หุ้นจีนรับข่าวดี ส่งสัญญาณฟื้นตัว Alibaba ปรับกลยุทธ์แบ่ง 6 ธุรกิจ เตรียม IPO

ในช่วงปี 2022 ที่ผ่านมา ถึงแม้หลายประเทศจะผ่อนคลายมาตรการควบคุม COVID-19 โดยการเปิดเมือง แต่จีนยังคงเป็นประเทศที่ยังใช้มาตรการ Zero-Covid ซึ่งเป็นปัจจัยหลักกดดัน เศรษฐกิจจีน ในช่วงปีที่ผ่านมา รวมถึงคาดว่าจะส่งผลต่อผลการดำเนินงานของบริษัทในจีนอีกด้วย อย่างไรก็ดี ล่าสุดผลการดำเนินงานไตรมาส 4 ของบริษัทในจีนประกาศออกมาหลายบริษัท งบออกมาดีกว่าที่นักวิเคราะห์คาด โดยมีบริษัทในแต่ละกลุ่ม ดังต่อไปนี้

งบกลุ่มบริษัทเทคฯ ขนาดใหญ่ในจีน

Meituan - คาดได้ประโยชน์เต็มที่จากการเปิดประเทศของจีน

Meituan ประกาศผลการดำเนินงานไตรมาส 4 ปี 2022 ดีกว่าที่ตลาดคาดมาก โดยรายได้เติบโต 21.4% จากปีก่อนหน้า รายได้รวมอยู่ที่ 6.01 หมื่นล้านหยวน (8.76 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้ที่ 5.79 หมื่นล้านหยวน 

รายได้ของบริษัทฯ ไตรมาสนี้เติบโตมาจากธุรกิจขนส่งอาหารและธุรกิจขนส่งทั่วไปที่เติบโตมากขึ้น 56.8% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ขณะที่รายได้ในธุรกิจการรับจองโรงแรมและธุรกิจที่เกี่ยวกับการท่องเที่ยวอื่นๆ ยังปรับตัวลดลงจากมาตรการป้องกัน COVID-19 ในจีนที่ยังเข้มงวดในไตรมาส 4 อย่างไรก็ดี นาย Wang Xing CEO ระบุว่า ในช่วงเดือน ม.ค. - ก.พ. ที่ผ่านมา ได้เห็นแนวโน้มการฟื้นตัวของธุรกิจการท่องเที่ยวที่ชัดเจนมากขึ้นหลังจากการเปิดประเทศ

นักวิเคราะห์มองว่า รายได้ที่เติบโตได้ดีโดดเด่นในไตรมาสที่ผ่านมา แสดงให้เห็นถึงความสามารถในการแข่งขันที่อยู่ยังในระดับสูงของ Meituan ถึงแม้ระยะหลังจะมีผู้ประกอบการรายใหม่เข้ามาในตลาดจำนวนมาก 

Tencent - ควบคุมค่าใช้จ่าย ช่วยอัตรากำไรขั้นต้น (margin) เพิ่มขึ้น 

Tencent ประกาศผลการดำเนินงานไตรมาสที่ 4 ปี 2022 ดีกว่าที่คาด โดยมีกำไรอยู่ที่ 106.3 พันล้านหยวน (15.4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) เพิ่มขึ้น 12% จากช่วงไตรมาสเดียวกันของปีก่อน โดยเป็นผลมาจากการลดค่าใช้จ่ายของบริษัทฯ รวมถึงกำไรพิเศษจากการขายหุ้นบริษัท Meituan ที่ Tencent ถือครองอยู่มูลค่า 106.6 พันล้านหยวน

ด้านรายได้อยู่ที่ 145 พันล้านหยวน กลับมาเพิ่มขึ้น 1% หลังจากที่ก่อนหน้านี้รายได้ปรับลงมา 2 ไตรมาสติดต่อกัน โดยรายได้ที่ออกมาใกล้เคียงกับที่ตลาดคาด 

ส่วนกำไรทั้งปี 2022 ของ Tencent อยู่ที่ 188.2 พันล้านหยวน ลดลง 16% แต่ออกมาดีกว่าที่ตลาดคาดที่ 113.7 พันล้านหยวน ด้านรายได้รวมทั้งปีอยู่ที่ 554.6 พันล้านหยวน ปรับตัวลดลง 1% จากปี 2021 ซึ่งถือเป็นครั้งแรกที่รายได้ทั้งปีของ Tencent หดตัวลงจากปีก่อน อย่างไรก็ดีตัวเลขยังออกมาดีกว่าที่คาดที่ 554.2 พันล้านหยวน

