มูลค่าสินทรัพย์ 'ตลาดเงิน' ทุบนิวไฮสามสัปดาห์ติดต่อกัน เก็งเฟดยังไม่ลดดอกเบี้ย
สำนักข่าวบลูมเบิร์ก (Bloomberg) รายงาน (15 มี.ค.) ว่า "มูลค่าสินทรัพย์กองทุนรวมตลาด" เงินปรับตัวสูงขึ้นสู่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์จากความคาดหวังว่าอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นของสหรัฐจะยังคงอยู่ในระดับสูงหลังจากที่นักลงทุนเริ่มลดการคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยภายในปีนี้
KEY
POINTS
- มูลค่าของสินทรัพย์กองทุนรวมตลาดเงินปรับตัวสูงขึ้นสู่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์สามสัปดาห์ติดต่อกัน
- เม็ดเงินกว่า 3.13 หมื่นล้านดอลลาร์ไหลเข้าสู่กองทุนตลาดเงินของสหรัฐในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา
- กองทุนรัฐบาล ซึ่งลงทุนในหลักทรัพย์ เช่น ตั๋วเงินคลังและสัญญามีสินทรัพย์เพิ่มขึ้นเป็น 4.97 ล้านล้านดอลลาร์
สำนักข่าวบลูมเบิร์ก (Bloomberg) รายงาน (15 มี.ค.) ว่า "มูลค่าสินทรัพย์กองทุนรวมตลาด" เงินปรับตัวสูงขึ้นสู่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์จากความคาดหวังว่าอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นของสหรัฐจะยังคงอยู่ในระดับสูงหลังจากที่นักลงทุนเริ่มลดการคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยภายในปีนี้
สำนักข่าวบลูมเบิร์ก (Bloomberg) รายงาน (15 มี.ค.) ว่า "มูลค่าสินทรัพย์กองทุนรวมตลาด" เงินปรับตัวสูงขึ้นสู่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์จากความคาดหวังว่าอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นของสหรัฐจะยังคงอยู่ในระดับสูงหลังจากที่นักลงทุนเริ่มลดการคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยภายในปีนี้
มูลค่าสินทรัพย์ในกองทุนตลาดเงินพุ่งสูงขึ้น
ตามข้อมูลของ Investment Company Institute พบว่า ตั้งแต่ต้นสัปดาห์จนถึงวันที่ 13 มี.ค. เม็ดเงินกว่า 3.13 หมื่นล้านดอลลาร์ไหลเข้าสู่กองทุนตลาดเงินของสหรัฐ โดยสินทรัพย์รวมเพิ่มขึ้นเป็น 6.108 ล้านล้านดอลลาร์จาก 6.077 ล้านล้านดอลลาร์ในสัปดาห์ก่อนหน้า
ในช่วง 6 สัปดาห์ที่ผ่านมา คณะกรรมการนโยบายทางการเงินใช้เวลาส่วนใหญ่ในการผลักดันความคาดหวังของตลาดเกี่ยวกับการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมนโยบายในสัปดาห์หน้า
ข้อมูลซึ่งรวบรวมโดยสำนักข่าวบลูมเบิร์ก เผยว่า กองทุนของรัฐบาล ซึ่งลงทุนในหลักทรัพย์ เช่น ตั๋วเงินคลังและ สัญญาซื้อคืน มีสินทรัพย์เพิ่มขึ้นเป็น 4.97 ล้านล้านดอลลาร์ ขณะที่กองทุนชั้นนําซึ่งมีแนวโน้มที่จะลงทุนในสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงสูง เช่น ตราสารเงินระยะสั้น (Commercial Paper) มีสินทรัพย์ลดลงเหลือ 1.016 ล้านล้านดอลลาร์ หรือลดลง 3.33 พันล้านดอลลาร์
ขณะที่นักลงทุนรายย่อยเริ่มเข้าลงทุนในกองทุนตลาดเงินมากขึ้นนับตั้งแต่เฟดเริ่มคุมเข้านโยบายทางการเงินมากขึ้นในเดือน ธ.ค. ปี 2565 ในขณะที่ปัจจุบันตลาดเริ่มมีความหวังว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยมากขึ้นในอนาคต
อ้างอิง
