ์เดิมที่ 2.4% ซึ่งผลกระทบที่จะเกิดขึ้น ขึ้นอยู่กับการเจรจากับสหรัฐซึ่งหากเจรจาล่าช้าผลกระทบก็อาจลงมากกว่า 1% ได้