กรุงไทย จ่อขึ้น ‘ดอกเบี้ย’ ตามกลไกตลาด ย้ำติดตามกลุ่มเปราะบางใกล้ชิด

กรุงไทย จ่อขึ้น ‘ดอกเบี้ย’ ตามกลไกตลาด ย้ำติดตามกลุ่มเปราะบางใกล้ชิด

‘ผยง’ กรุงไทย ชี้ การพิจารณาขึ้นดอกเบี้ย จำเป็นต้องดูกลไกตลาด ชี้มติเอกฉันท์ กนง.7 ต่อ 0 สะท้อนความต้องการให้ส่งผ่านต้นทุนสู่ระบบ ย้ำต้องดูแลกลุ่มเปราะบางใกล้ชิด

     นายผยง ศรีวณิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงไทย กล่าวว่า การปรับขึ้นดอกเบี้ยของ กนง.ครั้งนี้ ถือเป็นมติเอกฉันท์ที่ 7ต่อ 0 สะท้อนความต้องการส่งผ่านดอกเบี้ยไปสู่ระบบการเงิน

       ซึ่งการพิจารณาในการปรับขึ้นดอกเบี้ยของธนาคาร ต้องพิจารณาตามกลไกตลาด หากตลาดปรับขึ้นดอกเบี้ยธนาคารก็ต้องปรับดอกเบี้ยขึ้นเช่นกัน เพราะอีกด้านมีสภาพคล่องที่ธนาคารต้องบริหารจัดการ 

       ทั้งนี้ การพิจารณาดอกเบี้ย จำเป็นต้องพิจารณาทั้งสองขา ทั้งดอกเบี้ยเงินกู้ และเงินฝาก 

      อย่างไรก็ตาม การพิจารณาดอกเบี้ยเงินกู้ อีกด้านธนาคารต้องคำนึงถึง ผลกระทบของกลุ่มเปราะบาง เพราะความเปราะบางของระบบยังคงมีอยู่ และซ่อนอยู่

     ในหลายเซกเม้นท์  โดยเฉพาะรายย่อย และธุรกิจ ที่พึ่งพาสินเชื่อบุคคล หรือพีโลน เพื่อใช้หมุนเวียนในระบบ เหล่านี้มาจากการฟื้นตัวไม่ทั่วถึงของระบบเศรษฐกิจ ดังนั้นธนาคารจำเป็นต้องดูแลกลุ่มเปราะบางของตัวเองซึ่งเป็นตัวที่สำคัญ

     ‘ การพิจารณาเกี่ยวกับดอกเบี้ย ธนาคารต้องดูกลไกตลาด เพราะ กนง.มติที่ออกมา7 ต่อ 0 สะท้อนความต้องการในการส่งผ่านดอกเบี้ยไปสู่ระบบ แต่การพิจารณาเรื่องดอกเบี้ย ต้องทำควบคู่กับการเฝ้าดูเพราะผลกระทบต่อกลุ่มเปราะบาง ที่ยังมีอยู่ ดังนั้นในมุมกรุงไทยจำเป็นต้องดูกลไกตลาด ซึ่งหากตลาดปรับดอกเบี้ยขึ้นธนาคารก็คงต้องปรับขึ้นตาม ก็ต้องส่งผ่านเพราะสภาพคล่องเป็นเรื่องที่ต้องบริหารจัดการเพราะจะเกี่ยวข้องกับการไหลของเงิน”

       ส่วนการขึ้นดอกเบี้ยนั้น จะเป็นอัตราใดนั้น ธนาคารจำเป็นต้องไปดูถึงรายได้ของภาคธุรกิจของครัวเรือนว่าทยอยขึ้นตามหรือไม่ โดยเฉพาะรายได้ที่มาจากการทำมาหากินการขายของต่างๆ ซึ่ง ที่จำเป็นต้องนำมาพิจารณาในการขึ้นของดอกเบี้ยของธนาคาร ในระดับที่เหมาะสม 

       แต่การปรับขึ้นดอกเบี้ย ธนาคารมองว่า ลูกค้ารายใหญ่ก็จะมีภูมิคุ้มกันสามารถปรับตัวมากกว่ารายเล็ก

       สำหรับเสถียรของระบบธนาคารไทยนั่นมีความแข็งแรง จากการมีบทเรียนของต้มยำกุ้งปี 2540 ทำให้หน่วยงานกำกับการเงินให้ความสำคัญมาก จะเห็นระดับเงินกองทุนของสถาบันการเงินแต่ละแห่งอยู่ในระดับสูงมาก 

       และยังเห็นความเข้มงวดของหน่วยงานกำกับฯ โดยเฉพาะเรื่องของคริปโทฯ หรือสินทรัพย์ใหม่ที่ธปท.กำหนดกฎเกณฑ์มาให้ ว่าสามารถลงทุนได้ แต่ได้ในสัดส่วนน้อยมาก และต้องสอดคล้องกับเงินกองทุนฯของธนาคารนั้นๆ ด้วยทำให้เห็นความเข้มงวดที่ ธปท.มีต่อสถาบันการเงินที่ส่งต่อจากที่อื่น ทำให้เป็นจุดที่ทำให้นักลงทุนมั่นใจได้

 

 

พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์