ดอลลาร์แข็งค่าดันบอนด์ยีลด์ 10 ปีสหรัฐทะลุ 4% หลังดอกเบี้ยอาจอยู่สูงอีกนาน

สำนักข่าวบลูมเบิร์ก (Bloomberg) รายงานวันนี้ (17 ม.ค.) ว่า ตลาดวอลล์สตรีท (Wall Street) เริ่มลดการคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (FED) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงจากการสังเกตการณ์ของการเก็งกำไรของนักลงทุนในตลาดหุ้นและพันธบัตร รวมทั้งท่าทีของเจ้าหน้าที่เฟด

โดยหุ้นปรับตัวลง ในขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาล (บอนด์ยีลด์) ปรับตัวขึ้นตามค่าเงินดอลลาร์ เนื่องจากคริสโตเฟอร์ วอลเลอร์ (Christopher Waller) ผู้ว่าการเฟด ออกมาค้านแน้วโน้มการปรับลดอัตราดอกเบี้ยมากถึง 6 ครั้งในปีนี้ ขณะที่วอลเลอร์ก็ไม่ได้มีท่าทีเหยี่ยวเสียทีเดียวแต่คําพูดของเขาก็ไม่ได้พิราบเช่นเดียวกัน

จากเหตุการณ์ครั้งนั้นกระตุ้นให้เกิดการปรับเทียบการเดิมพันอัตราดอกเบี้ยใหม่ โดยสแวปของเฟด (Fed Swap) แสดงให้เห็นถึงความน่าจะเป็นของการผ่อนคลายนโยบายทันทีที่เดือนมี.ค. 2567 นั้นลดลงเหลือประมาณ 65% จากเดิมเกือบ 80% 
 

วอลเลอร์กล่าวว่า เฟดควรใช้แนวทางที่ระมัดระวังเมื่อเริ่มปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง "ผมไม่เห็นเหตุผลที่เฟดจะเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วเหมือนในอดีต" พร้อมชี้ให้เห็นถึงแรงกระแทกทางเศรษฐกิจก่อนหน้านี้ที่ทําให้เกิดการปรับลดอัตราดอกเบี้ยอย่างรวดเร็ว 

"เรามองว่าความคิดเห็นของเขาคือไม่จําเป็นต้องรีบเร่งให้มีการปรับลดในเดือนมี.ค." กฤษณะ กูฮา (Krishna Guha) รองประธานของ Evercore ISI กล่าว
 

บอนด์ยีลด์อายุ 10 ปีพุ่งขึ้น 4% เงินดอลลาร์แข็งค่ามากที่สุดนับตั้งแต่เดือนมีนาคม และดัชนี S&P 500 ร่วงลง ขณะที่หุ้นของมอร์แกน สแตนลีย์ร่วงลงท่ามกลางคําเตือนเกี่ยวกับอัตรากําไรขั้นต้นที่ลดลงในความมั่งคั่ง ส่วนหุ้นของโกลด์แมน แซคส์ กรุ๊ป อิงค์ กลับปรับตัวขึ้นตามตัวเลขกําไรที่สูงกว่าประมาณการ

ด้านหุ้น Boeing Co. ดิ่งลงจากการปรับลดคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ Apple Inc. ร่วงลงเนื่องจากศาลฎีกาสหรัฐปฏิเสธที่จะพิจารณาคําอุทธรณ์ในคดีต่อต้านการผูกขาด

อ้างอิง

Bloomberg