มีลุ้น! ราคาทอง ทำออลไทม์ไฮแตะ 40,000 บาท ในครึ่งปีแรกปีนี้

มีลุ้น! ราคาทอง ทำออลไทม์ไฮแตะ 40,000 บาท ในครึ่งปีแรกปีนี้

ราคาทองคำพุ่งไม่หยุด YLG มองราคาทองในประเทศ ลุ้นเห็นแตะ 40,000 บาท ในครึ่งปีแรก ตามราคาทองคำโลก ทำจุดสูงสุดตลอดกาลอีกที่ 2,195 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ปรับขึ้นแล้ว 7.3 % จากต้นปี หลังอัตราว่างงานสหรัฐสูงกว่าคาด แนะทยอยขายทำกำไร หากไม่ผ่านแนวต้าน 2,195-2,200 ดอลลาร์ต่อออนซ์ 

ราคาทองวันนี้ (12 มี.ค.67)  พุ่งไม่หยุดทำออลไทม์ไฮ ขยับขึ้น 100 บาท  บาท ราคาทองรูปพรรณขาย 37,150 บาท ราคาทองแท่งขาย 36,650 บาท เป็นการปรับขึ้น 2 ครั้ง 100 บาทและ 50 บาท  ปรับลง 1 ครั้ง 50 บาท  

นางพวรรณ์ นววัฒนทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (YLG) กล่าวว่า  ส่วนราคาทองคำในประเทศนั้นมองว่ามีโอกาสถึง 40,000 บาทภายในครึ่งปีแรก ตามราคาทองคำในตลาดโลกได้ปรับตัวขึ้นทำจุดสูงสุดตลอดกาลอีกทั้งที่ 2,195 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ส่งผลให้นับจากต้นปีราคาทองคำปรับขึ้นมาแล้วกว่า 7.3 %

 

เป็นการปรับขึ้นมาครั้งนี้นอกจากจะมีปัจจัยพื้นฐานด้านนโยบายดอกเบี้ยที่เป็นที่แน่ชัดว่าปีนี้ต้องปรับลงแล้ว ยังได้รับแรงหนุนจากข่าวการประกาศตัวเลขอัตราการจ้างงานของสหรัฐ ล่าสุดที่มีอัตราการว่างงานที่ 3.9% สูงกว่ารอบก่อนและสูงกว่าคาดการณ์ที่ 3.7% จากความกังวลเรื่องอัตราการว่างงานดังกล่าวส่งผลให้ราคาทองคำปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่องราคายกระดับต่ำสุดและระดับสูงสุดแบบรายวัน บ่งชี้ว่ายังมีแรงซื้อเพิ่มขึ้นในระยะสั้น   

ขณะที่ภาพรวมระยะกลางสัญญาณยังเป็นบวก โดยในปีนี้แม้ราคาจะปรับขึ้นมามากแล้วแต่ YLG ยังคงให้เป้าหมายไว้ที่เดิมที่ 2,300 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่ได้ปรับมุมมองว่าราคาทองคำอาจไปถึงเป้าหมายได้เร็วขึ้น โดยอาจจะได้เห็นภายในครึ่งปีแรก ส่วนระยะยาว 2 – 3 ปี ทิศทางทองคำยังคงเป็นบวกต่อเนื่องตามทิศทางดอกเบี้ยที่คาดว่าจะเป็นทิศทางขาลงไปอีก 2 – 3 ปี

 

สำหรับระยะสั้นมีคำแนะนำ เก็งกำไรได้ โดยหาจังหวะเข้าซื้อเมื่อราคาปรับตัวลงและสามารถยืนเหนือโซนแนวรับ 2,169-2,163 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และแนะนำหาจังหวะตัดขาดทุน หากราคาหลุดแนวรับบริเวณ 2,144 ดอลลาร์สต่อออนซ์ 
ทยอยขายทำกำไรหากราคาไม่ผ่านแนวต้านบริเวณ 2,195-2,200 ดอลลาร์ต่อออนซ์ 

“ปีนี้ทองคำอาจเข้าถึงเป้าหมายเร็วขึ้น เนื่องจากปริมาณการซื้อขายทองคำปัจจุบันมาจากออนไลน์เพิ่มขึ้นอยากรวดเร็ว เฉพาะในประเทศไทยมีมูลค่าการซื้อขายมากกว่า 5 ล้านล้านบาท ต่อปี โดยมูลค่าการซื้อขายดังกล่าวมาจากทองคำกาย 35% และ 65% มาจากมูลค่าการซื้อขายทองคำดิจิทัลซึ่งเป็นการซื้อขายเพื่อการลงทุน ที่ตลาดทองคำได้พัฒนาระบบการซื้อขายบนบลอกเชน ทำให้สามารถเกิดความคล่องตัวในการซื้อในหน่วยที่เล็กมากเพียง 0.0001 กรัม หรือใช้เงินลงทุนเริ่มต้นเพียง 100 บาท” นางพวรรณ์ กล่าว