แบงก์ชาติ เริ่มแก้หนี้เรื้อรัง 1 เม.ย. นี้

“อรมนต์ จันทพันธ์” ผู้อำนวยการ ฝ่ายคุ้มครองและตรวจสอบบริการทางการเงิน ธปท. กล่าวในงาน Media briefing แบงก์ชาติชวนคุย แก้หนี้ยั่งยืนว่า ตั้งแต่วันที่ 1เม.ย.67 นี้ ธปท.เตรียมยกระดับให้แบงก์เข้าไปช่วยเหลือลูกหนี้อย่างต่อเนื่อง ผ่านการช่วยเหลือลูกหนี้ ​“กลุ่มเรื้อรัง” Persistent Debt : PD ที่เป็นกลุ่มเปราะบาง ให้ได้รับการช่วยเหลือ และปิดจบหนี้ได้เร็วขึ้น ผ่านการลดดอกเบี้ย ให้ลูกหนี้กลุ่มเรื้อรังไม่เกิน 15% ต่อปี

โดยกำหนดกลุ่มที่เข้าไปแก้หนี้เรื้อรังคือ กลุ่มลูกหนี้ สินเชื่อส่วนบุคคล ภายใต้กำกับ ประเภทวงเงินหมุนเวียน (ไม่รวมสินเชื่อที่มีทะเบียนรถเป็นประกัน สินเชื่อส่วนบุคคลดิจิทัล และบัตรเครดิต เฉพาะลูกหนี้ดี ที่ยังไม่เป็นหนี้เสีย ตั้งแต่ลูกหนี้ที่เริ่มมีปัญหาเรื้อรัง ที่มีการชำระดอกเบี้ยรวมมามากกว่าเงินต้นเป็นระยะเวลานาน มาแล้วเกิน 3 ปี แต่ไม่เกิน 5 ปี และกลุ่มลูกหนี้ที่เรื้อรังไปแล้ว ที่จ่ายภาระดอกเบี้ยมากกว่าเงินต้น มาแล้ว 5 ปี

การเข้ามาช่วยเหลือลูกหนี้กลุ่มเปราะบาง ที่เป็นหนี้เรื้อรัง โดยเริ่มจากกลุ่มที่มีรายได้ ต่ำกว่า 10,000 บาทที่เป็นลูกหนี้นอนแบงก์ และรายได้ไม่เกิน 20,000 บาท สำหรับลูกหนี้สถาบันการเงิน เนื่องจาก ตั้งแต่โควิด-19 ที่ผ่านมา มีลูกหนี้จำนวนมาก ที่มีปัญหาในการชำระหนี้ ไม่เฉพาะลูกหนี้ที่เป็นหนี้เสียแล้ว แต่ยังมีอีกกลุ่ม ที่ยังเป็นหนี้เสีย แต่ไม่สามารถปิดจบหนี้ได้

นอกจากนี้ จากข้อมูลของ สำนักงานสถิติ พบว่า กลุ่มรายได้ไม่เกิน 10,000 บาท มีถึง 70% ของคนไทยทั่วประเทศ แบงก์ชาติจึงเริ่มช่วยเหลือกลุ่มเปราะบางกลุ่มนี้ก่อน และกลุ่มลูกหนี้ ไม่เกิน 20,000 บาทคือ ลูกหนี้ของสถาบันการเงิน ที่มีปัญหา

ทั้งนี้ หากมองไปในอนาคต แบงค์ชาติ อาจมีการทบทวนมาตรการอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้การช่วยเหลือมีความต่อเนื่องสำหรับลูกหนี้ได้มากขึ้น และครอบคลุมมากขึ้น เช่น อาจขยายกลุ่มรายได้ ที่เข้าข่ายหนี้เรื้อรัง หรือ อาจกำหนดกลุ่มเรื้อรัง ย้อนหลังไม่ถึง 5 ปี ก็สามารถเข้าโครงการได้

“เรามองว่า การเข้ามาแก้หนี้เรื้อรัง จะมีส่วนช่วยลูกหนี้อย่างมาก เช่น หากลูกหนี้กู้เงิน และมีเงินต้นอยู่ที่ 15,000 บาท หากปกติ ลูกหนี้จ่ายดอกเบี้ยอยู่ที่ 25% ต่อปี ลูกหนี้ต้องจ่ายดอกเบี้ย 29,000 บาท ไม่รวมเงินต้น และต้องใช้เวลาปิดหนี้ถึง 18 ปี ถึงจะปิดหนี้ได้ หากลูกหนี้จ่ายขั้นต่ำมาโดยตลอด แต่หากเข้าโครงการ ลูกหนี้จะจ่ายดอกเบี้ยลดลง โดยรวมดอกเบี้ย ที่ต้องจ่ายจะอยู่ที่ 2,500 บาท รวมเงินต้น จะอยู่เพียง 17,500 บาท เท่านั้น และสามารถปิดหนี้ได้ภายใน 5 ปี

พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์