กรมศุลกากรยอมรับขายนาฬิกาปลอมจริงพร้อมชดใช้ค่าเสียหาย

กรมศุลกากรยอมรับขายนาฬิกาปลอมจริงพร้อมชดใช้ค่าเสียหาย

กรมศุลกากรยอมรับขายทอดตลาดนาฬิกาปลอมจริง ขอโทษผู้ประมูล และ ยอมชดใช้ค่าเสียหาย พร้อมตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงเร็วสุดภายใน 15 วัน

วันนี้ (10 กรกฎาคม 2566) เวลา 13.30 น. นายพันธ์ทอง ลอยกุลนันท์ ที่ปรึกษาด้านการพัฒนาและบริหารการจัดเก็บภาษี ในฐานะโฆษกกรมศุลกากร เปิดเผยว่า จากที่มีการเสนอข่าวเกี่ยวกับการประมูลนาฬิกาจากกรมศุลกากร ภายหลังพบว่าเป็นนาฬิกาปลอมเครื่องหมายการค้า

กรมศุลกากรได้ตรวจสอบข้อมูลดังกล่าว มีข้อเท็จจริงดังนี้ เมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม 2565 เจ้าหน้าที่กรมศุลกากรได้เข้าตรวจค้นร้านขายนาฬิกาบริเวณศูนย์การค้า Siam Square One พบนาฬิกามีเครื่องหมายการค้า จำนวน 14 รายการ 

ทั้งนี้ ได้เชิญเจ้าของสิทธิ์มาตรวจสอบ พบว่า มีจำนวน 1 เรือน เป็นสินค้าปลอมเครื่องหมายการค้า และอีก13 เรือน เป็นของที่ถูกต้องตามลิขสิทธิ์ ดังนั้น กรมศุลกากร จึงนำ 13 เรือน และได้ประกาศขายทอดตลาดใน

วันที่ 28 มิถุนายน 2566 โดยเปิดให้เข้าชมของกลาง 

วันที่ 5 กรกฎาคม 2566 และเปิดซองการประมูล 

วันที่ 6 กรกฎาคม 2566 มีผู้เข้าร่วมการประมูลทั้งสิ้น 18 ราย 

หลังจากได้รับข้อมูลจากผู้ประมูลว่านาฬิกาที่มีการประมูลจากกรมศุลกากรเป็นสินค้าปลอมเครื่องหมายการค้า กรมศุลกากรจึงได้ดำเนินการตรวจสอบทันที

ในวันนี้ (10 กรกฎาคม 2566) ได้เชิญเจ้าของสิทธิ์มาหารืออีกครั้ง เจ้าของสิทธิ์แจ้งว่า นาฬิกาทั้งหมดที่ได้ประมูล วันที่ 6 กรกฎาคม 2566 เป็นสินค้าปลอมเครื่องหมายการค้า

กรมศุลกากรจึงออกคำสั่งยกเลิกการประมูลและให้คืนเงินให้กับผู้เข้าร่วมประมูลทั้งหมด โดยครั้งนี้จะคืนเงินแก่ผู้เสียหายประมาณ 5 ล้านบาท ในส่วนของกรมศุลกากรจะตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงอย่างเร่งด่วนต่อไป หรือ เร็วสุดภายใน 15 วัน

ทั้งนี้ กรมศุลกากรจึงขออภัยสำหรับความผิดพลาดที่เกิดขึ้นและจะดำเนินการอย่างรอบคอบในการประมูลสินค้า ครั้งต่อไป 

“กรมศุลกากร กราบขออภัยสำหรับความผิดพลาดที่เกิดขึ้นและจะดำเนินการอย่างรอบคอบในการประมูลสินค้าครั้งต่อไป พร้อมจะทบทวนและปรับปรุงกระบวนการประมูลสินค้าของกลางที่ยึดมาได้ทั้งหมด เพื่อลบคำครหาว่า กรมศุลฯมีการเปลี่ยนของจริงเป็นของปลอมแล้วนำออกมาประมูล เพราะหากกระทำเช่นนี้ ทำให้ภาพลักษณ์ของกรมศุลฯเสียหายมาก ดังนั้น ต้องหาวิธีดำเนินการเพื่อให้เกิดความโปร่งใสมากที่สุด”