Alibaba - แบ่งธุรกิจใหม่ 6 กลุ่ม ด้าน market cap ยังต่ำกว่าหุ้นเทคโนโลยีสหรัฐ

Alibaba ได้มีการประกาศผลประกอบการปี 2022 ไปแล้วในช่วงปลายเดือนก.พ. โดยผลการดำเนินงานออกมาดีกว่าตลาดคาด ทั้งในส่วนของรายได้และกำไร โดยบริษัทฯ มีรายได้อยู่ที่ 248 พันล้านหยวน ดีกว่าที่ตลาดคาด และเพิ่มขึ้นจากปีก่อน 2% ขณะที่บริษัทฯ มีกำไรอยู่ที่ 46.8 พันล้านหยวน มากกว่าที่ตลาดคาด และเพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้า 69% 

ในช่วงกลางสัปดาห์ บริษัทฯ ได้มีการประกาศปรับโครงสร้างบริษัทครั้งใหญ่ โดยบริษัทฯ จะทำการแบ่งธุรกิจออกเป็น 6 กลุ่ม ได้แก่

1. Cloud Intelligence Group ดูแลธุรกิจ Cloud และ AI
2. Taobao Tmall Commerce Group ดูแลธุรกิจ Platform ช้อปปิ้งออนไลน์ ซึ่งรวมถึง Taobao และ Tmall
3. Local Services Group ธุรกิจ Delivery อาหาร
4. Cainiao Smart Logistics ดูแลธุรกิจ Logistic
5. Global Digital Commerce Group ดูแลธุรกิจ E-commerce ระหว่างประเทศ ซึ่งรวมถึง AliExpress และ Lazada
6. Digital Media and Entertainment Group ดูแลธุรกิจสตรีมมิ่งและภาพยนตร์

หลังจากที่มีการแบ่งกลุ่มธุรกิจ ทั้ง 6 ธุรกิจ จะมีฝ่ายบริหารของตนเอง และสามารถทำการระดมทุน รวมถึงมีโอกาสเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ได้ โดยในการปรับโครงสร้างบริษัทฯ ในครั้งนี้มีเป้าหมายเพื่อเพิ่มมูลค่าของผู้ถือหุ้น และเพิ่มความสามารถของการแข่งขันในตลาด

ด้านนักวิเคราะห์มีมุมมองในเชิงบวก โดยมองว่า ความเคลื่อนไหวดังกล่าวจะช่วยลดแรงกดดันจากประเด็นการคุมเข้มของรัฐบาลได้ เนื่องจากเป็นสิ่งที่สอดคล้องกับความต้องการของรัฐบาลจีนที่ต้องการให้มีการกระจายการบริหาร เพื่อลดการผูกขาดที่มากจนเกินไป นอกจากนี้ยังมองว่าการเปิดโอกาสให้แต่ละธุรกิจทำ IPO ได้เอง โดยล่าสุดบริษัทฯ เตรียมนำบริษัท Cainiao ซึ่งทำธุรกิจ Logistic เข้าจดทะเบียนในตลาดหุ้นฮ่องกง เป็นส่งสัญญาณของ Alibaba ว่ากำลังจะกลับมามีบทบาทในตลาดการเงินอีกครั้ง

นอกจากนี้นักวิเคราะห์บางแห่งมีความเห็นว่า Alibaba ปัจจุบันมูลค่าต่ำกว่าที่ควรจะเป็น โดย Alibaba เคยมีมูลค่าถึง 800 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ก่อนที่จะปรับตัวลดลงอยู่ที่ราว 260 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งการปรับโครงสร้างโดยแบ่งหน่วยธุรกิจในครั้งนี้จะส่งผลให้มูลค่าบริษัท หรือ Market cap ของบริษัทสูงขึ้น โดยหลังจากที่บริษัทฯ ได้มีการประกาศปรับโครงสร้าง ราคาหุ้นก็ได้มีการปรับตัวเพิ่มขึ้น

งบบริษัทรถยนต์ไฟฟ้าในจีน

Geely - ตั้งเป้ายอดขายปี 2023 เพิ่ม 18%

Geely ประกาศผลการดำเนินงานปี 2022 รายได้เติบโต 45.6% เมื่อเทียบกับปีก่อน โดยบริษัทฯ มีรายได้อยู่ที่ 148 พันล้านหยวน (21.49 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) ดีกว่านักวิเคราะห์คาด ขณะที่กำไรเติบโตขึ้น 8.5% เมื่อเทียบกับปีก่อน หรืออยู่ที่ 5.26 พันล้านหยวน โดยการเติบโตในครั้งนี้ หนุนจากรถยนต์กลุ่ม พลังงานสะอาด และ รถยนต์ไฟฟ้า ที่มียอดขายเติบโตถึง 300% หรือขายออกไปได้ราวๆ 328,000 คัน ในปี 2022

