“พรรคชาติไทยพัฒนา”เสนอจัดหมวดหมู่กฎหมายหนุนธุรกิจตลาดทุน

“พรรคชาติไทยพัฒนา”เสนอจัดหมวดหมู่กฎหมายหนุนธุรกิจตลาดทุน

พรรคชาติไทยพัฒนาเปิด 3 มิตินโยบายพัฒนาเศรษฐกิจ คือ สร้างโอกาสคนฐานราก ปรับโครงสร้างเศรษฐกิจ และ จัดลำดับความสำคัญในการพัฒนาเศรษฐกิจ ยันไม่เน้นนโยบายประชานิยมไร้เหตุผล พร้อมเสนอจัดหมวดหมู่กฎหมายหนุนธุรกิจตลาดทุน

นายสันติ กีระนันทน์ กรรมการนโยบายและยุทธศาสตร์ พรรคชาติไทยพัฒนา กล่าวถึงวิสัยทัศน์"นโยบายขับเคลื่อนเศรษฐกิจและตลาดทุนไทย ภายใต้รัฐบาลหลังการเลือกตั้ง"ซึ่งจัดโดยสภาธุรกิจตลาดทุนไทย(FETCO)โดยกล่าวว่า อันดับแรกพรรคเราไม่เชื่อเรื่องการนำนโยบายประชานิยมมาใช้โดยไร้เหตุผล เรื่องลดแลกแจกแถม ใครอยากเสนอตัวเลขเท่าไหร่ไม่ได้ยากเย็น แต่ทำแล้วจะเป็นอย่างไร เรียนว่า ทำแล้วมีผลกระทบด้านลบแน่ คือ ภาระทางการคลังเกิดขึ้นโดยไม่สร้างผลิตภาพ ทั้งยังสร้างความคาดหวังให้แก่ประชาชนในทางที่ผิด 

ทั้งนี้ พรรคมีข้อเสนอด้านนโยบายใน 3 มิติที่นำเสนอ คือ สร้างโอกาสให้คนฐานราก เพื่อสร้างรากฐานที่เข้มแข็งให้ประเทศ มิติที่สอง คือ โครงสร้างเศรษฐกิจไทยเป็นโครงสร้างแบบโบราณ ต้องปรับใหม่ และมิติที่สาม เราหลงและทำให้การเดินนโยบายเศรษฐกิจมหภาคผิดที่ผิดทาง ต้องปรับลำดับความสำคัญใหม่

สำหรับมิติแรก คือ การเพิ่มโอกาสให้คนฐานรากนั้น ปัจจุบันมีทั้งเกษตรกรและเอสเอ็มอีรวมกว่า 50 ล้านคน ซึ่งเป็นคนกลุ่มใหญ่ของประเทศ ถ้าไม่ดูแลคนกลุ่มนี้ รากฐานของประเทศมีปัญหาแน่ ซึ่งการดูแล คือต้องเพิ่มโอกาสการเข้าถึงแหล่งทุน โอกาสทำมาหากินที่มีมูลค่าเพิ่ม โอกาสสร้างรายได้เสริม ทั้งนี้ แบงก์รัฐต้องให้การสนับสนุนให้เป็นธนาคารเพื่อการพัฒนา กองทุนหมู่บ้านต้องเปลี่ยนเป็นวิสาหกิจหมู่บ้านระบบสหกรณ์ต้องฟื้นฟู หนุนBCGเน้นที่ฐานราก หนุนให้ตลาดทุนนำคาร์บอนเครดิตมาซื้อขายเพิ่มมูลค่าให้ประเทศ

มิติที่สอง คือ การปรับโครงสร้างเศรษฐกิจ ที่ผ่านมา จะเห็นว่า ธุรกิจท่องเที่ยวเราพึ่งพาเกือบ 1 ใน 4 ของปัจจัยภายนอก เมื่อเกิดโควิด จึงเกิดผลกระทบ ดังนั้น เราต้องมุ่งส่งเสริมธุรกิจในภาคอื่นด้วย โดยนำดิจิทัลเข้ามาช่วย 

มิติที่สาม คือ การจัดลำดับความสำคัญของเศรษฐกิจใหม่ ที่ผ่านมา เราเน้นจีดีพี ยิ่งเน้นที่จีดีพี ยิ่งทำให้เกิดปัญหาความเหลื่อมล้ำมากขึ้น ดังนั้น เราต้องแก้ปัญหาที่ความเหลื่อมล้ำ เมื่อเราเน้นที่จีดีพี เราอัดมาตรการกระตุ้น คนที่ได้ คือ คนชั้นกลางขึ้นไป ถ้าปรับใหม่ให้ความสำคัญเรื่องความเหลื่อมล้ำ การปรับโครงสร้างเศรษฐกิจทุกอย่างจะทำให้โครงสร้างทั้งหมดแข็งแรงขึ้น

สำหรับนโยบายในการพัฒนาตลาดทุนนั้น เขากล่าวว่า ปัจจุบันตลาดทุนเราเป็นเครื่องมือทางการเงินที่หลากหลายมาก ขณะที่ การบังคับใช้กฎหมายยังไม่มีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะในเรื่องตลาดเงิน ซึ่งมีกฎหมายเกี่ยวข้องจำนวนมาก และมีปัญหามาก ดังนั้น ต้องสังคยา ซึ่งพรรคอยากเสนอให้กฎหมายมาจัดหมวดหมู่ให้เป็นคอมเมอร์เชียลมากขึ้น นอกจากนี้ การดำเนินนโยบายเกี่ยวกับเอสเซสพลัสเหมาะสมหรือไม่ ซึ่งตลาดเงินตลาดทุนต้องทำให้เกิดความชัดเจน และ ท้ายที่สุด การเติบโตของตลาดที่สูง แต่องค์ประกอบบริษัทจดทะเบียนยังเป็นธุรกิจเก่า ซึ่งเราอยากเห็นนิวอิโคโนมีมากขึ้น เสนอว่า การนำตลาดทุนไปช่วยคนตัวเล็กไม่ใช่การเปิดบอร์ดที่ 3 แต่เป็นเรื่องที่การสนับสนุนให้เกิดการเวนเจอร์แคป โดยรัฐบาลต้องให้แรงจูงใจ ถ้าเวนเจอร์ขาดทุนต้องหักค่าใช้จ่ายได้ 2 เท่า เป็นต้น