นักเศรษฐศาสตร์รางวัลโนเบล ‘พอล โรเมอร์’ ชี้ Free Trade ทำร้ายกลุ่มเปราะบาง
“พอล โรเมอร์” นักเศรษฐศาสตร์รางวัลโนเบลว่า รัฐบาลของโจ ไบเดน ต้องจำกัดการนำเข้าจากต่างประเทศ แต่ควรเพิ่มการดึงดูด “องค์ความรู้” จากต่างประเทศเข้ามาเพื่อพัฒนาประเทศแทน
KEY
POINTS
- “พอล โรเมอร์” ชี้รัฐบาลของโจ ไบเดน ต้องจำกัดการนำเข้าจากต่างประเทศ แต่ควรเพิ่มการดึงดูด “องค์ความรู้”
- วิธีการหนึ่งที่จะแยกแยะระหว่างกระแสความคิดที่เป็นประโยชน์กับสหรัฐกับการไหลเข้าของสินค้าคือการบังคับใช้นโยบายการค้าที่เหยี่ยวมากขึ้น
“พอล โรเมอร์” นักเศรษฐศาสตร์รางวัลโนเบลว่า รัฐบาลของโจ ไบเดน ต้องจำกัดการนำเข้าจากต่างประเทศ แต่ควรเพิ่มการดึงดูด “องค์ความรู้” จากต่างประเทศเข้ามาเพื่อพัฒนาประเทศแทน
สำนักข่าวบลูมเบิร์ก (Bloomberg) รายงาน (23 ก.พ.67) ถ้อยแถลงของพอล โรเมอร์ (Paul Romer) นักเศรษฐศาสตร์รางวัลโนเบล ว่า ผู้กําหนดนโยบายของสหรัฐจําเป็นต้องมีมุมมองที่ “แตกต่างออกไป” สำหรับประเด็นการค้าเพื่อปกป้องงาน และมาตรฐานการครองชีพของผู้ที่ถูกทิ้งไว้ข้างหลังโดยโลกาภิวัตน์ (Globalization)
ในขณะที่การลงทุนจากต่างประเทศ และกระแสการหลั่งไหลของความคิดจะมีความสำคัญในการผลักดันการเติบโต และนวัตกรรม ทว่ายังมีบทบาทภาษีศุลกากร และเงินอุดหนุนการค้าการซื้อขายและการผลิตที่มีความสำคัญในการยืนยันความสามารถในการแข่งขันของสหรัฐเช่นเดียวกัน
"เราต้องการส่งเสริมกระแสความคิดทั่วโลก [ให้เข้ามาในสหรัฐ] มากที่สุดเท่าที่จะทําได้ แต่เราไม่ต้องการกังวลนักเกี่ยวกับการไหลของสินค้าจากต่างประเทศ เพราะเราไม่ได้รับผลประโยชน์มากนักจากการค้าสินค้าเหล่านั้น" โรเมอร์ กล่าวกับ เดวิด เวสทิน (David Westin) ในบลูมเบิร์กทีวี พร้อมเสริมว่า
"การถ่ายทอดองค์ความรู้จากการลงทุนจากต่างประเทศสำคัญมากสำหรับการผลักดันเศรษฐกิจในระยะยาว"
โรเมอร์เน้นย้ำถึงผลกระทบต่อโอกาสในการทํางานสําหรับคนงานที่สําเร็จการศึกษาระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย พร้อมเตือนว่ามาตรฐานการครองชีพของพวกเขาลดลงอย่างต่อเนื่องจากโลกาภิวัตน์แบบเสรีที่เกิดขึ้นมานานหลายทศวรรษ
"นักเรียนมัธยมปลายกําลังจะตายขณะที่อายุยังน้อย พวกเขากําลังจะตายด้วยความสิ้นหวัง" โรเมอร์ ซึ่งเป็นศาสตราจารย์ด้านเศรษฐศาสตร์ที่วิทยาลัยบอสตันกล่าว พร้อมเสริมว่า
"สิ่งเหล่านี้เป็นตัวบ่งชี้พื้นฐานที่บอกเราว่าชีวิตไม่ดีขึ้น แต่กลับแย่ลงเรื่อยๆ สําหรับคนส่วนใหญ่ที่นี่ในสหรัฐอเมริกา"
โดยเขาเล่าว่า วิธีการหนึ่งที่จะแยกระหว่างกระแสความคิดที่เป็นประโยชน์กับสหรัฐกับการไหลเข้าของสินค้าคือ การบังคับใช้นโยบายการค้าที่เหยี่ยวมากขึ้น
ด้านบทวิเคราะห์ของบลูมเบิร์ก เผยว่า ความคิดเห็นของโรเมอร์มีขึ้นในขณะที่ประธานาธิบดีโจ ไบเดน (Joe Biden) ดําเนินนโยบายเชิงรุกผสมผสานภาษีการควบคุมการส่งออก และการสนับสนุนความพยายามที่จะเพิ่มการผลิตของสหรัฐโดยสานต่อนโยบายการค้าแบบเหยี่ยวที่ดําเนินการโดยอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ (Donald Trump) แนวทางดังกล่าวเป็นสิ่งจําเป็นเพื่อให้แน่ใจว่ารายได้จากการค้าจะกระจายอย่างเท่าเทียมกัน "เราต้องการเห็นทุกคนได้รับประโยชน์"
การลงทุนจากต่างประเทศมีความสําคัญต่อการส่งเสริมการถ่ายทอดความรู้ และความคิด โรเมอร์ กล่าว ฝ่ายบริหารของไบเดนกําลังตรวจสอบความเชื่อมโยงของ Nippon Steel Corp. กับจีนผู้คนที่คุ้นเคยกับเรื่องนี้กล่าวว่า อาจเป็นอุปสรรคสําหรับข้อตกลงที่ขัดแย้งทางการเมืองของยักษ์ใหญ่ญี่ปุ่นเพื่อซื้อกิจการ United States Steel Corp. คู่แข่งชาวอเมริกัน
"การลงทุนจากต่างประเทศเป็นมาตรวัดที่สําคัญที่สุดสําหรับการเคลื่อนย้ายความคิดทั่วโลก" พร้อมเสริมว่า มันคือบริษัทที่แบกแนวคิด และองค์ความรู้ไว้มหาศาล
อ้างอิง
พิสูจน์อักษร....สุรีย์ ศิลาวงษ์
