'หุ้นเอเชีย' เปิดบวก อานิสงส์ตลาดดาวโจนส์ปิดพุ่ง หวังเฟดหยุดขึ้นดอกเบี้ย

'หุ้นเอเชีย' เปิดบวก อานิสงส์ตลาดดาวโจนส์ปิดพุ่ง หวังเฟดหยุดขึ้นดอกเบี้ย

ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวขึ้นในวันนี้ (6 พ.ย.66) เคลื่อนไหวตามดัชนีดาวโจนส์ของตลาดหุ้นสหรัฐที่ปรับตัวขึ้นกว่า 200 จุดเมื่อวันศุกร์ (3 พ.ย.66) ได้แรงหนุนจากความคาดหวังเฟดอาจหยุดขึ้นอัตราดอกเบี้ย หลังสหรัฐเผยตัวเลขจ้างงานต่ำกว่าคาด

ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวขึ้นในวันนี้ (6 พ.ย.66) โดยเคลื่อนไหวตามทิศทางดัชนีดาวโจนส์ของตลาดหุ้นสหรัฐที่ปรับตัวขึ้นเมื่อวันศุกร์ (3 พ.ย.66) โดยได้แรงหนุนจากการที่นักลงทุนคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจจะยุติวงจรการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย หลังสหรัฐเปิดเผยตัวเลขจ้างงานต่ำกว่าคาด

โดยดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กพุ่งขึ้นกว่า 200 จุดเมื่อวันศุกร์ ขานรับการคาดการณ์ที่ว่าเฟดอาจจะยุติวงจรการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย หลังจากกระทรวงแรงงานสหรัฐเผยตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้นเพียง 150,000 ตำแหน่งในเดือนต.ค. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบเกือบ 3 ปี และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ระดับ 188,000 ตำแหน่ง

อานิสงส์ดัชนีดาวโจนส์ปิดพุ่ง

ทำให้หุ้นเอเชียขยับขึ้นติดต่อกันเป็นวันที่ 4  เนื่องจากนักลงทุนให้ความเชื่อมั่นว่าเข้าใกล้จุดสูงสุดของการปรับขึ้นดอกเบี้ยของเฟด โดยเคลื่อนไหวทั้ง 4 ตลาดดังนี้ (เวลา 10.00 น.)

  • ดัชนีนิกเคอิตลาดหุ้นโตเกียว อยู่ที่ระดับ 32,720.52 จุด เพิ่มขึ้น 770.63 จุด หรือ +2.41% หลังจากเพิ่มขึ้น 3.1% เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ขณะที่นักลงทุนจับตาการเปิดเผยตัวเลขกิจกรรมธุรกิจขั้นสุดท้ายของญี่ปุ่นสำหรับเดือนต.ค.จาก Jibun Bank ในวันนี้
  • ดัชนีตลาดหุ้นเกาหลีใต้ อยู่ที่ระดับ 2,461.59 เพิ่มขึ้น 93.25 หรือ +3.94% หลังจากที่เกาหลีใต้สั่งห้ามขายชอร์ตหุ้นจนถึงเดือนมิ.ย.ปีหน้า หวังสร้างความเป็นธรรมในตลาด
  • ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกง อยู่ที่ระดับ 18,020.84 จุด เพิ่มขึ้น 356.72 จุด หรือ +2.02%
  • ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีน อยู่ที่ระดับ 3,054.34 จุด เพิ่มขึ้น 23.54 จุด หรือ +0.78%

หลังจากที่ไฉซิน และเอสแอนด์พี โกลบอลเปิดเผยผลสำรวจในวันศุกร์ (3 พ.ย.66) โดยระบุว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการของจีนปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 50.4 ในเดือนต.ค. จากระดับ 50.2 ในเดือนก.ย. โดยดัชนีที่สูงกว่าระดับ 50 บ่งชี้ว่าภาคบริการของจีนมีการขยายตัว

ทั้งนี้นักลงทุนจับตาข้อมูลเศรษฐกิจจีนในสัปดาห์นี้ โดยในวันพรุ่งนี้ (7 พ.ย.66) สำนักงานศุลกากรจีนจะเปิดเผยยอดนำเข้า, ส่งออก และดุลการค้าเดือนต.ค. ส่วนในวันพฤหัสบดี (9 พ.ย.66) สำนักงานสถิติแห่งชาติจีนจะเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนต.ค. และดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนต.ค.

นักวิเคราะห์คาดเฟดลดดอกเบี้ยสู่ระดับ 3-3.25%

บรูซ คาสมาน (Bruce Kasman) หัวหน้าฝ่ายวิจัยเศรษฐกิจของ JPMorgan กล่าวว่า ตัวเลขการผลิตที่เพิ่มขึ้น ซึ่งดีกว่าตลาดคาดการณ์อาจเป็นปัจจัยบวกให้ธนาคารกลางสหรัฐอาจยุติการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย

ด้านนักวิเคราะห์จากธนาคารเนชันนัล เวสต์มินสเตอร์ มองว่าการปรับลดอัตราดอกเบี้ยจาก Fed, ECB และ BoE เกิดขึ้นเร็วกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้เล็กน้อย โดยในช่วงแรกๆ นโยบายการเงินมีแนวโน้มที่จะเข้มงวดมากขึ้น

คาดว่าดอกเบี้ยนโยบายของเฟด(FED)จะลดลงสู่ระดับ 3-3.25%, อัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางยุโรป (ECB) จะลดลงเหลือ 3% และอัตราดอกเบี้ยของธนาคารอังกฤษ (BOE) จะลดลงสู่ 4.25% ภายในสิ้นปี 2567

อ้างอิง reuters bloomberg 

พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์