สหรัฐออกแผนกู้เงิน Q4/66 ต่ำคาด 28.8 ล้านล้านบาท ขณะที่กูรูคาดไว้ 29.6 ล้านล้านบาท
“รัฐบาลสหรัฐ” เตรียมปรับลดเม็ดเงินกู้ยืมในไตรมาสสุดท้ายของปี 2566 เหลือ 7.76 แสนล้านดอลลาร์ (ประมาณ 28.8 ล้านล้านบาท) ซึ่งน้อยกว่าคาดการณ์ของวอลล์สตรีทที่ 8 แสนล้านดอลลาร์ (ประมาณ 29.6 ล้านล้านบาท)
สำนักข่าวซีเอ็นบีซี (CNBC) รายงานวันนี้ (31 ต.ค.66) ว่า รัฐบาลสหรัฐเตรียมปรับลดเม็ดเงินกู้ยืมในไตรมาสสุดท้ายของปี 2566 เมื่อเปรียบเทียบกับไตรมาสก่อนหน้าซึ่งนักวิเคราะห์ส่วนหนึ่งประเมินว่าอาจถือเป็นพัฒนาการที่สำคัญในช่วงเวลาที่ตลาดตราสารหนี้ทั่วโลกปั่นป่วน
โดยกระทรวงการคลังของสหรัฐออกแถลงการณ์เมื่อวานนี้ว่า มีแผนกู้ยืมเงิน 7.76 แสนล้านดอลลาร์ (ประมาณ 28.8 ล้านล้านบาท) ซึ่งสูงสุดเป็นประวัติการณ์หากเปรียบเทียบเม็ดเงินกู้ยืมในไตรมาสที่ 4 ตั้งแต่อดีตเป็นต้นมา
อย่างไรก็ตาม ยอดการกู้ยืมตามประกาศดังกล่าวน้อยกว่าเม็ดเงินกู้ในช่วงเดือนก.ค. ถึงก.ย. ที่ผ่านมา ซึ่งกระทรวงฯ กู้ยืมเงินภาคเอกชนผ่านสินทรัพย์ที่เปลี่ยนเป็นเงินสดได้ (Privately Held Marketable Debt)
ด้านบทวิเคราะห์ของสำนักข่าวซีเอ็นบีซี ระบุว่า
ระดับการกู้ยืมดูเหมือนจะต่ำกว่าการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์จากวอลล์สตรีท (Wall Street) ซึ่งคาดว่าจะอยู่ประมาณ 8 แสนล้านดอลลาร์ (ประมาณ 29.6 ล้านล้านบาท)
ขณะที่กระทรวงฯ ประกาศเพิ่มเติมว่าอาจกู้เงินเพื่อใช้จ่ายในรัฐบาลช่วงเดือนม.ค. ถึงมี.ค. ที่ 8.16 แสนล้านดอลลาร์ (ประมาณ 30.2 ล้านล้านบาท) โดยประกาศทั้งหมดออกมาประมาณ 10 วันหลังจากทำเนียบขาวชี้แจงว่าจะขาดดุลงบประมาณราว 1.7 ล้านล้านดอลลาร์ (ประมาณ 63 ล้านล้านบาท) ในปี 2566
อ้างอิง
พิสูจน์อักษร....สุรีย์ ศิลาวงษ์
