โฆษกกรมสรรพากรยอมรับเครื่องปรับอากาศเสียจริง แต่อยู่ในช่วงการประกัน 5 ปี

โฆษกกรมสรรพากรยอมรับเครื่องปรับอากาศเสียจริง แต่อยู่ในช่วงการประกัน 5 ปี

โฆษกกรมสรรพากรเผย กรมฯ ใช้งบเปลี่ยนเครื่องปรับอากาศในมูลค่า 200 ล้านบาท แต่ต่ำกว่าราคากลางที่ตั้งไว้ถึง 100 ล้านบาท ชี้ผู้ชนะประมูลมีประสบการณ์ตามกฎหมายกำหนด ยอมรับขณะนี้เครื่องปรับอากาศเสียจริง แต่เสียเพียงบางตัว และอยู่ในช่วงการประกัน 5 ปี

นายวินิจ วิเศษสุวรรณภูมิ รองอธิบดีกรมสรรพากร ในฐานะโฆษกกรมสรรพากร ได้ชี้แจงกรณีมีสื่อออนไลน์ออกมาระบุว่า กรมสรรพากรได้ทำการปรับเปลี่ยนแอร์มูลค่า 200 ล้าน แต่ขณะนี้ กรมฯ ต้องเปิดใช้พัดลมแทนว่า ในการเปิดประมูลแอร์ของกรมสรรพากรนั้น เริ่มดำเนินการช่วงปี 2560 และมีการตรวจรับในช่วงปี 2561 โดยกรมฯ ได้เปิดให้มีการประมูล ตั้งราคากลางอยู่ที่ 300 ล้านบาท มีบริษัทที่มีคุณสมบัติครบตามเงื่อนไขได้เข้ามาประกวดราคาแบบอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งผู้ที่ชนะการประมูลเสนอราคาต่ำกว่าราคากลาง โดยอยู่ที่ประมาณ 190 ล้านบาท และกรมฯ ก็ได้มีการตรวจรับอย่างถูกต้อง

“กรมสรรพากรตั้งราคา 300 ล้านบาท แต่ได้มาในราคาเกือบ 200 ล้านบาท จากการดำเนินการประกวดราคาแบบอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งถือเป็นราคาที่ต่ำมาก และบริษัทที่ชนะการประมูลก็มีประสบการณ์โดยตรง ไม่ได้ให้บริการที่กรมฯ เป็นที่แรก และมีประสบการณ์ตามที่กฎหมายกำหนด และบริษัทก็เข้ามาด้วยการชนะการประมูล”

ทั้งนี้ ปัจจุบันแอร์ยังอยู่ในการรับประกันตามสัญญา โดยระยะประกันนาน 5 ปี ที่ผ่านมาที่แอร์เสียก็มีการปรับซ่อมไป และขณะนี้ก็อยู่ในกระบวนการแจ้งให้มาดำเนินการ ระหว่างนี้ กรมฯ ก็พยายามช่วยแก้ไขปัญหากันภายใน ซึ่งบริษัทผู้ชนะการประมูลก็จะมีการเข้ามาแก้ปัญหาเหมือนที่ผ่านมา

“ขณะนี้ ยังอยู่ในช่วงการรับประกัน ก็มีแอร์ที่เสียไปบ้าง ทางบริษัทก็ส่งช่างเข้ามาซ่อมบำรุง ทั้งนี้ ตามปกติแล้ว เมื่อสิ้นสุดเวลาเลิกงาน ทางกรมฯ ก็จะปิดการใช้แอร์ เพื่อประหยัดพลังงาน หรือหากว่า ต้องเข้ามาทำงานในช่วงวันหยุด กรมฯ ก็ไม่อนุญาตให้เปิดแอร์ ดังนั้น ทางเจ้าหน้าที่ก็ต้องใช้พัดลมแทนแอร์”

 

 

พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์