ยอดบอนด์ LGFVs จีนจ่อครบกำหนดปี 67 กว่า 25 ล้านล้านบาท พุ่ง 13% จากปีก่อนหน้า

ยอดบอนด์ LGFVs จีนจ่อครบกำหนดปี 67 กว่า 25 ล้านล้านบาท พุ่ง 13% จากปีก่อนหน้า

"บลูมเบิร์ก" เผยปัจจุบันมีพันธบัตร LGFVs มูลค่า 4.65 ล้านล้านหยวน หรือ 6.51 แสนล้านดอลลาร์ (ประมาณ 24.087 ล้านล้านบาท) ที่จะครบกําหนดในอีก 12 เดือนข้างหน้า ซึ่งเป็นปริมาณที่สูงที่สุดเป็นประวัติการณ์ และมากกว่าปีที่แล้วประมาณ 13%

สำนักข่าวบลูมเบิร์ก (Bloomberg) รายงานวันนี้ (4 ม.ค.67) ว่า รัฐบาลท้องถิ่นจีนจำเป็นต้องจ่ายเงินเพื่อซื้อคืนพันธบัตรจาก LGFVs (Local Government Financing Vehicles) เครื่องมือทางการเงินของรัฐบาลท้องถิ่นที่ใช้เพื่อระดมทุนพัฒนาโครงการโครงสร้างพื้นฐานในประเทศ ซึ่งถือเป็นการทดสอบขีดจํากัดของรัฐบาลกลางว่าจะสามารถช่วยรัฐบาลท้องถิ่นรีไฟแนนซ์ และหลีกเลี่ยงการผิดนัดชําระหนี้ได้หรือไม่ 


โดยบลูมเบิร์ก เปิดเผยว่า ปัจจุบันมีพันธบัตร LGFVs มูลค่า 4.65 ล้านล้านหยวน หรือ 6.51 แสนล้านดอลลาร์ (ประมาณ 24.087 ล้านล้านบาท) ที่จะครบกําหนดในอีก 12 เดือนข้างหน้า ซึ่งเป็นปริมาณที่สูงที่สุดเป็นประวัติการณ์ และมากกว่าปีที่แล้วประมาณ 13%


"การควบคุมการติดเชื้อเครดิต และความเสี่ยงทางการเงินเชิงระบบจากภาค LGFVs ยังคงเป็นความสําคัญสูงสุดสําหรับรัฐบาลกลางในปีนี้" เซอร์ลีนา เซง (Zerlina Zeng) นักวิเคราะห์สินเชื่ออาวุโสของ Creditsights Inc. กล่าว
 

ที่ผ่านมารัฐบาลจีนออกมาตรการส่วนหนึ่งเพื่อบรรเทาปัญหาหนี้ในประเทศที่มีมาอย่างยาวนาน โดยให้มุมมองเชิงบวกแก่นักลงทุนที่มองหาสัญญาณความเสี่ยงทางการเงินจากมูลหนี้ที่เพิ่มสูงขึ้นดังกล่าว เมื่อปีที่แล้วทางการได้เปิดตัวโครงการมูลค่าอย่างน้อย 1 ล้านล้านหยวน เพื่อให้รัฐบาลท้องถิ่นสามารถสแวปหนี้ LGFVs บางส่วนเป็นพันธบัตรทางการที่มีอัตราดอกเบี้ยต่ำกว่า 

ในขณะที่แผนดังกล่าวครอบคลุมส่วนเล็กๆ ของหนี้ประมาณ 9 ล้านล้านดอลลาร์ ที่บริษัทเหล่านั้นคาดว่าจะถือครอง แต่รัฐบาลก็เห็นการชําระหนี้ ก่อนกําหนดเพิ่มขึ้นหลังจากการเปิดตัวมาตรการดังกล่าว


การเคลื่อนไหวของรัฐบาลจีนดูเหมือนจะช่วยบรรเทาความกังวลใจของนักลงทุนได้บ้าง อย่างน้อยก็ชั่วคราว เพราะการแพร่กระจายของพันธบัตร LGFVs ของจีนที่มีเรทติ้งส์ต่ำ (Low-rated Chinese LGFVs Notes) ลดลงสู่ระดับต่ำเป็นประวัติการณ์ในเดือนพ.ย.เพียงไม่กี่เดือนหลังจากโปรแกรมการแลกเปลี่ยนหนี้เริ่มขึ้น
 

ในขณะที่แผนดังกล่าวครอบคลุมส่วนเล็กๆ ของหนี้ประมาณ 9 ล้านล้านดอลลาร์ที่ บริษัท เหล่านั้นคาดว่าจะถือครอง แต่รัฐบาลก็เห็นการชําระหนี้ก่อนกําหนดเพิ่มขึ้นหลังจากการเปิดตัวมาตรการดังกล่าว

อ้างอิง

Bloomberg 

พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์