‘จิตตะ เวลธ์’ มองหุ้นเวียดนาม พีอีถูก-ยีลด์โตเด่น55%ในช่วง3ปี

‘จิตตะ เวลธ์’ มองหุ้นเวียดนาม พีอีถูก-ยีลด์โตเด่น55%ในช่วง3ปี

บลจ.จิตตะ เวลธ์ ชี้ตลาดหุ้นเวียดนาม ราคาหุ้นยังถูก พี/อี แค่ 15 เท่า ชี้เศรษฐกิจโตดี  ปัญหาอสังหาริมทรัพย์คลี่คลาย เผยผลตอบแทนย้อนหลังกองทุนส่วนบุคคล Jitta Ranking เวียดนามสูงถึง 55.44% ในช่วง3 ปี

นายตราวุทธิ์ เหลืองสมบูรณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บลจ.จิตตะ เวลธ์ จำกัด เปิดเผยว่า ตลาดหุ้นเวียดนามเป็นหนึ่งในตลาดตลาดที่น่าลงทุนในช่วงนี้ โดยจะเห็นได้ว่าตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมาดัชนีเวียดนามปรับตัวเพิ่มขึ้นแล้วราว 10.5%  สะท้อนความสนใจของนักลงทุนที่มีต่อประเทศเวียดนาม จากราคาหุ้นเวียดนามขณะนี้ถือว่ายังไม่สูงมากนัก โดย P/E อยู่ที่ 15-16 เท่ายังต่ำกว่าค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 10 ปี

ปัจจัยสนับสนุนหลักมาจากการขยายตัวทางเศรษฐกิจที่ในปีนี้คาดว่า GDP ของประเทศเวียดนามมีโอกาสที่จะขยายตัวอยู่ที่ 6%  โดยจะต้องจับตาเศรษฐกิจจากไตรมาส 4 เป็นหลัก โดยเฉพาะอัตราการฟื้นตัวของการผลิตภาคอุตสาหกรรม อุปสงค์ของสินค้าเวียดนามจากตลาดส่งออก และการท่องเที่ยวภายในประเทศซึ่งเวียดนาม มีจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่มาเยือนเวียดนามเพิ่มขึ้น 144.1% เมื่อเทียบกับปี 2565 เป็น 1.05 ล้านคนในเดือนกันยายน2566 หลังจากเพิ่มขึ้น 150.3% ในเดือนสิงหาคม

“หากเทียบกับตลาดหุ้นไทย เวลานี้ต้องยอมรับว่าเวียดนามมีเสน่ห์กว่ามาก  ทั้งในแง่การขยายตัวทางเศรษฐกิจที่เห็นชัดเจน ขณะที่ราคาหุ้นเวียดนามยังถูก ”

‘จิตตะ เวลธ์’ มองหุ้นเวียดนาม พีอีถูก-ยีลด์โตเด่น55%ในช่วง3ปี

นายตราวุทธิ์  กล่าวว่า ด้านวิกฤตอสังหาริมทรัพย์ ปัจจุบันสถานการณ์คลี่คลายค่อนข้างมากแล้ว บริษัทอสังหาริมทรัพย์ได้รับการขยายระยะเวลาการชำระหนี้ออกไป 12-24 เดือน ในขณะที่รัฐบาลพยายามเพิ่มอุปสงค์ในตลาดด้วยโครงการ Social Housing เพิ่มวงเงินกู้ดอกเบี้ยพิเศษมูลค่ากว่า120 ล้านล้านดอง หรือ ประมาณ 1.8 แสนล้านบาท เพิ่มสภาพคล่องให้กับภาคอสังหาริมทรัพย์อย่างมีนัยสำคัญ 

กระทรวงการก่อสร้างของเวียดนามกำลังร่วมมือกับภาคส่วนอื่นๆเช่นกระทรวงการคลังและธนาคารกลางเวียดนามSBV เพื่อร่างแผนสร้างอาคารสงเคราะห์มากกว่า 1 ล้านห้องสำหรับคนงานและผู้มีรายได้น้อยภายในปี 2573 จะเห็นได้ว่าช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา ตลาดตอบสนองเชิงบวก หุ้นอสังหาริมทรัพย์ปรับเพิ่มขึ้น

ตั้งแต่ช่วงต้นปี ธนาคารกลางเวียดนาม (State Bank of Vietnam: SBV) ได้มีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยต่างๆ เช่นดอกเบี้ยการ Refinance ลงมาที่ระดับ 4.5% และ Discount rate (อัตราดอกเบี้ยการกู้ยืมสำหรับธนาคารกลางและธนาคารพาณิชย์) ลงมาอยู่ที่ 3% และดอกเบี้ยการกู้ยืมระหว่างธนาคารลงมาอยู่ที่ระดับ 5% เพื่อหวังที่จะกระตุ้นให้มีการกู้ยืมมากขึ้นในภาคธุรกิจของเวียดนามโดยมีเป้าที่จะทำการลดดอกเบี้ยลงอีก 0.5% ในเดือนที่เหลือของปี 2023 นี้

ทั้งนี้ เวียดนามมีการเติบโตที่โดดเด่นในระยะยาวจากปัจจัยด้านจำนวนประชากรที่เกือบ 100 ล้านคน มีแรงงานอยู่ในวัยหนุ่มสาวเป็นจำนวนมาก โดยมีประชากรที่อายุต่ำกว่า 60 ปี มากถึง 92% เมื่อ

นอกจากนี้ยังมีปัจจัยสนับสนุนจากเม็ดเงินลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) ที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง บริษัทดังระดับโลกอย่าง Samsung Apple หรือ Xiaomi ต่างพาเหรดกันเข้าไปลงทุนในเวียดนาม ด้านการค้าก็มีการทำข้อตกลงเขตการค้าเสรี (FTA) กับประเทศสำคัญทั่วโลก  ปัจจัยเหล่านี้จะช่วยให้เวียดนามสามารถเติบโตได้ในระยะยาว รวมไปถึงภาคเทคโนโลยีที่ปัจจุบันเวียดนามกลายเป็นฐานการผลิตสินค้าเทคโนโลยีที่สำคัญของโลกไปแล้ว เช่น Apple หรือ Foxconn

ในส่วนของจิตตะ เวลธ์เอง มีนโยบายลงทุนในกองทุนส่วนบุคคล Jitta Ranking เวียดนาม ซึ่งก็จะเห็นได้ว่า 3 ปีที่ผ่านมาสามารถผลตอบแทน ได้สูงถึง 55.44% ชนะผลตอบแทนของดัชนี VN Index ย้อนหลัง 3 ปี ที่อยู่ที่ 24%