ด้านนาย Daniel Li CEO ของ Geely ระบุว่า การฟื้นตัวของการเงินและการปฏิบัติการภายในบริษัทฯ เป็นไปได้ด้วยดี แม้ว่าจะมีอุปสรรคจากปัจจัยภายนอก ทำให้ปี 2022 ขายรถยนต์รวมทุกประเภทเพิ่มขึ้น 8% หรือ 1.4 ล้านคัน ซึ่งมากกว่าที่ทางการจีนได้คาดการณ์ไว้ว่าอุตสาหกรรมรถยนต์จะมีจำนวนยอดขายรถยนต์มากขึ้น 5% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า สะท้อนว่าบริษัทฯ มีความสามารถในการทำการตลาดได้อย่างดีท่ามกลางอุปสรรคที่เกิดขึ้นแทบทั้งปี

โดยในปี 2023 บริษัทฯ ตั้งเป้าจำนวนยอดขายเติบโตที่ 1.65 ล้านคัน หรือ 17.8% ซึ่งบริษัทฯ มองว่าอุตสาหกรรมยานยนต์ของจีนจะฟื้นตัวได้ดีหลังจากเปิดประเทศ นอกจากนี้ CEO มีระบุว่า การเสนอขายหุ้น IPO ในสหรัฐภายใต้ชื่อ "Zeekr" ซึ่งเป็นแบรนด์ EV กำลังอยู่ในกระบวนการ สะท้อนว่า Geely ยังไม่ล้มเลิกแผนขยายธุรกิจ EV ไปยังสหรัฐ แม้ว่าแผนนี้จะถูกพูดถึงตั้งแต่ปี 2020

BYD - กำไรปี 2022 โตเป็นประวัติการณ์ 

BYD บริษัทผลิตรถยนต์ไฟฟ้าสัญชาติจีนประกาศผลการดำเนินงานออกมากำไรโตมากที่สุดเป็นประวัติการณ์ โดยกำไรในไตรมาสสุดท้ายของปี 2022 ออกมาที่ 7.3 พันล้านหยวน (1.06 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) ในส่วนของรายได้บริษัทฯ เติบโต 106% สู่ระดับ 156.4 พันล้านหยวน หลังจากยอดส่งมอบรถยนต์เติบโตได้ถึง 156.7% อยู่ที่ 683,440 คัน

ขณะที่ด้านกำไรทั้งปี 2022 อยู่ที่ 166.2 พันล้านหยวน เติบโตถึง 446% จากปีก่อนหน้า โดย BYD ขายรถยนต์ไฟฟ้า และ plug-in hybrid 1.8 ล้านคัน ในปี 2022 มากกว่ายอดขายของบริษัท 4 ปีก่อนหน้ารวมกัน และคิดเป็นสัดส่วนยอดขายราว 30% ของรถยนต์พลังงานสะอาดในจีน โดยปัจจุบันบริษัทได้หยุดรายการผลิตรถยนต์สันดาปไปแล้ว

ถึงแม้ว่าในช่วงปี 2022 จีนจะใช้มาตรการ Zero-COVID แต่ผลการดำเนินงานของหลายบริษัทก็ยังคงเติบโตได้อย่างแข็งแกร่ง และดีกว่าที่นักวิเคราะห์คาด ดังนั้นเราจึงเชื่อว่าหลังจากที่จีนเปิดเมืองในเดือน ม.ค. 2023 นี้ จะหนุนผลการดำเนินงานบริษัทจีนให้ดียิ่งขึ้น ส่วนหนึ่งจากที่ เศรษฐกิจจีน ฟื้นตัวขึ้น

ที่มา : Bloomberg, CNBC, Caixin Global และ Reuters

ข้อมูล บทความ บทวิเคราะห์และการคาดหมาย รวมทั้งการแสดงความคิดเห็นทั้งหลายที่ปรากฏอยู่ในรายงานฉบับนี้ทำขึ้นบนพื้นฐานของแหล่งข้อมูลที่ดีที่สุดที่ได้รับมาและพิจารณาแล้วเห็นว่า น่าเชื่อถือ แต่ทั้งนี้ไม่อาจรับรองความถูกต้อง ความสมบูรณ์ แท้จริงของข้อมูลดังกล่าว ความเห็นที่แสดงไว้ในรายงานฉบับนี้ได้มาจากการพิจารณาโดยเหมาะสมและรอบคอบแล้ว และอาจเปลี่ยนแปลงได้โดยไม่จำเป็นต้องแจ้งล่วงหน้าแต่อย่างใด บทความ บทวิเคราะห์ และการคาดหมายทั้งหลายที่ปรากฏ อยู่ในรายงานฉบับนี้เป็นการนำไปใช้โดยผู้ใช้ยอมรับความเสี่ยงและเป็นดุลยพินิจของผู้ใช้แต่เพียงผู้เดียว

ติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ บลจ.ทิสโก้ หรือ TISCO Contact Center โทร. 0 2633 6000 กด 4, 0 2080 6000 กด 4 และ tiscoasset หรือแอปพลิเคชัน TISCO My Funds